ทีมคุณกิ๊ก vs ทีมหมอปลา “มนุษย์กับวิธีจัดการเวร”
ทีมกิ๊ก vs ทีมหมอปลา: เมื่อ "เวรย่อมระงับ" แปลต่างกัน
ในเวทีโซเชียล จากรายการโหนกระแส วันนี้ ชื่อของ “กิ๊ก มยุริญ” และ “หมอปลา” กลายเป็นคู่สนทนาที่คนแบ่งข้างกันอย่างชัดเจน ทั้งคู่พูดถึงเรื่องเดียวกัน วิธีจัดการกับ “เวร” แต่กลับใช้คนละภาษาคนละวิธีคิดอย่างสิ้นเชิง
คุณกิ๊ก มยุริญ มองคำว่า “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” ผ่านเลนส์ทางพุทธศาสนาแบบเคร่งครัด
เธอพูดถึง “อกุศล” “จิตสุดท้าย” และผลลัพธ์ของความโกรธเกลียดที่อาจพาไปสู่ “ทุคติ วินิบาต นรก” ซึ่งเป็นภาพโลกหลังความตายแบบศาสนาพุทธดั้งเดิม กิ๊กสื่อสารด้วยภาษาที่ให้ความสำคัญกับ การดูแลใจตนเอง และการหยุดวงจรเวรตั้งแต่ภายใน
ในอีกฟาก หมอปลาเลือกใช้ภาษาแบบ ภาคสนาม ที่ตรงไปตรงมา
เขายอมรับว่า สำหรับตัวเอง “เวรย่อมระงับด้วยการถีบหน้าอีเวช” คือการตอบโต้แบบไม่ปล่อยผ่าน เพราะถ้าคนเลวจะให้สรรเสริญ มัน “ไม่ใช่” สำหรับเขา ภาษาของหมอปลามีน้ำเสียงของคนทำงานเชิงปฏิบัติที่เน้น “ตอบสนองต่อความเลวทันที” เพื่อยุติสถานการณ์ตรงหน้า มากกว่าการมองผลระยะยาวทางจิตใจ
ภาษากับรากความคิด
-
คุณกิ๊ก ใช้ภาษาเชิงนามธรรม อ้างอิงหลักธรรมและผลกรรมระยะยาว
-
หมอปลา ใช้ภาษาเชิงกายภาพ อ้างอิงการตอบสนองเฉพาะหน้าและประสบการณ์จริง
การสนทนาธรรมในวันนี้ เราเห็นความต่างของ “โลกทัศน์” ที่อยู่เบื้องหลัง
-
ฝั่งกิ๊ก คือโลกทัศน์แบบ โลกคู่กรรม ที่ชีวิตนี้กับโลกหน้าเชื่อมต่อกันด้วยผลของการกระทำ
-
ฝั่งหมอปลา คือโลกทัศน์แบบ โลกเดียวตรงนี้ ที่ปัญหาต้องแก้ทันตา และความยุติธรรมต้องมีให้เห็นทันที
มนุษย์มักเลือกข้างตามวิธีคิดที่ใกล้เคียงกับประสบการณ์ชีวิตตัวเอง
-
คนที่ผ่านการฝึกใจหรือเชื่อในพลังของการให้อภัย อาจเห็นด้วยกับกิ๊ก เพราะมันสอดคล้องกับวิธีจัดการอารมณ์ที่ไม่ให้เรื่องคาราคาซัง
-
คนที่เคยเจ็บจากการนิ่งเฉย หรือเห็นว่าการให้อภัยคือการปล่อยให้ความอยุติธรรมลอยนวล อาจรู้สึกว่าแนวหมอปลาคือ “จริง” และ “ตรง”
ในส่วนตัวสำหรับมุมมองผม สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่ว่าใครถูกกว่า แต่คือการเห็นว่า “เวร” ในวัฒนธรรมไทยเป็นแนวคิดที่ยืดหยุ่นมากพอที่จะถูกตีความได้ทั้งแบบทางธรรมและทางโลก จนเกิด “สองภาษา” ที่อยู่ในสังคมเดียวกัน
นี่จึงไม่ใช่แค่การเลือกทีมกิ๊กหรือทีมหมอปลา
แต่คือการเลือกว่าคุณเชื่อใน การดับไฟด้วยน้ำเย็น หรือ การดับไฟด้วยไฟที่แรงกว่า
และคำตอบนั้นสะท้อนตัวตนของคุณมากกว่าที่คิด
ขอบพระคุณ ข่าวและภาพ จากรายการโหนกระแส/ เพจ FB โหนกระแส










