มีพยานได้ยินเสียงบางอย่างก่อนเกิดเหตุระเบิดปารีส ตายกว่า 150 ศพ

ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสถูกนำตัวจากสนามฟุตบอลไปยังกระทรวงมหาดไทยอย่างเร่งด่วน ขณะกำลังชมฟุตบอลโดยเฮลิคอปเตอร์ หลังจากนั้น เขาได้ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงทั่วประเทศ และสั่งปิดจุดผ่านแดนทุกแห่งอย่างไม่มีกำหนด พร้อมทั้งสั่งระดมกำลังทหารให้ความช่วยเหลือตำรวจ ในการรักษาความปลอดภัยและติดตามจับกุมกลุ่มคนซึ่งร่วมกันก่อเหตุรุนแรงหลายระลอกทั่วกรุงปารีส

ทั้งนี้ ออลลองด์ยืนยันมาตรการปิดพรมแดนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายหนีออกนอกประเทศ และสกัดกั้นความพยายามเสริมกำลังของกลุ่มผู้ก่อเหตุ

นอกจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสประกาศยกเลิกการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ "จี-20" ที่ตุรกีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยจะส่งนายโลรองต์ ฟาบิอูส์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และนายมิเชล ซาแปง รมว.กระทรวงการคลัง เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมแทน พร้อมทั้งย้ำว่า ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ ความสามัคคีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนคือสิ่งสำคัญที่สุด การแสดงความความหวาดกลัวคือการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้าย ด้านกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสยืนยันยังไม่มีนโยบายระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ

เหตุวินาศกรรมครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาตร์ของฝรั่งเศส เริ่มขึ้นระหว่างช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติเยอรมนี ที่สนามกีฬาสตาด เดอ ฟรองซ์ ในกรุงปารีส โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้งตามด้วยเสียงปืนที่ด้านนอกของสนามกีฬา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชิญผู้นำฝรั่งเศสซึ่งเข้าร่วมชมการแข่งขันด้วยออกจากสนามทันทีเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การแข่งขันสามารถดำเนินไปได้จนจบด้วยชัยชนะของฝรั่งเศส 2 ประตูต่อ 0 และผู้ชมส่วนใหญ่ยังสมัครใจอยู่ในสนามเนื่องจากหวั่งเกรงอันตรายจากสถานการณ์ด้านนอก ต่อมาเกิดเหตุกราดยิงและระเบิดที่ร้านอาหาร 3 แห่งในเขต 10 และเขต 11 ของกรุงปารีส ตลอดจนศุนย์การค้าอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 40 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตำรวจและทหารสนธิกำลังปฏิบัติการจู่โจมให้ความช่วยเหลือตัวประกันราว 60 คน ภายในโรงละครและศูนย์ศิลปะบาตากลัน ที่ตั้งอยุ่ในกรุงปารีสเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้ายอย่างน้อย 3 ศพ แต่มีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตที่อยู่ภายในอาจสูงราว 100 ศพ หลังเกิดเหตุยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมาประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลัง แต่เครือข่ายสังคมออนไลน์ของบรรดาผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสต่างโพสต์ข้อความและรูปภาพ "เฉลิมฉลอง" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์ประณามอย่างหนัก เช่นเดียวกับนานาประเทศรวมถึงสหรัฐ ซึ่งยืนยันจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด “

มีรายงานด้วยว่า มีการกราดยิงในเวทีคอนเสิร์ทขณะที่มีการแสดงของวงร็อคจากสหรัฐฯ Eagles of Death Metal หรืออินทรีแห่งความตาย

การก่อเหตุระเบิดคนร้ายใช้วิธีการผูกระเบิดไว้กับตัว และกดระเบิดเมื่อถึงจุดที่มีคนอยู่จำนวนมาก พยานคนหนึ่งเล่าว่า เขาได้ยินเสียง อัลลอฮ์ ฮูอักบัร ก่อนเสียงระเบิด โดยผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 5 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 150 คน นับเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรงที่สุดของฝรั่งเศสเหมือน 911 ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว