โป๊ะแตก! ทหารเขมรใส่หน้ากาก อ้างไทยใช้แก๊สพิษ สุดท้ายแค่ศพเพื่อนตัวเอง
ทหารกัมพูชามโนหนัก! อ้างทหารไทยใช้แก๊สพิษ สุดท้ายกลายเป็นเพียงกลิ่นศพจากฝ่ายตัวเอง
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 โลกโซเชียลต่างเต็มไปด้วยการพูดถึงภาพและเรื่องราวที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลาย เกี่ยวกับพฤติกรรมของ ทหารกัมพูชา หรือที่คนไทยมักเรียกว่า “ทหารเขมร” ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะหวาดระแวงและตีความผิดพลาด โดยพวกเขาเข้าใจไปเองว่ากองทัพไทย หรือที่ทหารเขมรมักเรียกว่า “เสียม” ใช้ แก๊สพิษ ในการโจมตี จนต้องใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทหารกัมพูชาคิด เพราะแท้จริงแล้ว กลิ่นที่พวกเขารับรู้อย่างรุนแรงจนทำให้เกิดความหวาดกลัวนั้น ไม่ได้มาจากอาวุธเคมีใด ๆ ของกองทัพไทย แต่เป็นเพียง กลิ่นศพทหารกัมพูชาฝ่ายเดียวกันเอง ที่เสียชีวิตอยู่ตามแนวชายแดน และไม่ได้รับการเก็บกู้ศพอย่างเหมาะสม
จุดเริ่มต้นของกระแส “กลิ่นปริศนา” ที่ทหารกัมพูชามโนว่าเป็นแก๊สพิษ
เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ของกัมพูชา ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากทหารเขมรคนหนึ่ง ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนบริเวณเทือกเขาพนมดงรักษ์ โดยในคลิปดังกล่าวเขาได้กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและเต็มไปด้วยความหวาดระแวงว่า
“ตอนนี้ผมแยกไม่ออกระหว่างแก๊สพิษหรือหมอก กองทัพพูดกับพวกเราเสมอว่าพวกเสียมจะใช้แก๊สพิษโจมตี แต่สิ่งที่แปลกคือผ่านมาแล้วหลายวัน ไม่มีนกหรือสัตว์ป่าตายสักตัว มีเพียงกลิ่นเหม็นเน่าแปลก ๆ ที่พัดมากับสายลม โดยเฉพาะช่วงบ่าย ๆ ที่พัดมาจากทางพนมดงรักษ์”
ทหารผู้นี้ยังกล่าวเสริมอีกว่า ผู้บัญชาการของเขาได้อธิบายว่ากลิ่นนั้นอาจมาจาก ซากช้างที่ตายอยู่ในป่า หรือไม่ก็เป็นศพทหารไทยที่เสียชีวิตในสนามรบ แต่เขาเองก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด จึงเลือกที่จะเชื่อฟังคำสั่งและใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลาเพื่อ “ความปลอดภัย”
สังคมออนไลน์จับโป๊ะ – ความจริงคือกลิ่นศพฝ่ายตัวเอง
เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้สร้างเสียงหัวเราะปนความเศร้าในโลกออนไลน์ทันที โดยเฉพาะในฝั่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียของไทย หลายคนมองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็น “การมโนเกินจริง” ของทหารกัมพูชา เพราะความจริงแล้ว หากเป็นการโจมตีด้วยแก๊สพิษจริง ๆ จะต้องมีผลกระทบชัดเจน เช่น การตายของสัตว์ป่า นก หรือแม้แต่พืชในบริเวณนั้น แต่จากคำให้การของทหารกัมพูชาเองกลับบอกว่า ไม่มีสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ ตาย มีเพียงกลิ่นเน่าเหม็นที่โชยมาตามสายลม
สิ่งนี้เองทำให้หลายฝ่ายฟันธงได้ไม่ยากว่า กลิ่นที่ทหารเขมรกำลังพูดถึงนั้น แท้จริงแล้วคือ กลิ่นศพของทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดน ที่ไม่ได้มีการเก็บศพหรือดำเนินการฝังอย่างถูกต้อง จึงส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงไปทั่วพื้นที่ และสร้างความเข้าใจผิดให้กับกำลังพลที่ยังมีชีวิตอยู่
