หญิงวัย 22 เสียชีวิต หลังเจ็บคอไม่กี่วัน
หลายคนเมื่อมีอาการเจ็บคอมักคิดว่า "ดื่มน้ำให้มากขึ้น เดี๋ยวก็หาย" แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจรักษาได้
โดยเรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัล ในอังกฤษตอนนี้ คือ เรื่องราวของหญิงชาวอังกฤษ "เอมี่ ฟอร์ไซธ์" วัย 22 ปี ซึ่งเธอเพิ่งจบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน เนื่องจากอาการเจ็บคออย่างฉุกเฉินและรุนแรง แต่อาการกลับแย่ลงจนเกิดฝีในลำคอ จนอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งส่งผลทำให้เธอเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ 5 วัน
เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึง ให้กับครอบครัวของเธอเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าอาการเจ็บคอ จะพรากชีวิตอันมีค่าของลูกสาวของพวกเขาไปได้ หลังจากนั้นพวกเขายังได้เปิดตัวแคมเปญระดมทุน ในนามของ "เอมี่ ฟอร์ไซธ์" เพื่อบริจาคเงิน ให้กับทีมแพทย์ทุกคนที่ดูแล "เอมี่ ฟอร์ไซธ์"
นายแพทย์ "ไช่ ชิง หยู" แพทย์ประจำภาควิชา "โสตศอนาสิกวิทยา" ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเอเชีย กล่าวอธิบายว่า "สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเจ็บคอ คือ หวัด ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการไปพบแพทย์ รับประทานยา และ พักผ่อนให้เพียงพอ" และ "หากอาการต่อมทอนซิลอักเสบไม่ดีขึ้นหลังการรักษา ควรสังเกตว่าได้พัฒนาเป็นฝีรอบเนื้องอกหรือไม่? หากไม่ได้รับการรักษา ฝีอาจไม่เพียงแต่ลามไปที่คอเท่านั้น แต่ยังลามลงด้านล่าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ และ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้!!" และ "หากเกิดอาการ 6 ประการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที!!"
1. อาการเจ็บคอข้างเดียว ซึ่งแตกต่างจากต่อมทอนซิลอักเสบทั่วไป อาการเจ็บคอที่เกิดจากฝีรอบต่อมทอนซิลมักเป็นข้างเดียว
2. มีอาการเปิดปากลำบาก
3. การกลืนเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก และแม้แต่การกลืนน้ำลายก็ยังทำได้ยาก
4. หายใจลำบาก
5. เสียงเปลี่ยน พูดไม่ชัด
6. อาการไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาด้วยยาหรืออาจแย่ลงได้















