บินไกลไปหาหมอ…แล้วหมอไทยไม่เก่งจริงหรือ?
คืนวันที่ 4 กันยายน ข่าวใหญ่สะเทือนจอ: คุณทักษิณ อดีตนายกฯ โพสต์เองว่าเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปหาหมอที่คุ้นเคยในสิงคโปร์ แต่ถูก ตม. ไทยถ่วงเวลา จนเครื่องลงสนามบินไม่ทัน สุดท้ายเลยเปลี่ยนเส้นทางไปดูไบ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ามีหมอประจำอยู่แล้ว แถมยังถือโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันสองปี
ฟังดูเป็น “เหตุผลทางเทคนิค” แต่สำหรับคนทั่วไป มันก็คันปากถามต่อว่า…นี่เป็นเรื่องหมอจริง ๆ หรือเป็นเพียง ข้ออ้าง ที่เปิดทางไปทำอย่างอื่นด้วย?
ทันทีที่ข่าวโผล่ คำถามคลาสสิกก็ดังขึ้น “หมอไทยไม่เก่งเหรอ?” หรือ “โรงพยาบาลบ้านเราไม่หรูพอหรือยังไง?”
ถ้ามองให้กว้าง จะเห็นว่าประเทศไทยถูกยกย่องว่าเป็น Medical Hub ของเอเชียมานานแล้ว หมอไทยไม่ใช่แค่เก่ง แต่มีผลงานระดับโลก โรงพยาบาลก็หรูหราราวรีสอร์ตห้าดาว การบริการใส่ใจจนคนไข้ต่างชาติรู้สึกเหมือนมาพักผ่อนมากกว่ามาหาหมอ
ในฐานะ Medical Hubสิ่งที่ทำให้เมืองไทยโดดเด่นจนคนต่างชาติต้องบินมา:
-
มาตรฐานระดับสากล: โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งผ่านการรับรองจากองค์กรนานาชาติ
-
ฝีมือแพทย์: มีทั้งรางวัล งานวิจัย และชื่อเสียงที่ยืนยันบนเวทีโลก
-
เทคโนโลยีทันสมัย: ตั้งแต่หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบ AI ไปจนถึง AR/VR ใช้วางแผนการผ่าตัด
-
ค่ารักษาสมเหตุสมผล: เมื่อเทียบคุณภาพแล้ว ยังถูกกว่าสหรัฐฯ หรือยุโรปหลายเท่า
-
บริการอบอุ่น: มีล่าม ศูนย์ผู้ป่วยต่างชาติ ทีมช่วยเรื่องวีซ่าและที่พัก
กลุ่มที่บินมาหาหมอไทยบ่อยที่สุดคือเศรษฐีจากตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียตะวันออก พวกเขามักเลือกบริการอย่าง:
-
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
-
รักษาโรคซับซ้อน เช่น หัวใจ มะเร็ง หรือกระดูก
-
ศัลยกรรมความงามและการผ่าตัดแปลงเพศ
-
การรักษาภาวะมีบุตรยาก (IVF)
-
ทันตกรรมและจักษุแพทย์คุณภาพสูง
หลายอย่างไม่ใช่แค่ “รักษาโรค” แต่คือการสร้างคุณภาพชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย
ไทยไม่ได้หยุดที่การตามมาตรฐาน แต่ยังคิดค้นของตัวเอง เช่น รากฟันเทียมผลิตในประเทศ ที่ผู้ป่วยในระบบบัตรทองก็เข้าถึงได้, การแพทย์แม่นยำเฉพาะบุคคล, การผ่าตัดแผลเล็กที่ฟื้นตัวเร็ว หรือแม้แต่แพลตฟอร์ม AI ช่วยวินิจฉัย
แพทย์ไทยหลายคนยังคว้ารางวัลจากเวทีโลก—ไม่ว่าจะเป็นงานควบคุมบุหรี่ งานป้องกันตาบอดจากเบาหวาน ไปจนถึงนวัตกรรมเลเซอร์รักษาผมร่วง สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า ไทยไม่ได้เก่งแค่ในบ้าน แต่เป็นที่ยอมรับระดับโลกจริง
เมื่อมองจากมุม Medical Hub แล้ว ประเทศไทยมีศักยภาพทางการแพทย์ที่ยืนยันได้ทั้งผลงาน รางวัล เทคโนโลยี และความเชื่อมั่นจากคนไข้ต่างชาติ
ส่วนกรณีคุณทักษิณ จะเป็นเพียง “การไปหาหมอ” ตามที่เจ้าตัวบอก หรือเป็นอย่างอื่นมากกว่านั้น…อันนี้คงต้องปล่อยให้คนอ่านลองชั่งใจเอาเอง
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ถ้าใครถามว่า “หมอไทยเก่งหรือเปล่า?”
คำตอบสั้น ๆ เลยคือ: เก่งจนเศรษฐีจากทั่วโลกยังยอมบินมาเอง
แล้วคุณล่ะ…เชื่อคำพูด หรือเชื่อภาพที่เห็น?

















