รวบแล้ว! โจรบุกบ้านแน็ก ชาลี ของกลางเพียบ ตร.โชว์หลักฐานชัด
คดีโจรบุกบ้าน “แน็ก ชาลี” สูญทรัพย์กว่า 1,000 ชิ้น ตำรวจนครบาลเร่งคลี่คลาย ค้นคืนของสะสมโบราณ-ไวโอลินอายุ 100 ปี
หนึ่งในข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงและโลกออนไลน์ในช่วงสัปดาห์นี้ ต้องยกให้กับกรณีของนักแสดงชื่อดัง “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” ที่ถูกคนร้ายงัดแงะเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้านพักย่านโชคชัย 4 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะกับของสะสมโบราณที่มีคุณค่าทั้งทางจิตใจและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว พร้อมยึดของกลางคืนจำนวนมาก ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสที่ผู้คนติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งในมิติของคดีอาชญากรรมและในมุมของสังคมที่ให้ความสนใจกับการใช้ชีวิตของคนดังที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิด
เหตุการณ์โจรบุกบ้านแน็ก ชาลี
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 แน็ก ชาลี ได้ออกมา ไลฟ์สดผ่าน TikTok เพื่อเล่าให้แฟนคลับฟังว่าบ้านพักของเขาในซอยโชคชัย 4 ถูกคนร้ายบุกเข้ามาขโมยทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง
สิ่งที่หายไปไม่ใช่เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่รวมถึง ของสะสมส่วนตัวเกือบ 1,000 ชิ้น โดยเฉพาะเครื่องดนตรีโบราณ เช่น
ไวโอลินอายุเกิน 100 ปี หลายร้อยตัว
กีตาร์สะสมหายาก
รวมถึงเครื่องปรับอากาศและของใช้ในบ้าน
แน็ก ชาลี ได้เผยความรู้สึกเสียดายและเสียใจอย่างมาก เพราะของเหล่านี้ไม่เพียงมีมูลค่าทางการเงิน แต่ยังเป็น ของสะสมที่เจ้าตัวเก็บรักษามาอย่างยาวนาน
ปฏิบัติการตำรวจนครบาล 4: สืบสวนจนจับกุมคนร้าย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 4 เร่งติดตามคดีอย่างใกล้ชิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนพบเบาะแสสำคัญ เมื่อมีการนำ กีตาร์สะสม ไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และแน็ก ชาลี ได้ยืนยันว่าเป็นของที่ถูกขโมยไปจริง ทำให้เจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อเพื่อติดตามจับกุม
การนัดรับของเกิดขึ้นบริเวณถนนรามคำแหง 60 และนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่
นายเอกพันธ์ อายุ 39 ปี
นายอิทธิพล อายุ 29 ปี
พร้อมของกลางเป็นกีตาร์หลายตัว
คำให้การและการขยายผล
จากการสอบสวน นายเอกพันธ์ ให้การรับสารภาพว่า ของกลางบางส่วนที่ถูกยึดนั้นได้มาจากการซื้อขายกับบุคคลชื่อ นายสำอางค์ หรือ “อัน” ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ในคดีลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568
เขายังซัดทอดเพิ่มเติมว่ามีทรัพย์สินอีกจำนวนมากถูกซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น
คอนโดมิเนียมย่านบ้านรามคำแหง
ห้องเช่าในซอยโชคชัย 4
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นและสามารถยึดของกลางเพิ่มเติมได้หลายรายการ เช่น
ไวโอลินโบราณยี่ห้อ Kisosozaki Violino Co. 1720
กีตาร์ Yamaha พร้อมกล่องเก็บอย่างดี
รวมถึงอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BERETTA ขนาด 6.35 มม.
ในที่สุดยังสามารถติดตามคืนไวโอลินของแน็ก ชาลี ได้เพิ่มอีก 8 ตัว
ความเสียหายและผลกระทบต่อแน็ก ชาลี
ของสะสมที่หายไปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงของใช้ทั่วไป แต่เป็นเครื่องดนตรีโบราณและสะสมส่วนตัวที่แน็ก ชาลีเก็บรวบรวมมานานกว่า 10 ปี ทำให้ความเสียหายไม่ได้วัดแค่ตัวเงิน แต่ยังสะเทือนใจเจ้าของอย่างมาก
แน็กเคยเล่าว่าเขามีความผูกพันกับเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น เพราะบางตัวได้มาจากการแลกเปลี่ยน บางตัวเป็นของหายากที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเฉพาะไวโอลินที่มีอายุเกินร้อยปี ซึ่งถือว่าเป็น สมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถหาซื้อทดแทนได้ง่าย ๆ
การที่ของเหล่านี้ถูกโจรกรรมไป ทำให้แน็กเสียใจอย่างหนัก และยังสะท้อนให้เห็นปัญหา อาชญากรรมลักทรัพย์ในเขตเมืองใหญ่ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนดังในวงการบันเทิง
มุมมองด้านกฎหมายและสังคม
ผู้ต้องหาทั้งสองถูกดำเนินคดีในข้อหา
“ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันรับของโจร”
“เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)”
คดีนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงปัญหาอาชญากรรม แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงประเด็นการใช้สารเสพติดในสังคม ที่มักเป็นต้นตอของพฤติกรรมอาชญากรรมซ้ำซ้อน
ในแง่มุมของสังคม คดีนี้ยังจุดประกายการถกเถียงว่า บ้านเรือนของคนดังที่มีทรัพย์สินมีค่า ควรได้รับการป้องกันความปลอดภัยมากกว่าบ้านทั่วไปหรือไม่ และในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความจำเป็นที่ประชาชนทั่วไปควรใส่ใจระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านเช่นกัน
กระแสในโลกออนไลน์
หลังการจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ชื่อของ แน็ก ชาลี กลายเป็นหนึ่งในคำค้นหายอดฮิตบนโลกออนไลน์ มีทั้งแฟนคลับและชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความเห็นใจ พร้อมให้กำลังใจนักแสดงหนุ่มในช่วงเวลายากลำบาก
หลายคนยังร่วมแชร์ประสบการณ์การถูกโจรกรรมในชีวิตจริง ทำให้ประเด็นนี้ไม่เพียงเป็นข่าวของคนดัง แต่ยังเป็น บทเรียนด้านความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้
บทเรียนจากคดีโจรกรรมบ้านแน็ก ชาลี
1. ความสำคัญของระบบรักษาความปลอดภัย
การติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือระบบกันขโมยสามารถช่วยป้องกันความเสียหายได้
แม้บ้านจะอยู่ในเขตเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่การโจรกรรมก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้
2. ของสะสมที่มีมูลค่าสูงควรเก็บรักษาอย่างรัดกุม
โดยเฉพาะของโบราณหรือของหายาก ควรมีการทำประกันทรัพย์สินเพื่อป้องกันความเสี่ยง
3. บทบาทของโลกออนไลน์ในการสืบสวนคดี
การที่คนร้ายนำของกลางไปโพสต์ขายบนเฟซบุ๊ก กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตำรวจสาวไปถึงตัวผู้ก่อเหตุ
แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ออนไลน์ไม่เพียงเป็นแหล่งซื้อขาย แต่ยังสามารถเป็น “หลักฐานทางคดี” ได้เช่นกัน
สรุป
กรณีของ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ ที่ถูกโจรกรรมบ้านพักและสูญเสียทรัพย์สินสะสมเกือบ 1,000 ชิ้น เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจต่อทั้งเจ้าตัวและแฟนคลับ แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ที่สามารถติดตามคนร้ายและยึดทรัพย์คืนมาได้ภายในเวลาไม่นาน
นอกจากจะเป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิงแล้ว เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาอาชญากรรมในสังคมเมืองใหญ่ และกลายเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ท้ายที่สุด แม้แน็กจะยังคงเสียดายของสะสมล้ำค่าที่สูญหายไป แต่การได้ทรัพย์สินบางส่วนคืน รวมถึงการจับกุมผู้ก่อเหตุ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยคลายความกังวล และทำให้แฟน ๆ เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายคดีครั้งนี้
















