รู้แล้วราคาจริง! "กรามหมู" เจน ญาณทิพย์ ของขลังป้องคุณไสย ที่หลายคนอึ้ง
เปิดเบื้องหลัง “กรามหมู” เจน ญาณทิพย์ – ทีมงานเก่าแฉหมดเปลือก ยันต์ทุกชิ้นเขียนเอง อ้างเคล็ดลับจากเทวดา ปล่อยบูชาชิ้นละ 3,000 บาท
วันที่ 4 กันยายน 2568 รายการ โหนกระแส ที่มี “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้เปิดเผยอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่สังคมออนไลน์ให้ความสนใจ นั่นคือกรณี “กรามหมู” เครื่องรางลี้ลับ ที่เชื่อมโยงกับชื่อของ เจน ญาณทิพย์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในฐานะผู้มีชื่อเสียงด้านการทำพิธีกรรมและเรื่องเหนือธรรมชาติ
ในครั้งนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่จาก “เอก” อดีตทีมงานใกล้ชิดของเจน ญาณทิพย์ ที่ออกมาเล่าเบื้องหลังการสร้างกรามหมู พร้อมทั้งอธิบายถึงกระบวนการผลิตจริง ๆ และข้อเท็จจริงที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยนำเสนอออกสู่สาธารณะ ซึ่งทำให้ผู้ชมรายการและคนในโลกออนไลน์ต่างตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้ว “กรามหมู” มีที่มาอย่างไร และมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
ที่มาของ “กรามหมู” – สรรพคุณเหนือธรรมชาติหรือการตลาด?
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจน ญาณทิพย์ ได้เคยเผยแพร่ผ่านการไลฟ์สดว่า “กรามหมู” มีสรรพคุณในการป้องกันโรคคางทูม ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ รวมถึงสามารถปกป้องคนในบ้านไม่ให้ภูตผีปีศาจเข้ามาก่อกวนได้ โดยกรามหมูเหล่านี้ถูกทำพิธีปลุกเสกและลงยันต์ อ้างว่าเป็น วิชาลับที่ได้รับการสืบทอดมาจากครูบาอาจารย์และเทวดา
กรามหมูถูกนำออกมาให้ประชาชนที่มีศรัทธาได้ “บูชา” ในราคาชิ้นละ 3,000 บาท และถูกโปรโมตว่าเป็น “หนึ่งเดียวในโลก” ไม่มีที่ใดสามารถทำได้ เพราะเป็นเคล็ดลับที่เทวดามอบตำราให้แก่ผู้ใกล้ชิดอย่าง “รุ้ง” ซึ่งเป็นบุคคลสนิทของเจน ญาณทิพย์
ทีมงานเก่าเฉลย – กรามหมูทำกันอย่างไร?
ในรายการ “โหนกระแส” เอก ซึ่งเคยทำงานอยู่ในทีมของเจน ญาณทิพย์ ได้เปิดเผยขั้นตอนการทำกรามหมูอย่างละเอียด โดยเล่าว่า
1. เริ่มจากการจัดหากรามหมู – “รุ้ง” ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของเจน มอบหมายให้ทีมงานไปซื้อกรามหมูสด ๆ จากตลาด โดยมักจะยังมีเนื้อและเศษติดอยู่
2. ทำความสะอาดแบบบ้าน ๆ – ทีมงานจะนำกรามหมูเหล่านั้นมาขูดเอาเนื้อออกให้มากที่สุด เหลือเนื้อติดให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เน่าเสีย
3. ตากแดดนาน 2 สัปดาห์ – จากนั้นนำไปตากแดดต่อเนื่องประมาณ 14 วัน ระหว่างนั้นจะมีแมลงวันตอม และเกิดกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทีมงานต้องทนกับสภาพที่ไม่ค่อยน่ารื่นรมย์
4. ลงยันต์ – เมื่อกรามหมูแห้งแล้ว จึงนำมาลงยันต์ โดยเอกยอมรับว่า ตนเองเป็นคนเขียนยันต์ลงไป เพราะอีกคนเขียนไม่ทันก่อนจะนำออกไปให้ผู้ศรัทธาบูชา ที่สำคัญคือ ไม่ได้มีการท่องคาถาใด ๆ ในระหว่างเขียนยันต์
เอกเล่าว่า ตนและทีมงานทำกรามหมูทั้งหมดราว ๆ 500 – 1,000 ชิ้น แต่ไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีการนำไปทำพิธีปลุกเสก จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการทำพิธีจริงหรือไม่
รายได้มหาศาล – กรามหมู 1,000 ชิ้น ชิ้นละ 3,000 บาท
ในรายการ หนุ่ม กรรชัย ได้ทำการคำนวณแบบง่าย ๆ หากกรามหมูถูกทำขึ้นทั้งหมด 1,000 ชิ้น และปล่อยให้ผู้ศรัทธาบูชาในราคา ชิ้นละ 3,000 บาท เท่ากับจะมีรายได้รวม 3,000,000 บาท หรือ 3 ล้านบาท
แม้เอกจะยอมรับว่า จำนวน 1,000 ชิ้นนั้นไม่น่าจะขายหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการนี้สร้างรายได้จำนวนมหาศาล และกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้สังคมหันมาตั้งคำถามว่า นี่คือการ ใช้ความเชื่อและศรัทธาของประชาชนเป็นเครื่องมือทำเงินหรือไม่
คำอธิบายของ “รุ้ง” – หนึ่งเดียวในโลกจากเทวดา
นอกจากคำชี้แจงของทีมงานเก่า ยังมีโพสต์ในอดีตที่อ้างอิงถึง “พี่รุ้ง” ผู้ใกล้ชิดของเจน ญาณทิพย์ ที่กล่าวว่า
กรามหมู ไม่ใช่วัตถุมงคล ไม่ใช่ของขลัง ไม่ใช่ของสวยงาม แต่เป็นสิ่งที่เกิดจาก ตำราลับที่เทวดามอบให้ ผ่านการปฏิบัติวิปัสสนาญาณ
ตำรานี้เป็นคาถาโบราณที่ถ่ายทอดเฉพาะกับผู้ที่เทวดาเลือกเท่านั้น และรุ้งคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียว
กรามหมูที่ปล่อยบูชานั้นจึงถือเป็น “หนึ่งเดียวในโลก” และไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่น
พี่รุ้งยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายกรามหมู ไม่สามารถขายออนไลน์ หรือส่งออกไปต่างประเทศได้ เพราะเป็นของต้องห้ามตามข้อกำหนดด้านศุลกากรและด่านตรวจคนเข้าเมือง
สังคมตั้งคำถาม – ศรัทธากับธุรกิจแยกออกจากกันได้หรือไม่?
ประเด็นกรามหมูสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมไทย หลายฝ่ายมองว่าเป็นการ หาผลประโยชน์จากความเชื่อของประชาชน โดยอาศัยการอ้างอิงถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา และครูบาอาจารย์ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับวัตถุที่แท้จริงแล้วเป็นเพียง “ชิ้นส่วนร่างกายสัตว์” ที่หาซื้อได้ทั่วไป
ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่ยังคงศรัทธา เชื่อว่า กรามหมูมีพลังจริง โดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าและการโปรโมตของผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสายมู
คำถามที่น่าสนใจก็คือ “เส้นแบ่งระหว่างความศรัทธากับการค้าขายอยู่ตรงไหน?”
มุมมองกฎหมาย – วัตถุมีคาถากับการโฆษณาเกินจริง
นักกฎหมายบางรายออกมาให้ความเห็นว่า หากกรามหมูถูกโฆษณาในลักษณะที่ สร้างความเข้าใจผิด เช่น สามารถรักษาโรค หรือป้องกันคุณไสยได้ อาจเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริง ซึ่งมีโทษตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
นอกจากนี้ หากมีการนำ ซากสัตว์ มาทำวัตถุมงคล ยังต้องตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายด้านสาธารณสุข หรือกฎหมายควบคุมการค้าสัตว์หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการนำไปจำหน่ายในวงกว้าง
บทสรุป – กรามหมูในฐานะ “บทเรียนสังคม”
กรณีกรามหมูของเจน ญาณทิพย์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของวัตถุมงคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงหลายประเด็นในสังคมไทย
การใช้ ศรัทธาและความเชื่อ ของประชาชนเป็นช่องทางสร้างรายได้
การตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และแยกแยะว่าอะไรคือความเชื่อ อะไรคือการโฆษณา
บทบาทของสื่อและรายการโทรทัศน์ ที่ช่วยเปิดโปงข้อมูลจากบุคคลใกล้ชิด
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ศรัทธาอาจเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่สิ่งสำคัญคือการใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้
บทสรุป
กรามหมูอาจเป็นเพียง “วัตถุ” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการด้านจิตใจของผู้ศรัทธา แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ศรัทธาสามารถถูกเปลี่ยนเป็นมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างไร ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ควรนำมาถกเถียงต่อในสังคมไทย














