จับจริง! หญิงวัย 28 ใช้เงินโอนผิดบัญชี 2 แสนบาทเกรี้ยง
ตำรวจรวบหญิง 28 ปี ใช้เงินโอนเข้าผิดบัญชี 2 แสนบาท เจ้าหน้าที่เตือนลาภมิควรได้เข้าข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
ในโลกปัจจุบันที่ธุรกรรมการเงินส่วนใหญ่ดำเนินผ่าน ระบบโอนเงินออนไลน์และบัญชีธนาคาร เรื่องราวของการโอนเงินผิดบัญชีกลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง และบางครั้งอาจนำไปสู่คดีอาญาอย่างจริงจัง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจันทบุรีสามารถจับกุม หญิงวัย 28 ปี ผู้ต้องหาที่นำเงินโอนเข้าผิดบัญชีไปใช้เป็นจำนวนกว่า 200,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่เตือนว่ากรณีนี้ถือเป็น ลาภมิควรได้ และเข้าข่าย ข้อหายักยอกทรัพย์
เหตุการณ์จับกุมผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจันทบุรีได้ทำการจับกุมหญิงวัย 28 ปี บริเวณหน้าร้านค้าวัสดุแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด โดยผู้ต้องหาเป็นบุคคลตาม หมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.337/2568 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ในข้อหา “ยักยอกทรัพย์เพราะผู้อื่นส่งมอบให้ โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด”
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหา รับเงินโอนจากบุคคลอื่นผิดบัญชีจำนวนกว่า 200,000 บาท แต่กลับนำเงินไปใช้โดยไม่ได้คืน เจ้าของบัญชีซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ทวงถามและขอเงินคืนหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือ
รายละเอียดคดีและพฤติกรรมผู้ต้องหา
ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาทำการ นำเงินที่ผู้อื่นโอนผิดบัญชีไปใช้ส่วนตัว โดยไม่ติดต่อคืนเจ้าของเงิน และไม่แจ้งธนาคารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือว่า เข้าข่ายการยักยอกทรัพย์ ตามกฎหมายอาญา
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ แสดงหมายจับต่อผู้ต้องหาและแจ้งสิทธิ ของผู้ต้องหาอย่างครบถ้วน ผู้ต้องหาได้ยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนควบคุมตัวส่งต่อไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ลาภมิควรได้: ความหมายและบทบัญญัติทางกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ำว่า กรณีที่มี เงินโอนเข้าบัญชีโดยไม่มีที่มาที่ไป ถือเป็นกรณีที่กฎหมายเรียกว่า “ลาภมิควรได้”
คำว่า ลาภมิควรได้ หมายถึง ทรัพย์สินหรือเงินที่บุคคลหนึ่งได้รับมาโดยปราศจากมูลเหตุทางกฎหมายที่จะอ้างสิทธิ์ และเป็นทรัพย์ที่ทำให้บุคคลอื่นเสียประโยชน์ ซึ่งตาม มาตรา 406 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า:
“บุคคลที่ได้ทรัพย์มานั้นมีหน้าที่ต้องคืนทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหาย”
ดังนั้น หากบุคคลได้รับเงินที่โอนผิดบัญชีหรือได้ทรัพย์สินโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับนำไปใช้หรือไม่คืน จะถือว่ากระทำ ผิดกฎหมายและเข้าข้อหายักยอกทรัพย์
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับยักยอกทรัพย์
การนำเงินหรือทรัพย์สินของผู้อื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็น การยักยอกทรัพย์ ซึ่งอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา การกระทำดังกล่าวมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
1. การได้รับมอบโดยสำคัญผิด – ผู้ได้รับเงินหรือทรัพย์ต้องได้รับโดยไม่รู้หรือสำคัญผิดในช่วงแรก แต่หากรู้ว่าทรัพย์ไม่ใช่ของตนและนำไปใช้ ถือว่าเข้าข่ายยักยอก
2. เจตนาในการครอบครอง – หากผู้รับทรัพย์มีเจตนาจะไม่คืนหรือใช้ทรัพย์เพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างถาวร จะถือว่าเข้าข่ายยักยอกทรัพย์อย่างชัดเจน
3. บทลงโทษ – ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา อาจมีโทษทั้งจำคุกและปรับ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินและความร้ายแรงของคดี
กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้เงินโอนเข้าผิดบัญชีโดยไม่คืนเจ้าของเป็นเรื่องร้ายแรง และไม่สามารถอ้างว่ามีสิทธิ์ในทรัพย์นั้นตามหลักกฎหมาย
ตัวอย่างกรณีลาภมิควรได้ในสังคม
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางครั้งผู้คนจะได้รับ เงินหรือทรัพย์สินโดยบังเอิญ เช่น เงินโอนผิดบัญชี, การส่งเงินผิดบัญชี หรือการได้ของที่ไม่มีเจ้าของ แต่กฎหมายได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้รับทรัพย์มีหน้าที่ต้องคืน
ในหลายกรณีที่เกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ พบว่าผู้ที่นำเงินเหล่านี้ไปใช้ส่วนตัว เช่น การซื้อของหรู, การชำระหนี้ส่วนตัว หรือการโอนต่อให้บุคคลอื่น ถือเป็น ความผิดทางอาญา และหากถูกฟ้องร้องอาจต้องคืนเงินพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
การตระหนักรู้ของประชาชน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นความสำคัญของ ความตระหนักรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ไม่ได้เป็นของตน
หากพบเงินเข้าบัญชีโดยไม่ถูกต้อง ควร ติดต่อธนาคารและเจ้าของบัญชีทันที
ไม่ควรใช้เงินหรือโอนต่อให้บุคคลอื่น เพราะอาจเข้าข่ายลาภมิควรได้และยักยอกทรัพย์
การปฏิบัติอย่างถูกต้องช่วย ป้องกันปัญหาทางกฎหมาย และลดความเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี
สรุปความคืบหน้าคดี
ผู้ต้องหาเป็น หญิงวัย 28 ปี ถูกจับกุมในพื้นที่อำเภอเมืองตราด
สาเหตุการจับกุมมาจาก การนำเงินโอนผิดบัญชีจำนวนกว่า 200,000 บาทไปใช้ส่วนตัว
ผู้ต้องหาเข้าข่าย ยักยอกทรัพย์ และกำลังถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างของ ลาภมิควรได้ และเป็นบทเรียนสำหรับผู้ใช้งานบัญชีออนไลน์และประชาชนทั่วไป
คดีนี้สะท้อนให้เห็นว่าการ ได้รับเงินโดยบังเอิญไม่ใช่สิทธิ์ในการครอบครอง และการนำเงินไปใช้โดยไม่ได้คืนเจ้าของ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษร้ายแรง
บทสรุป:
เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างสำคัญของการปฏิบัติตนในสังคมที่เน้นความโปร่งใสและความถูกต้องทางกฎหมาย การได้รับทรัพย์สินโดยไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่สิทธิ์ในการครอบครอง และกฎหมายมีบทบัญญัติชัดเจนให้คืนทรัพย์แก่ผู้เสียหาย การศึกษาเรื่อง ลาภมิควรได้ และ การยักยอกทรัพย์ เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคน








