กินฟรี 340 หยวน! ร้านอาหารจีนพลิกวิกฤต "กินฟรี" กู้หน้าเมืองจิ้นเฉิง

ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย การที่ต้องมาเจอเหตุการณ์ การกินฟรี ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ประกอบการมากขึ้นไปอีก ทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองจิ้นเฉิง มณฑลชานซี ประเทศจีน กลับกลายเป็นเรื่องราวที่พลิกผันและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนอย่างไม่คาดฝัน 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองจิ้นเฉิง นายโกว่า ได้เผยแพร่วิดีโอวงจรปิดเพื่อตามหาลูกค้าครอบครัวหนึ่ง 5 คน ที่เข้ามาใช้บริการในร้านและจากไปโดยไม่ชำระค่าอาหารรวม 311.8 หยวน (ประมาณ 1,500 บาท) จากพฤติกรรมของครอบครัวนี้ที่ดูเหมือนจะวางแผนมาอย่างดี ทั้งการทำทีสอบถามราคาหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ชำระเงิน เจ้าของร้านถึงกับกล่าวว่า "พวกเขาเป็นมืออาชีพจริงๆ" และยอมรับว่าไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงต้องหนีจ่ายค่าอาหารเพียงไม่กี่ร้อยหยวน ทั้งที่ร้านของเขาก็เป็นร้านอาหารราคาประหยัดที่คิดค่าบริการเฉลี่ยต่อคนเพียง 40-50 หยวน 

หลังจากปรึกษาทนายความและได้รับแจ้งว่าคดีอาจไม่สามารถดำเนินการได้ทันที อีกทั้งการเผยแพร่วิดีโออาจไม่เหมาะสม นายกั่วจึงตัดสินใจไม่แจ้งความกับตำรวจในทันที แต่กลับเลือกที่จะประกาศผ่านสื่อออนไลน์ว่า "เงินจำนวนนี้ไม่สำคัญ จะถือว่าผมเป็นตัวแทนของชาวเมืองจิ้นเฉิงเลี้ยงพวกเขา" การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างและความมีน้ำใจของเจ้าของร้านที่ต้องการปกป้องชื่อเสียงของเมืองมากกว่าการยึดติดกับเงินจำนวนเล็กน้อย 

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่วิดีโอถูกเผยแพร่ออกไป ครอบครัวที่กินฟรีได้ติดต่อกลับมายังเจ้าของร้าน พร้อมทั้งโอนเงินค่าอาหารจำนวน 311.8 หยวนผ่าน WeChat และแสดงความขอโทษอย่างจริงใจ พวกเขาอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิด โดยมีพนักงานแจ้งว่าได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้พวกเขาออกจากร้านไป เจ้าของร้านได้ยอมรับคำขอโทษและลบวิดีโอที่เคยเผยแพร่ออกไป 

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา "การกินฟรี" ที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของการให้อภัยและความเข้าใจ เจ้าของร้านนายกั่วได้เปลี่ยนสถานการณ์ที่น่าจะจบลงด้วยความขุ่นเคืองให้กลายเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของเมืองจิ้นเฉิง และสร้างความประทับใจให้กับผู้คนจำนวนมาก การกระทำของเขาเป็นบทเรียนที่สำคัญว่าในบางครั้ง การแสดงน้ำใจและความใจกว้าง อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่เราคาดคิด และยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของสังคมโดยรวมอีกด้วย