หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กระหึ่มโลกเมื่อฟิลิปปินส์ประกาศไม่ต้องการเป็น“ลูกไล่”(A little brown brother)ของอเมริกาอีกต่อไป คำพูดดูถูกเหยียดหยามนี้เป็นมาอย่างไร

โพสท์โดย dominiqa

นายร้อดริโก้ ดูเตอร์เต้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

ประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ประกาศชัดเจนไม่ต้องการ เป็น“ลูกไล่”ของอเมริกาอีกต่อไป เริ่มจากด่าทูตสหรัฐประจำมะนิลาเป็นเกย์และลูก...(son of a whore) ตามด้วยด่าบารัค โอบามาว่าเป็น“ลูก...” (son of a bitch)

จากนั้นประกาศขับไล่ทหารอเมริกันออกจากเกาะมินดาเนา สั่งให้รัฐมนตรีกลาโหมพิจารณาซื้ออาวุธจากจีนและรัสเซียแทนซื้อจากสหรัฐ  ล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์บอกว่าสหรัฐอย่าคิดว่าฟิลิปปินส์ เป็น“ลูกไล่”(A little brown brother)ของอเมริกา แสดงให้เห็นว่าฟิลิปปินส์ต้องการสลัดแอกออกจากสหรัฐแท้จริง 

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2016 ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ (the Center for Strategic and International Studies = CSIS) แห่งกรุงวอชิงตันดีซีได้เชิญนายเพอร์เฟคโต้ ยาเซย์ จูเนียร์ (Perfecto Yasay, Jr.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐไปพูดในโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อให้ผู้ ฟังได้ซักถามเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีร้อดริโก้ ดูเตอร์เต้ ที่มีต่อภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

นายเพอร์เฟคโต้ ยาเซย์ จูเนียร์ ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อ วันที่ 30 มิถุนายน 2016  ก่อนหน้านี้เคยเป็นประธานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ระหว่างปี 1995-2000 ภายใต้ประธานาธิบดีฟิเดล วี. รามอส  พื้นฐานของนายยาเซย์เป็นนักกฎหมายเชี่ยวชาญในกฎหมายองค์กร(corporate law )และกฎหมายตลาดหลักทรัพย์

คาดว่าหลังจากพูดที่วอชิงตันดีซีแล้วเขาจะเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปีองค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เหมือนประเทศสมาชิก UN อื่นๆที่ทยอยเดินทางไปประชุมในช่วงเดือนกันยายน

นายยาเซย์เปิดฉากด้วยการเตือนว่าสหรัฐจะต้องไม่มองฟิลิปปินส์เหมือนเป็นลูกไล่ (a little brown brother)ของสหรัฐอยู่ร่ำไปและจะต้องไม่มาเลกเชอร์เรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย  ผม อยากจะขอร้องเพื่อนอเมริกัน,ผู้นำอเมริกัน มองเห็นปณิธานของเรา เราไม่อาจเป็นลูกไล่ (น้องคนเล็ก)ของอเมริกา....เราจะต้องพัฒนาประเทศ เราจะต้องเติบโตและกลายมาเป็นพี่ใหญ่ในหมู่ประชาชนของเราเอง 

คุณจะต้องแก้ไขให้ถูกต้อง คุณไม่จำเป็นต้องไปฟิลิปปินส์แล้วก็พูดว่า ผมจะให้บางอย่างแก่คุณ ผมจะช่วยให้คุณเติบโต เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุณจะต้องรับฟังและทำตาม....เราจะเลกเชอร์คุณเรื่องสิทธิมนุษยชน สำนักข่าวรอยเตอร์โค้ดคำพูดของนายยาเซย์

ยาเซย์กล่าวว่ารัฐบาลกรุงมะนิลายึดมั่นในพันธะที่จะเป็นมิตรกับอเมริกาในระยะยาว แต่จะไม่ยอมให้ใครมาสอนเรื่องสิทธิมนุษยชนรวมทั้งจะ​

ไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์ถูกปฏิบัติราวกับเป็น ลูกไล่ หรือเป็นน้องคนเล็กของสหรัฐฯในเอเชีย

ประเด็นที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้โมโหก็คือนโยบายของเขา จะปราบปรามกลุ่มค้ายาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม เหมือนที่เขาเคยทำมาอย่างสงบราบคาบในเมืองดาเวาที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีมา นานกว่า 20 ปี  แต่เมื่อเขาลงมือทำก็ถูกสหรัฐอเมริกา,องค์การสหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษย ชนออกมากล่าวประณามว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการทำวิสามัญฆาตกรรม ดูเตอร์เต้ตอบกลับว่าไปห่วงอะไรกับคนค้ายาเสพติด ทำไมไม่ห่วงประชาชนที่ถูกยาเสพติดฆ่าไปมากมาย

หลายองค์กรเป็นห่วงเรื่องสิทธิมนุษยชนมากกว่าเรื่องการระบาดของยาเสพติด ดังนี้

หน่วยงาน UNODC ด้านยาเสพติดของ สหประชาชาติ กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากมาตรการของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สร้างความกังวลอย่าง มาก และเจ้าหน้าที่สหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนเคยเรียกร้องให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ และตำรวจยุติการทำวิสามัญฆาตกรรม

กลุ่ม Human Rights Watch ทำงาน ด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่ารู้สึกตระหนกเมื่อเห็นการใช้อำนาจในทางที่ผิดของตำรวจฟิลิปปินส์ เพราะตำรวจไม่ได้ทำตามแนวทางการปฏิบัติขั้นพื้นฐาน เช่น ออกหมายจับ หรือหมายค้นตามที่ควรจะเป็น  ขณะที่ตำรวจฟิลิปปินส์โต้กลับข้อกล่าวหานี้ว่า หากมีเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุจะถูกสอบสวน

นโยบายของฟิลิปปินส์ที่นายดูเตอร์เต้และนายยาเซย์กล่าวพอสรุปได้ว่า

1.ต้องการรักษาสถานะพันธมิตรกับอเมริกา รวมถึงกับประเทศอื่นๆ

2.ฟิลิปปินส์ต้องการรักษาความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับ สหรัฐฯ แต่ไม่ต้องการเข้าร่วมการซ้อมลาดตระเวนกับอเมริกาในน่านน้ำของทะเลจีนใต้ ที่มีความขัดแย้งกับจีน

3.ฟิลิปปินส์ไม่ต้องการให้สหรัฐมาสั่งสอนเรื่องสิทธิมนุษยชน (เพราไม่ใช่ธุระ)

4.สหรัฐอาจถูกห้ามไม่ให้เข้าไปใช้ฐานทัพในฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันสหรัฐเข้าได้ถึง 5 แห่งตามสัญญาที่ลงนามกันไปเมื่อปี 2014 สมัยที่นายอากีโนเป็นประธานาธิบดี

กรณีนี้อาจเป็นเพราะในช่วงปี 1898-1946  ฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคมของสหรัฐฯ แม้ว่าจะประกาศเอกราชแล้วก็ตาม สหรัฐยังถือวิสาสะใน ฐานะเป็นประเทศเมืองขึ้นมาก่อนจะกระทำการอันใด รัฐบาลฟิลิปปินส์ในอดีตก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาคัดค้านหรือลุกขึ้นหือ  สหรัฐเองจึงยังมองว่าฟิลิปปินส์เป็นน้องคนเล็กหรือนัยยะของคนไทยก็คือเป็นลูกไล่ของตนอยู่ร่ำไป

 

คราวนี้มาดูคำว่า little brown brother เป็นมาอย่างไร

คำนี้เป็นคำแสลงที่คนอเมริกันใช้กับคนฟิลิปปินส์ในช่วง ที่สหรัฐเข้าครอบครองเป็นอาณานิคมระหว่างปีค.ศ.1898-1946 หลังจากมีการทำสนธิสัญญาปารีสระหว่างสเปนกับสหรัฐ (สเปนเป็นเจ้าอาณานิคมฟิลิปปินส์มาก่อน)และหลังสงครามสหรัฐ-ฟิลิปปินส์ 

คำพูด little brown brother เป็นคำพูดของนายวิลเลียม ฮาวเวิร์ด ทาฟท์ (William Howard Taft) ผู้ว่าการทั่วไปฟิลิปปินส์คนแรกหรือผู้ปกครองอาณานิคมระหว่างปี 1901-1904 ต่อมานายทาฟท์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 27 คำพูดนี้เป็นเหมือนการ“ดูถูกเหยียดหยาม”คนฟิลิปปินส์โดยตรง ความหมายของนายทาฟท์ได้รับการอธิบายในหนังสือ Benevolent Assimilation ระบุ ว่า นายทาฟท์ให้ความมั่นใจกับประธานาธิบดีแมคคินลีย์(ประธานาธิบดีสหรัฐสมัย นั้น) ว่าน้องชายคนเล็กผิวสีน้ำตาลคนนี้ต้องการให้เราเข้าปกครองระหว่าง 50 ถึง 100 ปีเพื่อที่จะได้พัฒนาพื้นฐานทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและให้มีทักษะทาง การเมือง (Anglo-Saxon political principles and skills) ทำให้ทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในฟิลิปปินส์ตอบรับคำพูดนี้ด้วยความยินดี 

เมื่อปี 1961 หนังสือชื่อ Little Brown Brother กล่าวถึงสหรัฐเข้าครอบครองฟิลิปปินส์ด้วยการซื้อหมู่เกาะนี้ครบรอบ 100 ปี ต่อมาในปี 1962 หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัล Francis Parkman Prize โดยสมาคมประวัติศาสตร์อเมริกันว่าเป็นหนังสือดีที่สุดเล่มหนึ่งในแง่ของการเขียนบันทึกประวัติศาสตร์อเมริกัน

ในปี 2001 หนังสือฉบับปรับปรุงได้เพิ่มเติมความโหดร้ายและป่าเถื่อนที่ทหารอเมริกันได้ กระทำต่อชาวฟิลิปปินส์ในช่วงสงครามฟิลิปปินส์-สหรัฐ ดังที่นายดูเตอร์เต้ได้นำภาพความป่าเถื่อนที่ทหารอเมริกันสังหารชาวมุสลิม ฟิลิปปินส์แล้วขุดหลุมฝังรวมกันโดยมีทหารอเมริกันยืนดูอยู่รอบๆปากหลุม ประเด็นนี้เองเราอาจตีความได้ว่านายดูเตอร์เต้ยังคงมีความเก็บกดและฝังใจที่ อเมริกันกระทำต่อบรรพบุรุษของเขา

คนอเมริกันมักจะดูถูกคนชาติอื่นๆด้วยการแยกผิวเช่นคนผิว ขาวจะประเสริฐสุด,ผิวดำยังเป็นทาส,คนเอเชียส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นคนผิว เหลือง,ส่วนคนผิวน้ำตาลดังเช่นคำว่า little brown brother นั้นมักจะใช้กับคนละตินอเมริกันหรือคนที่เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศสเปนมาก่อน

ดังนั้นใครที่ยกย่องอเมริกันว่าเป็นนักสิทธิมนุษยชนดี เลิศประเสริฐศรีก็ให้ดูฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่าง เหมือนพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ทรงเตือนไว้ว่า

ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง                        คงจะต้องบังคับขับไส

เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป                         ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย

เขาจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อ                       จะนับถือพงศ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย 

ไหนจะต้องเหนื่อยยากลำบากกาย             ไหนจะอายทั่วทั้งโลกา

โดย.....ประพันธ์ สานแสงทอง

คำพูดดูถูก Little Brown Brothers อีกนัยหนึ่งเป็นเมืองขึ้นที่สหรัฐเข้าไปครอบครองสหรัฐเข้าไปจัดระบบโรงเรียน Public School system เหมือนสหรัฐ จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในห้องเรียน สอนวิชาประวัติศาสตร์อเมริกัน (จึงทำให้คนฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนชาติอื่นในละแวกเดียวกัน) ปัจจุบัน ระบบโรงเรียนของฟิลิปปินส์เพิ่มเติมวิชาประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์และภาษาตากา ล้อกแก่นักเรียนด้วย ภาพการ์ตูนนี้แสดงให้เห็นว่าคนฟิลิปปินส์ยังป่าเถื่อน ถึงกับถูกออกกฎว่าห้ามเดินตามท้องถนนหากไม่สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dominiqa's profile


โพสท์โดย: dominiqa
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: AdamS JaideE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา เดือดอีกครั้ง แต่เสียงจากอาเซียนชี้ว่า “ทุ่นบึ้มไม่ใช่ของใหม่”AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีสิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/11/68นั่งขับถ่ายนาน ๆ จนรู้สึกชาขา เสี่ยงเป็นโรคอะไร หากทำแบบนี้เป็นประจำหลายปีรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ทายนิสัย ความ Introvert โลกส่วนตัวสูง ของคนแต่ละราศี ตอนที่ 2 ราศีกรกฎ – ราศีธนู😁 ชวนลองเข้ามาดูภาพถ่ายชวนสับสนที่ทำให้เราต้องมองซ้ำอีกรอบถึงจะเข้าใจ 😆ทำไมโทรศัพท์มือถือถึงไม่มีในความฝัน“พระประเสริฐวานิช” ชาวจีนฮกเกี้ยนผู้เป็นต้นกำเนิดของสกุลเก่าแก่หลายสายในประเทศไทยแพทริเซีย-โน้ต ควงคู่ร่วมงานแต่งเพื่อนสนิท ลุคสวยสะดุดตามาก4 ท่านอน ที่ควรหลีกเลี่ยง ทำลายสุขภาพทำไมเวลารับประทานอาหาร หมอถึงไม่แนะนำให้ดื่มน้ำคำต่อคำกับอาหาร? แล้วถ้าทำบ่อยเสี่ยงเป็นโรคอะไร
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา เดือดอีกครั้ง แต่เสียงจากอาเซียนชี้ว่า “ทุ่นบึ้มไม่ใช่ของใหม่”วิธีการฉีกใบตอง ที่อยากนำมาแบ่งปัน ลองฝึกทำดูนะคะ ฉีกง่ายมาก ๆ เลยทำไมโทรศัพท์มือถือถึงไม่มีในความฝันเชื่อหรือไม่...ครั้งหนึ่ง โลกเคยมีการทดสองคืนชีพศw แบบแฟรงเกนสไตน์‘ทฤษฎีเจอกันในฝัน’ Lucid Dream รู้ตัวว่ากำลังฝัน และ ควบคุมเหตุการณ์ในความฝันได้ สามารถสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ตามที่ต้องการทำให้ ‘การเจอกันในฝัน’ เป็นไปได้ในเชิงของความรู้สึก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา เดือดอีกครั้ง แต่เสียงจากอาเซียนชี้ว่า “ทุ่นบึ้มไม่ใช่ของใหม่”“กรีน อัษฎาพร” อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกิuี่..lซ็กซี่จนหนุ่มๆ ต้องร้องขอชีวิตทองคำกลับมาเป็นเทรนขาขึ้นจริงหรือ หรือแค่เทรนหลอกเม่าแพทริเซีย-โน้ต ควงคู่ร่วมงานแต่งเพื่อนสนิท ลุคสวยสะดุดตามาก
ตั้งกระทู้ใหม่