หลักฐานคามือ! จับได้ชัด เขมรย้ายกำลังพล-อาวุธ ฝ่าฝืนข้อตกลง JBC
คลิปใหม่โผล่! หลักฐานชัดเจน “กัมพูชาเคลื่อนย้ายจรวด RM-70 และปืนใหญ่ D-30” เสริมกำลังพลเต็มสูบ ท่ามกลางข้อกังวลละเมิดข้อตกลง JBC
วันที่ 21 สิงหาคม 2568 โลกโซเชียลในกัมพูชาและไทยต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการเผยแพร่ คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านกัมพูชาถ่ายไว้ แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ทางทหารขนาดหนัก ไม่ว่าจะเป็น ระบบจรวดหลายลำกล้อง RM-70 และ ปืนใหญ่สนามลากจูง D-30 ขนาด 122 มิลลิเมตร โดยมีการเคลื่อนกำลังพลไปพร้อมกันอย่างเป็นขบวน
คลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วในเพจและกลุ่มเฟซบุ๊กด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเพจ Army Military Force ที่นำมาเผยแพร่ พร้อมเขียนข้อความประกอบว่า “ก็ยังละเมิด JBC อยู่นั่นแหละ” สะท้อนถึงความกังวลว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่าย การละเมิดข้อตกลงคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้เพื่อป้องกันเหตุปะทะตามแนวชายแดน
คลิปหลักฐาน: ภาพที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ในคลิปที่ปรากฏนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่บนถนนสาธารณะของกัมพูชา
ระบบจรวดหลายลำกล้อง RM-70 ถูกบันทึกภาพเคลื่อนที่เป็นขบวนยาว โดยมีทหารกัมพูชานั่งประจำการอยู่
ปืนใหญ่สนาม D-30 ขนาด 122 มม. แบบลากจูงถูกผูกโยงไปกับยานพาหนะทางทหาร
ระหว่างเส้นทางมีประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งยืนมองและถ่ายคลิปไว้ ก่อนจะนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ภาพเหล่านี้ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่ากัมพูชากำลัง เสริมกำลังตามแนวชายแดน ซึ่งตรงข้ามกับเจตนารมณ์ของข้อตกลง JBC ที่มุ่งเน้นการรักษาสถานการณ์ให้สงบและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร
ทำความรู้จักอาวุธที่ถูกเคลื่อนย้าย
เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของคลิปนี้ จำเป็นต้องรู้จักกับอาวุธที่ถูกบันทึกภาพเอาไว้
1. RM-70 Multiple Rocket Launcher
เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องที่พัฒนามาจาก BM-21 Grad ของสหภาพโซเวียต
มีลำกล้อง 40 ท่อ สามารถยิงจรวดขนาด 122 มม. ได้พร้อมกัน
ระยะยิงสูงสุดกว่า 20 กิโลเมตร สร้างพลังทำลายล้างสูง
การเคลื่อนย้าย RM-70 จึงมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณการเตรียมพร้อมเชิงรุก
2. D-30 122 mm Howitzer
เป็นปืนใหญ่สนามลากจูงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ
ระยะยิงประมาณ 15 กิโลเมตร สามารถยิงกระสุนระเบิดแรงสูง (HE) และกระสุนชนิดอื่น ๆ ได้หลากหลาย
ข้อได้เปรียบคือมีความคล่องตัว สามารถลากไปติดตั้งได้ง่าย และใช้สนับสนุนการรบภาคพื้นดิน
ทั้งสองชนิดถือเป็น ยุทโธปกรณ์หนักที่ใช้ในสงครามเต็มรูปแบบ มากกว่าจะใช้ในการซ้อมรบเล็ก ๆ ทั่วไป
การเสริมกำลังพล – ปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง
นอกจากการขนย้ายอาวุธหนักแล้ว คลิปอีกชุดหนึ่งยังแสดงให้เห็นว่า กองทัพกัมพูชากำลังเคลื่อนกำลังพลจำนวนมากไปยังพื้นที่แนวหน้า ซึ่งสร้างความกังวลในสังคมไทย เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญบางรายตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องปกติของการซ้อมรบประจำปี เพราะหากเป็นการซ้อมรบ กัมพูชามักมีการประกาศล่วงหน้าและทำอย่างเปิดเผย แต่ครั้งนี้กลับปรากฏเป็นคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ และถูกแชร์ในเชิง “ลับ ๆ” จึงยิ่งเพิ่มข้อสงสัยให้มากขึ้น
JBC คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?
JBC (Joint Boundary Commission) หรือ คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขข้อพิพาทตามแนวชายแดน โดยมีหน้าที่หลักคือกำหนดเส้นเขตแดนที่ยังคงมีข้อขัดแย้ง และสร้างกลไกป้องกันการปะทะระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย
ข้อตกลง JBC มีสาระสำคัญคือ
ห้ามเสริมกำลังทหารหรือยุทโธปกรณ์หนักในพื้นที่ทับซ้อน
ส่งเสริมการหารือทางการทูตแทนการใช้กำลัง
ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการปะทะที่ “ปราสาทพระวิหาร” เมื่อหลายปีก่อน
ดังนั้น ทุกครั้งที่มีข่าวกัมพูชาเคลื่อนย้ายอาวุธหนักหรือกำลังพลเข้าใกล้ชายแดนไทย จึงถูกจับตาว่าอาจเป็น การละเมิดข้อตกลง JBC
ปฏิกิริยาของชาวเน็ตและสังคม
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโซเชียล มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาอย่างกว้างขวาง
ฝั่งชาวเน็ตไทยแสดงความกังวลว่าอาจบานปลายเป็นความขัดแย้งชายแดนอีกครั้ง
บางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งตรวจสอบและดำเนินการทางการทูต
ขณะที่ชาวเน็ตกัมพูชาบางกลุ่มกลับมองว่าเป็นเรื่อง “ปกติ” ของการเสริมสร้างความมั่นคงภายในประเทศ
ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความเปราะบางในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ที่ยังมีเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์และการเมืองคอยกดดันอยู่เสมอ
นักวิเคราะห์เตือน – อย่ามองข้ามสัญญาณ
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงบางรายออกมาเตือนว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยุทโธปกรณ์ที่ปรากฏไม่ใช่อาวุธเบา แต่เป็นอาวุธหนักที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้ในระยะไกล
“RM-70 และ D-30 ไม่ใช่อาวุธสำหรับการป้องกันตัวทั่วไป หากถูกนำมาใช้จริงจะกระทบกับสมดุลทางการทหารในพื้นที่ทันที” นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว
บทเรียนจากอดีต
เหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาในอดีต โดยเฉพาะรอบพื้นที่ ปราสาทพระวิหาร ทำให้ทั้งสองประเทศสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรจำนวนมาก และยังทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนต้องอพยพหนีภัยสงคราม
บทเรียนเหล่านั้นควรเป็นเครื่องเตือนใจว่า การเคลื่อนย้ายอาวุธหนักใกล้ชายแดนไม่เคยเป็นเรื่องเล็ก และควรถูกจัดการด้วยความระมัดระวังสูงสุด
ก้าวต่อไปควรทำอย่างไร?
สำหรับประเทศไทย นักวิชาการเสนอว่า ควรมีมาตรการ 3 ประการ
1. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ – ผ่านช่องทางการทูตหรือคณะกรรมการ JBC
2. ใช้สื่อสารสาธารณะอย่างรอบคอบ – เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและการบิดเบือนข้อมูล
3. เตรียมความพร้อมเชิงรับ – แม้ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ แต่ก็ต้องมีแผนรองรับหากสถานการณ์บานปลาย
บทสรุป
คลิปวิดีโอล่าสุดที่เผยให้เห็นการเคลื่อนย้าย RM-70 และ D-30 ของทหารกัมพูชา พร้อมการเสริมกำลังพลจำนวนมาก เป็นหลักฐานที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคมไทยและกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้บางฝ่ายอาจอธิบายว่าเป็นการเคลื่อนย้ายตามปกติ แต่จากมุมมองด้านความมั่นคง การปรากฏของอาวุธหนักเช่นนี้ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะอาจกระทบต่อเสถียรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือ การจัดการปัญหาด้วย การทูตและกลไก JBC เพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์การปะทะซ้ำรอยขึ้นมาอีก

เดือด! อดีตมิสยูนิเวิร์ส 1996 ชาวเวเนซุเอลา เหยียดไทย-เอเชีย เจอทั้งภูมิภาคสวนกลับยับ
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต
หนังกลางแปลงในความทรงจำ กับการดูหนังสร้างรายได้ในโลกออนไลน์
พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนาม โดยมีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์กว่า 100 คน คาดว่าฮอยอันและดานังจะประสบกับน้ำท่วมอีกครั้ง
"ไฮเดรนเยีย" หนึ่งในดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
จับแล้ว "บังเอ็น" มือกราดยิงดญ.1 ขวบดับ พร้อมพ่อ
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
ชายชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากการกินไข่ตุ๊กแก
รองฯ ปรินดา ร่วม “ดำนา โยนกล้า หว่านข้าว ปีที่ 4” บ้านป่าชิง ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชีวิตและการพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต



