“แวนด้า” ถูกถอดพรีเซนเตอร์โค้ก – ฮุน เซน รีบสั่งเบรกแคมเปญแบน
โคคา-โคลา กัมพูชาปลด “VannDa” เหตุโพสต์การเมือง ปมชายแดนไทย–กัมพูชาเดือด ฮุน เซน ต้องออกโรงห้ามประชาชนแบนสินค้าอเมริกัน
สถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ กำลังลุกลามบานปลายและส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ไม่เพียงแต่ด้านการเมืองและความมั่นคงเท่านั้น หากแต่ยังขยายวงไปถึงแวดวงบันเทิงและเศรษฐกิจของกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กรณีล่าสุดที่ถูกจับตามองอย่างหนักคือ บริษัทโคคา-โคลา กัมพูชา ได้ประกาศยุติสัญญากับศิลปินชื่อดังระดับประเทศ “VannDa” (แวนด้า) แร็ปเปอร์ขวัญใจวัยรุ่นกัมพูชา หลังเจ้าตัวโพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาการเมืองและประเด็นชายแดนไทย–กัมพูชา จนถูกมองว่าเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงของแบรนด์ระดับโลกที่กำหนดให้พรีเซนเตอร์ต้องรักษาภาพลักษณ์ในเชิงบวก และห้ามยุ่งเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง
โคคา-โคลา กัมพูชา “ฟ้าผ่า” ยุติสัญญา VannDa
เพจ The Wild Chronicles Group ซึ่งเป็นเพจที่รวบรวมข่าวต่างประเทศและประเด็นทางการเมือง เผยว่า หลังจากโคคา-โคลา กัมพูชาลบภาพโปรโมตของ VannDa ออกจากช่องทางสื่อสารต่าง ๆ และประกาศยุติสัญญาอย่างเป็นทางการ กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชาก็ปะทุขึ้นทันที
หลายคนแสดงความโกรธและผิดหวังที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกเลือกจะ “ทิ้ง” ศิลปินที่เป็นเสมือนตัวแทนคนรุ่นใหม่ของกัมพูชาเพียงเพราะความคิดเห็นทางการเมือง ขณะที่บางส่วนมองว่า เรื่องนี้สะท้อนถึงการเมืองระดับโลกที่ซับซ้อน ซึ่งแบรนด์สัญชาติอเมริกันอาจไม่ต้องการเสี่ยงให้ภาพลักษณ์ของตนเข้าไปเกี่ยวพันกับข้อพิพาทไทย–กัมพูชา
ชาวกัมพูชาเดือด แห่ถล่มเพจโคคา-โคลา
กระแสต่อต้านไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโลกออฟไลน์ ชาวกัมพูชาหลายหมื่นคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดในเพจเฟซบุ๊กของโคคา-โคลา กัมพูชา พร้อมติดแฮชแท็กเรียกร้องให้ “แบน” สินค้าของโคคา-โคลาในประเทศ
ข้อความที่ชาวเน็ตกัมพูชาโพสต์ เช่น
“โคคา-โคลาไม่เห็นคุณค่าของศิลปินกัมพูชา”
“แวนด้าคือเสียงของคนรุ่นใหม่ แต่กลับถูกปิดกั้น”
“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสนับสนุนสินค้าในชาติแทนการพึ่งพาของต่างชาติ”
ความโกรธนี้ไม่ได้เพียงเพราะการปลดแวนด้าออกจากตำแหน่งพรีเซนเตอร์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนความไม่พอใจที่คนกัมพูชารู้สึกว่า บริษัทข้ามชาติอเมริกัน “ไม่เคารพ” ความรู้สึกและบริบทของประเทศตน
สาเหตุการปลด: การเมืองคือเส้นแดงของแบรนด์ระดับโลก
สำหรับเหตุผลเบื้องหลังการปลด VannDa ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดระบุว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่โคคา-โคลาในฐานะแบรนด์ระดับโลกจะมีนโยบายเข้มงวดต่อพรีเซนเตอร์ โดยเฉพาะข้อห้ามเกี่ยวกับการเมือง ศาสนา และความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ในสัญญาของพรีเซนเตอร์มักกำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามใช้ชื่อเสียงไปในทางที่สร้างความขัดแย้ง หรือนำแบรนด์เข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทที่อาจกระทบต่อฐานลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ดังนั้น เมื่อแวนด้าโพสต์ความคิดเห็นเชื่อมโยงกับปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา จึงถูกมองว่าเข้าข่ายเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของโคคา-โคลาในภูมิภาคนี้
ฮุน เซน อดีตนายกฯ ต้องออกโรงกลางดึก
สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ร้อนแรงยิ่งขึ้นคือ การที่ สมเด็จเดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของกัมพูชา ต้องออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในช่วงหลังเที่ยงคืน (18 สิงหาคม 2568) เพื่อขอให้ประชาชนหยุดกระแสแบนโคคา-โคลา