ดราม่าออนไลน์ – “ทหารเขมรหลอนหนัก คิดว่าศพคือแก๊สพิษ”
เรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมไทย หลังจากเพจดัง Drama-addict นำภาพและข้อความดังกล่าวมาเผยแพร่ พร้อมระบุข้อความสั้น ๆ แต่ชัดเจนว่า
“หลอนฉิบหาย ทหารเขมรมโนว่ากลิ่นศพเป็นแก๊สพิษ เลยต้องใส่หน้ากากตลอด”
โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลในทันที มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการแซวและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการขาดความรู้พื้นฐานของทหารกัมพูชา บางคนถึงขั้นบอกว่า “ถ้ามีก๊าซพิษจริง ๆ ป่านนี้ทั้งป่าคงตายเรียบแล้ว” ในขณะที่บางความเห็นก็แสดงความสงสาร เพราะมองว่าทหารชั้นผู้น้อยเหล่านี้อาจเป็นเพียงเหยื่อของคำสั่งและข้อมูลที่บิดเบือนจากผู้บังคับบัญชา
มุมมองด้านการทหารและจิตวิทยา
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่า เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “สงครามจิตวิทยา” และ “ความกลัวที่ถูกสร้างขึ้น” ในพื้นที่ความขัดแย้ง ทหารกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในแนวชายแดนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความหวาดระแวง เนื่องจากได้รับการปลูกฝังมาตลอดว่าประเทศไทยอาจใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ รวมถึงอาวุธเคมีเพื่อโจมตี เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น กลิ่นเน่าเหม็น พวกเขาจึงเชื่อมโยงทันทีว่าเป็น “แก๊สพิษ” โดยไม่ใช้เหตุผลหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ
ในความเป็นจริงแล้ว “แก๊สพิษ” เป็นอาวุธที่มีข้อห้ามอย่างเข้มงวดตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ หากมีการใช้จริงย่อมสร้างผลกระทบรุนแรงที่ตรวจสอบได้ทันที ทั้งต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม แต่สิ่งที่ทหารกัมพูชาประสบกลับไม่ใช่ลักษณะดังกล่าว จึงสะท้อนถึงการขาดความรู้ ความเข้าใจ และการถูกหลอกด้วยข้อมูลที่บิดเบือน
กลิ่นศพกับสภาพสนามรบ – ปัญหาที่ไม่ได้รับการจัดการ
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าพิจารณาคือ การจัดการกับศพทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ ฝ่ายกัมพูชามักมีปัญหาในการเก็บศพหรือดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม ทำให้ศพจำนวนมากถูกทิ้งไว้ตามแนวชายแดน เมื่อเวลาผ่านไป ศพเหล่านี้ก็เน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จนสร้างความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดแก่ทหารที่ยังมีชีวิตอยู่
ในทางตรงกันข้าม กองทัพไทยมักมีมาตรการชัดเจนในการจัดการกับผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทหารฝ่ายตนเองหรือแม้กระทั่งฝ่ายตรงข้าม เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจต่อกำลังพล รวมถึงการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่จากกรณีนี้แสดงให้เห็นว่ากองทัพกัมพูชายังขาดระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
กระแสประชาชนไทย – ทั้งขำ ทั้งสงสาร
