จับได้คาหนังคาเขา ทหารเขมรวางทุ่นระเบิด-รื้อรั้วลวดหนามไทย งานนี้หลักฐานแน่นหนีไม่รอด
วันนี้ผมมีเรื่องราวร้อน ๆ จากชายแดนไทย–กัมพูชามาเล่าให้ฟังกันครับ บอกเลยว่าถ้าได้ตามต่อจนจบต้องมีอึ้ง เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องข่าวลือ ข่าวลวง หรือดราม่าชาวเน็ตธรรมดา ๆ แต่เป็นเรื่องระดับประเทศ ที่เกี่ยวกับ “อธิปไตยของชาติ” แบบเต็ม ๆ
คือหลายวันก่อน หลายคนคงเห็นคลิปในโซเชียลที่แชร์กันสนั่นว่าทหารเขมรเข้ามาปลดธงชาติไทย แถมยังรื้อรั้วลวดหนามออกไปด้วย ตอนแรกนี่ผมเองก็งง ๆ เลยครับ ว่ามันใช่ของจริงรึเปล่า เพราะถ้าคิดในมุมคนไทยนะครับ เราก็ต้องตั้งคำถามว่า “เอ๊ะ...ทหารไทยไปไหน?” ทำไมถึงปล่อยให้เขมรเข้ามารื้อของเราได้ง่าย ๆ แบบนั้น
แต่ปรากฏว่า…เรื่องนี้มีหักมุมครับ! เพราะกองทัพไทยออกมาแถลงชัดเลยว่า คลิปนั้นเป็น “ของปลอม” เป็นการจัดฉากของฝั่งกัมพูชาเอง เพื่อสร้างภาพให้ประชาชนเขมรเชื่อว่ากองทัพเขมรเก่งกล้า สามารถรื้อรั้วลวดหนามของไทยได้จริง ๆ แต่ความจริงแล้ว ลวดหนามของไทยยังอยู่ครบสมบูรณ์ ไม่ได้โดนแตะต้องอะไรเลย
โอเค ตรงนี้ก็ถือว่าเป็น Fake News ไปหนึ่งดอก แต่เดี๋ยวก่อนครับ เรื่องที่มันโคตรเข้มข้นกว่านั้นคือ “คลิปวางทุ่นระเบิด” ที่ออกมาทีหลังนี่แหละ!
ล่าสุด เพจ “กองทัพไทยทันกระแส” ปล่อยคลิปเต็ม ๆ ที่เห็นกันจะจะเลยครับ ว่ามีทหารเขมรกำลังวางทุ่นระเบิดอยู่จริง ๆ ไม่ใช่ภาพเบลอ ๆ มั่ว ๆ นะครับ แต่เป็นคลิปชัด ๆ เห็นทั้งหน้า ทั้งอาวุธ ทั้งชนิดของทุ่นระเบิดที่ใช้ เรียกว่า “คาหนังคาเขา” แบบดิ้นไม่หลุดเลยทีเดียว
ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาคือ ตั้งแต่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดไปแล้ว 5 ครั้ง! ทำให้มีทหารบาดเจ็บถึง 15 นาย ในจำนวนนี้มีถึง 5 นายที่ต้องเสียขาไป และอีก 10 นายก็บาดเจ็บสาหัส ฟังแล้วบอกเลยครับว่าจุกมาก ๆ เพราะนี่คือชีวิตของคนที่กำลังปกป้องชายแดนบ้านเราอยู่จริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างที่ทหารไทยพยายามเก็บกู้กับระเบิด ก็ยังถูกฝั่งเขมรขัดขวางถึง 16 ครั้ง! ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการละเมิดชัด ๆ เพราะพื้นที่ดังกล่าวคือดินแดนของไทย ไม่ใช่กัมพูชา
หลักฐานที่เก็บได้จากพื้นที่ก็ชัดเจนครับ ว่าทุ่นระเบิดที่ใช้เป็นรุ่นใหม่ ไม่ใช่ของเก่าที่เหลือมาจากสงครามในอดีต ตัวทุ่นยังเงาวับ ไม่มีสนิมเกาะ แถมไม่มีวัชพืชขึ้นคลุมด้วย ทำให้ยืนยันได้เลยว่ามีการ “วางใหม่” แบบเจตนาโจมตีทหารไทยแน่นอน
ตรงนี้บอกเลยว่าฝั่งไทยไม่ปล่อยผ่านครับ กระทรวงการต่างประเทศได้นำคลิปและหลักฐานทั้งหมดไปแถลงต่อคณะทูตเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สังคมโลกได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่เรื่องมันยังไม่จบง่าย ๆ เพราะฝั่งเขมรก็ยังออกมาโต้แย้งเต็มที่ พยายามบอกว่าถ้าทหารไทยเหยียบกับระเบิด ก็เพราะว่าไป “ลุกล้ำ” ดินแดนของกัมพูชาเอง บางคนในฝั่งเขมรยังกล้าเม้นท์หัวเราะเยาะอีกต่างหากว่า “สมแล้วที่โดนระเบิด” …อันนี้ผมอ่านแล้วคือเดือดแทนจริง ๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติที่ติดตามข่าวนี้ก็ออกมาวิจารณ์ฝั่งเขมรกันยับ บางคนถึงกับบอกว่า “คอมเมนต์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว” เพราะหลักฐานมันเห็นชัดว่าเป็นระเบิดใหม่ และมันถูกวางในพื้นที่ลาดตระเวนของไทยจริง ๆ ไม่ใช่ในเขมร
บางคอมเมนต์จากชาวต่างชาติถึงขั้นพูดแรงเลยว่า “ถ้ายังทำแบบนี้ ไทยก็ควรส่ง F16 ไปจัดการให้รู้แล้วรู้รอด” ฟังแล้วก็สะใจอยู่หรอกครับ แต่ในโลกความจริง มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกเนอะ
ส่วนตัวผมมองว่าเหตุการณ์นี้มันอันตรายมาก ๆ เพราะการวางทุ่นระเบิดเพื่อตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม มันเป็นการละเมิดอนุสัญญาสากลโดยตรง กัมพูชาเองก็เป็นสมาชิกสนธิสัญญาออตตาวาที่ห้ามใช้กับระเบิดต่อต้านบุคคล แต่ดันมาทำเสียเองแบบนี้ เรียกว่าผิดเต็ม ๆ ไม่ต้องเถียงเลยครับ
แล้วลองคิดดูสิครับ ถ้าเรื่องนี้มันบานปลายขึ้นมา ไม่ใช่แค่ไทยกับเขมรเท่านั้นที่กระทบ แต่ประเทศรอบ ๆ และนานาชาติก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องแน่ ๆ เพราะ “สงครามชายแดน” ไม่เคยจบลงด้วยดีสำหรับใครเลย
ผมเองในฐานะประชาชนธรรมดา อ่านแล้วก็อดห่วงทหารที่ชายแดนไม่ได้จริง ๆ เพราะพวกเขาคือคนที่ยืนอยู่แนวหน้า ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ในขณะที่เรานั่งสบายอยู่บ้าน เรื่องแบบนี้มันไม่ควรจะถูกทำเหมือนเป็นเกม หรือ Fake News มาหลอกกันเล่น ๆ เลยครับ
สรุปก็คือ งานนี้ “เขมรดิ้นไม่หลุด” เพราะหลักฐานมันแน่นมาก ทั้งคลิป ทั้งทุ่นระเบิด ทั้งรายงานบาดเจ็บ ทุกอย่างบอกชัดว่าเป็นการกระทำของฝั่งกัมพูชา ส่วนไทยเองตอนนี้ก็คงต้องเดินเกมการทูตต่อว่าจะฟ้องร้องหรือใช้กลไกสากลแบบไหนกดดันเขมรต่อไป
เอาเป็นว่า...เรื่องนี้คงต้องจับตาดูกันยาว ๆ ครับ เพราะไม่ใช่แค่ความขัดแย้งเล็ก ๆ ระหว่างสองประเทศ แต่มันคือเรื่องเกียรติ ศักดิ์ศรี และอธิปไตยของชาติเราแบบเต็ม ๆ เลยครับ






