ฮุน เซน ระบุว่า แม้โคคา-โคลาเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกัน แต่การดำเนินธุรกิจในกัมพูชาก็สร้างงานให้กับแรงงานในประเทศนับพันคน และยังเสียภาษีให้กับรัฐบาลกัมพูชา หากประชาชนกดดันให้บริษัทถอนธุรกิจออกไป ผู้ที่เสียหายที่สุดก็คือชาวกัมพูชาเอง
คำเตือนของฮุน เซน: อย่าเปิดช่องให้ศัตรู
ในโพสต์ดังกล่าว ฮุน เซน ยังเตือนสติว่า หากโคคา-โคลาและบริษัทต่างชาติรายใหญ่อื่น ๆ ตัดสินใจถอนตัวออกจากกัมพูชา จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ “ศัตรู” ภายนอกต้องการอยู่แล้ว นั่นคือการบ่อนทำลายเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของกัมพูชา
นอกจากนี้ เขายังชี้ว่า การสร้างศัตรูกับสหรัฐอเมริกาไม่ใช่สิ่งที่กัมพูชาควรทำ เพราะจะนำไปสู่ปัญหาทางการทูตและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คนธรรมดาในกัมพูชาจะเป็นผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุด
ฮุน เซน ปลอบใจ VannDa
แม้จะย้ำเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ฮุน เซน ก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความปลอบใจถึง VannDa โดยตรง โดยกล่าวว่า
“พ่อหวังว่าแวนด้าจะเข้าใจ แม้ว่าลูกจะถูกยกเลิกสัญญาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ขอให้ลูกอดทนเพื่อประโยชน์ของชาติ แวนด้าคือสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณการเสียสละเพื่อส่วนรวมของชาติ”
ถ้อยคำนี้ถูกตีความว่า ฮุน เซน ต้องการให้สังคมกัมพูชามองว่า การเสียสละของแวนด้าแม้จะเจ็บปวด แต่เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศโดยรวม
แวนด้า: ไม่ใช่แค่แร็ปเปอร์ แต่คือ “สัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่”
VannDa ถือเป็นศิลปินที่มีบทบาทสำคัญในวงการดนตรีกัมพูชา ด้วยสไตล์แร็ปที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับสากลอย่างลงตัว เพลงของเขามักสะท้อนชีวิตคนรุ่นใหม่ ความฝัน และความภาคภูมิใจในความเป็นกัมพูชา ทำให้เขากลายเป็นไอดอลที่มีแฟนคลับทั้งในและนอกประเทศ
การที่เขาถูกถอดจากการเป็นพรีเซนเตอร์โคคา-โคลา จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่สะเทือนใจแฟนเพลงและถูกมองว่าเป็น “การปิดปากคนรุ่นใหม่” โดยเฉพาะในบริบทที่คนกัมพูชาหลายคนกำลังมีความรู้สึกอ่อนไหวกับปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา
บทวิเคราะห์: เส้นบาง ๆ ระหว่างเศรษฐกิจกับอารมณ์ชาตินิยม
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงเส้นบาง ๆ ระหว่าง เศรษฐกิจ และ อารมณ์ชาตินิยม
ฝั่งหนึ่ง ชาวกัมพูชารู้สึกว่าศิลปินของพวกเขาถูก “ทอดทิ้ง” อย่างไม่เป็นธรรม และตอบสนองด้วยการใช้พลังโซเชียลมีเดียถล่มแบรนด์ต่างชาติ
อีกฝั่งหนึ่ง รัฐบาลและผู้นำทางการเมืองต้องการรักษาความสัมพันธ์กับบริษัทต่างชาติ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน
ความขัดแย้งนี้จึงไม่ได้มีคำตอบที่ง่าย เพราะทั้ง “การปกป้องศักดิ์ศรี” และ “การรักษาผลประโยชน์ชาติ” ต่างก็สำคัญพอ ๆ กัน
บทสรุป
กรณี โคคา-โคลา กัมพูชา ปลด VannDa ไม่ได้เป็นเพียงข่าวบันเทิงหรือการตลาดธรรมดา แต่สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การที่อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลอย่างฮุน เซน ต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วยตนเอง แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มีน้ำหนักมากกว่าการปลดพรีเซนเตอร์ทั่วไป แต่เกี่ยวพันกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความรู้สึกของประชาชน
สุดท้าย คำถามที่น่าคิดคือ สังคมกัมพูชาจะหาทางออกอย่างไร ระหว่างการปกป้องศักดิ์ศรีของศิลปินที่รัก กับการรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะไม่ว่าทางเลือกใดก็ย่อมมีทั้งผู้ที่เสียใจและผู้ที่ต้องยอมเสียสละ
อ้างอิงจาก: FB/The Wild Chronicles Group สมาคม ผู้สนใจประวัติศาสตร์ สงคราม ข่าวต่างประเทศ,
FB/វ៉ាន់ សារាយ Vann Saray






