แม้หลายคนจะมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องขำขัน แต่มุมหนึ่งก็สะท้อนถึงความน่าเศร้า เพราะทหารชั้นผู้น้อยเหล่านี้เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง พวกเขาอาจไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ และถูกทำให้เชื่อว่า “กลิ่นศพ” คือ “แก๊สพิษ” โดยไม่กล้าตั้งคำถามใด ๆ กับผู้บังคับบัญชา
ชาวเน็ตบางคนได้แสดงความเห็นว่า “ทหารเหล่านี้ก็คือคนธรรมดาที่ถูกส่งมาเสี่ยงตาย แต่กลับต้องมาเจอกับข้อมูลผิด ๆ ที่ทำให้ชีวิตยิ่งเครียดและหวาดระแวง” ในขณะที่อีกหลายคนก็ชี้ให้เห็นว่า หากกองทัพกัมพูชาต้องการความน่าเชื่อถือในเวทีสากล ควรหันมาใส่ใจเรื่องความจริงและความโปร่งใสมากกว่าการสร้างเรื่องราวมโน
บทสรุป
เหตุการณ์ “ทหารกัมพูชามโนว่ากลิ่นศพคือแก๊สพิษ” ถือเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนถึง ความกลัว ความไม่รู้ และการบิดเบือนข้อมูล ในพื้นที่ชายแดนอย่างชัดเจน มันไม่ได้เพียงแค่สร้างเสียงหัวเราะในโลกออนไลน์ แต่ยังตอกย้ำถึงความแตกต่างด้านมาตรฐานการทหาร การจัดการสนามรบ และการดูแลกำลังพลระหว่างไทยกับกัมพูชา
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้อาจจะเป็นเพียง “ดราม่าเล็ก ๆ” ในโลกโซเชียล แต่ก็ทิ้งคำถามสำคัญเอาไว้ว่า หากความไม่เข้าใจและการมโนเกินจริงยังดำเนินต่อไป จะส่งผลต่อความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความปลอดภัยของทหารชั้นผู้น้อยอย่างไร
อ้างอิงจาก: เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
มิสทีนเขมร ขึ้นเวที กล่าวสุนทรพจน์สร้างความตึงเครียดประโยคเด็ดประเทศไทยเป็นผู้เริ่มสงคราม
เลขเด็ด "ปฏิทินท่านท้าวเวสสุวรรณ" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68 ส่องเลย..เลขไหนเข้าตา!!
จับหมอปลอม เปิดคลินิกเถื่อนกว่า 10 ปีในกรุงเทพ
"ฮุนเซน" วอนประชาชน "อย่าสุดโต่ง" แบนสินค้าไทย ลั่น "ไม่ว่าไทยหรือต่างชาติเมื่อผลิตสินค้าในกัมพูชาก็ถือว่าเป็นของกัมพูชา
ลุ้นรับ 4,000 บาท สรุปให้ชัด คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ลงทะเบียนวันไหน ใครบ้างมีสิทธิ์
🔥 ชิมให้ถึงแก่น! "ฟูฟู" (Fufu) ก้อนแป้งแอฟริกันสุดนุ่มหนึบ ที่กลายเป็นไวรัลสายคลีนและสาย Exotic!
"ฮุนเซน" ยัน!! "ปิดด่าน 500 ปีเขมรก็ไม่อดตๅย!!"
เขมรไม่ง้อไทย "อันวาร์" โวรับแรงงานเขมร มาทำงานมาเลเซีย ตาม MOU2023 พร้อมต้อนรับอย่างดี
🚨 ฉีกหน้าข่าวลวงชายแดน ทบ.เปิดโปงความจริงสุดช็อก เบื้องหลัง ฮีโร่ กัมพูชา คือเชลยศึก พิษสุราเรื้อรัง เสียสติ
ทำไมไซตามะจึงเต็มไปด้วยฮีโร่ท้องถิ่น?
หญิงไทยวัย 18 ใช้มีดฟันหัวแฟนหนุ่ม หลังถูกจับจมูกที่เพิ่งทำศัลยกรรมมา
"ลูกค้าคือเจ้านาย" ฮุนเซนเตือนไทย "อย่าลืมบุญคุณ" หลังเกษตรกรไทยเสียรายได้ 1.6 แสนล้านบาท เพราะถูกเขมรคว่ำบาตร
เขมรไม่ง้อไทย "อันวาร์" โวรับแรงงานเขมร มาทำงานมาเลเซีย ตาม MOU2023 พร้อมต้อนรับอย่างดี
หนุ่มจีนนั่งยองๆอึที่สถานนีรถไฟฟ้าแบบเนียนๆ
ทรัมป์ยอมถอย ของกินแพงขึ้นหนัก กลืนน้ำลายตัวเอง สั่งยกเลิกภาษีนำเข้าบางรายการ ซื้อใจฐานเสียงก่อนเลือกตั้ง
🔥 ชิมให้ถึงแก่น! "ฟูฟู" (Fufu) ก้อนแป้งแอฟริกันสุดนุ่มหนึบ ที่กลายเป็นไวรัลสายคลีนและสาย Exotic!
สาธุ 2 เปิดม่านธุรกิจศรัทธา เมื่อการเมืองเข้ามาพัวพัน เดิมพันนี้สูงกว่าเดิม!





