เขมรลุยเอง! เปิดตัว “โค้กกัมพูชา” หลังเด้ง VannDa พ้นพรีเซนเตอร์
แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola) เปิดตัวน้ำอัดลมสัญชาติเขมร 100% ท่ามกลางกระแสแมนโค้กและดราม่า Coca-Cola
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สังคมกัมพูชาต่างหันมาจับตาข่าวใหญ่ในโลกออนไลน์ หลังเพจชื่อดัง Khmernote ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง พร้อมประกาศข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ “แคมโบเดีย โคล่า” (Cambodia Cola) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นน้ำอัดลมที่สร้างสรรค์โดยผู้ประกอบการชาวเขมร 100% ภายใต้การดำเนินงานของ Chip Mong Group และ Khmer Beverages บริษัทชั้นนำของประเทศ
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สังคมกัมพูชากำลังเต็มไปด้วยกระแสความไม่พอใจต่อ Coca-Cola Cambodia ภายหลังการตัดสินใจถอด VannDa (วัณณ์ฎา มาน) แรปเปอร์ชื่อดังและขวัญใจชาวกัมพูชาออกจากตำแหน่งพรีเซนเตอร์ของแบรนด์อย่างกะทันหัน โดยมีการนำภาพและสื่อโฆษณาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ VannDa ออกจากช่องทางโซเชียลมีเดียของบริษัท
จุดเริ่มต้นของกระแส “แมนโค้ก”
ต้นตอของเรื่องเริ่มขึ้นจากการที่ VannDa ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการแสดงออกที่เข้าข่ายอ่อนไหวทางการเมือง และอาจละเมิดเงื่อนไขในสัญญากับ Coca-Cola
หลังจากนั้นไม่นาน Coca-Cola Cambodia ได้ตัดสินใจ “กอดแวนด้าออกจากแคมเปญ” ทันที การเคลื่อนไหวครั้งนี้จุดประกายความไม่พอใจอย่างรุนแรงในสังคมกัมพูชา เนื่องจาก VannDa ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปินชื่อดัง แต่ยังถือเป็น “ไอคอนวัฒนธรรมร่วมสมัย” ของชาวเขมรรุ่นใหม่ การปลดเขาออกจึงถูกตีความว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและไม่เข้าใจความรู้สึกของประชาชน
ผลที่ตามมาคือการเกิดกระแส “แมนโค้ก” (ManCoke) ขึ้นในโลกออนไลน์ ชาวกัมพูชาจำนวนมากเริ่มแสดงพลังด้วยการประกาศเลิกสนับสนุน Coca-Cola และหันไปค้นหาทางเลือกใหม่ ๆ ที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นแทน
ฮุน เซน ต้องออกโรงปราม
กระแสแบน Coca-Cola ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้องออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อปรามประชาชน
ฮุน เซน เน้นย้ำว่า แม้ Coca-Cola จะเป็นแบรนด์ต่างชาติ แต่ก็ได้เข้ามาสร้างงานและอาชีพให้กับชาวกัมพูชาจำนวนมาก หากกระแสแบนรุนแรงจนบริษัทแม่ตัดสินใจถอนธุรกิจออกไป ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ และอาจเป็นช่องว่างให้ “ฝ่ายตรงข้าม” ใช้โจมตีทางการเมือง
ข้อความของฮุน เซน ช่วยชะลอความร้อนแรงของกระแสได้บ้าง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของ Coca-Cola และเริ่มแสดงออกถึงความต้องการที่จะมี “แบรนด์ของตนเอง” มากขึ้น
การเปิดตัว “แคมโบเดีย โคล่า” : จุดเปลี่ยนของตลาดเครื่องดื่ม
ท่ามกลางบรรยากาศที่ดุเดือดนี้ การที่เพจ Khmernote ออกมาเผยแพร่ข่าวการเปิดตัว “แคมโบเดีย โคล่า” จึงถูกมองว่าเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของสังคมได้อย่างตรงจังหวะ
จากโพสต์ระบุว่า
“เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ฝีมือผู้ประกอบการชาวเขมร โดยบริษัท Chip Mong Group และบริษัท Khmer Beverages เตรียมปล่อยออกสู่ตลาด น้ำอัดลม ‘แคมโบเดีย โคล่า’ (Cambodia Cola) ความภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของชาวเขมร สร้างสรรค์โดยผู้ประกอบการชาวเขมร 100%”
ข้อความดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนมองว่า นี่คือก้าวแรกของการสร้างแบรนด์น้ำอัดลมท้องถิ่นที่จะมาแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Coca-Cola และ Pepsi ซึ่งครองตลาดกัมพูชามานานหลายสิบปี
ความหมายเชิงสัญลักษณ์
การเกิดขึ้นของ “แคมโบเดีย โคล่า” ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงการเปิดตัวสินค้าใหม่เท่านั้น แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในหลายมิติ ได้แก่
1. ความภาคภูมิใจในความเป็นชาติเขมร
ชาวกัมพูชาจำนวนมากรู้สึกว่า ในที่สุดก็มีน้ำอัดลมที่เป็นฝีมือของคนท้องถิ่น 100%
สะท้อนถึงการพึ่งพาตนเองและการสร้างเอกลักษณ์ทางเศรษฐกิจ
2. การเมืองเชิงวัฒนธรรม
หลังจากเหตุการณ์แวนด้า “ถูกถอด” ชาวกัมพูชาหลายคนยิ่งอยากสนับสนุนสินค้าในประเทศมากขึ้น
Cambodia Cola จึงกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการต่อต้านเงียบ ๆ” ต่อการครอบงำของแบรนด์ต่างชาติ
3. โอกาสทางธุรกิจ
ตลาดน้ำอัดลมกัมพูชามีมูลค่ามหาศาล และการเกิดแบรนด์ใหม่ที่มีภาพลักษณ์ “ท้องถิ่นแท้” อาจดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสนับสนุนสินค้าที่สะท้อนตัวตนและวัฒนธรรมของชาติ
Chip Mong Group และ Khmer Beverages : เบื้องหลังผู้ผลิต
สองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง Cambodia Cola ไม่ใช่ผู้เล่นเล็ก ๆ ในวงการเศรษฐกิจกัมพูชา
Chip Mong Group เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนใหญ่ที่สุดของประเทศ มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
Khmer Beverages เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านเครื่องดื่มอยู่แล้ว โดยเคยผลิตเบียร์และเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาด
การร่วมมือกันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า Cambodia Cola ไม่ใช่แค่ “โปรเจกต์ระยะสั้น” แต่มีศักยภาพในการเติบโตจริง และพร้อมจะต่อสู้ในตลาดน้ำอัดลมทั้งในและต่างประเทศ
กระแสตอบรับของประชาชน
หลังจากคลิปเปิดตัวถูกเผยแพร่ ชาวกัมพูชาจำนวนมากต่างพากันแชร์และคอมเมนต์อย่างตื่นเต้น หลายคนประกาศชัดเจนว่า “พร้อมเปลี่ยนจากโค้กมาลอง Cambodia Cola” ขณะที่บางส่วนมองว่านี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแบรนด์ท้องถิ่นให้กลายเป็นสินค้าระดับภูมิภาค
เสียงสะท้อนหลัก ๆ ที่พบ ได้แก่
“ถึงเวลาที่เราจะได้มีโคล่าเป็นของตัวเอง”
“ไม่ต้องง้อโค้กอีกต่อไป”
“นี่แหละความภาคภูมิใจของชาวเขมร”
“อยากลองชิมแล้วว่ารสชาติจะต่างจากโค้กหรือเปล่า”
สรุป : มากกว่าน้ำอัดลม คือการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ของชาติ
การเปิดตัว Cambodia Cola ท่ามกลางดราม่า Coca-Cola ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มตัวเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญว่า ชาวกัมพูชากำลังมองหาความภาคภูมิใจในสินค้าที่ผลิตโดยคนของตนเอง
แม้เส้นทางของ Cambodia Cola จะยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งด้านรสชาติ การตลาด และการแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก แต่หากสามารถสร้างฐานผู้บริโภคที่เชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์ได้ ก็อาจกลายเป็น “แบรนด์แห่งชาติ” ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการเครื่องดื่มในกัมพูชา
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การขายน้ำอัดลม แต่คือ การต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจ และอัตลักษณ์ของคนเขมร













