ทหารเขมรเซลฟี่คู่จรวด RM-70 อวดคนไทย
สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา: ภาพทหารกัมพูชาโพสต์คู่จรวด RM-70 สร้างความวิตก
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตัวในวงการความมั่นคงและสังคมไทย เมื่อเพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้เผยแพร่ภาพทหารกัมพูชารายหนึ่งที่โพสต์รูปตัวเองคู่กับ จรวดหลายลำกล้อง RM-70 โดยจุดที่น่าสังเกตคือช่วงเวลาที่ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ อยู่ในช่วงที่สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่ บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ทหารไทยได้ดำเนินมาตรการวางแนวรั้วลวดหนามและยางรถยนต์ เพื่อกำหนดเขตแดนไทยอย่างชัดเจน
การเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาในลักษณะนี้ได้สร้างความไม่พอใจและความวิตกกังวลให้กับหน่วยงานความมั่นคงไทย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นอย่างมาก
ความสำคัญของจรวดหลายลำกล้อง RM-70
อาวุธ RM-70 เป็นจรวดหลายลำกล้องที่มีพิสัยการยิงไกลกว่า 20 กิโลเมตร สามารถยิงหลายหัวรบพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน จรวดชนิดนี้ถูกพัฒนาโดย เชโกสโลวาเกีย และปัจจุบันมีการใช้งานในหลายประเทศ รวมถึงกัมพูชา การปรากฏภาพทหารกัมพูชาโพสต์คู่กับจรวดดังกล่าว จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมในการใช้กำลังทางทหาร
แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันว่าอาวุธ RM-70 ในภาพนั้นถูกนำไปใช้งานจริงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ แต่การโพสต์รูปเช่นนี้ถือเป็น สัญญาณเชิงสัญลักษณ์ ที่สามารถสร้างแรงกดดันและส่งผลต่อจิตวิทยาในสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดน
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
พื้นที่ บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ชายแดนที่ทหารไทยได้ดำเนินมาตรการเสริมความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง โดยการวาง แนวรั้วลวดหนามและยางรถยนต์ เพื่อกำหนดเขตแดนและแสดงอำนาจอธิปไตยของไทย
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อมาตรการดังกล่าว โดยมีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เช่น การโพสต์ภาพทหารคู่กับอาวุธหนัก การเคลื่อนย้ายกำลังทหาร และการตรวจสอบพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิด
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนยังคงเปราะบาง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางทหาร หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาช่องทางเจรจาและควบคุมสถานการณ์ได้
วิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์
การโพสต์ภาพทหารกัมพูชาคู่กับจรวด RM-70 อาจมีความหมายหลายประการ ทั้งในเชิง จิตวิทยาและสัญลักษณ์ทางการทหาร
1. สัญญาณเชิงสัญลักษณ์: การโพสต์ภาพคู่กับอาวุธหนัก อาจมีเป้าหมายเพื่อส่งสัญญาณถึงฝ่ายไทยว่าฝ่ายกัมพูชามีความพร้อมทางทหาร และสามารถตอบโต้ได้หากเกิดความขัดแย้ง
2. สร้างแรงกดดันต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน: การโพสต์อาวุธในช่วงเวลาที่ตึงเครียดสามารถสร้างความหวาดกลัวและแรงกดดันทางจิตวิทยา ทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตื่นตัว
3. การประเมินสถานการณ์ของฝ่ายไทย: ภาพดังกล่าวอาจถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อประเมิน ความพร้อมและจำนวนอาวุธ ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งสำคัญต่อการวางแผนและมาตรการป้องกัน
ปฏิกิริยาจากฝ่ายไทย
หน่วยงานความมั่นคงไทยได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ แนวชายแดน อ.สระแก้ว และยังคงเสริมความเข้มงวดในการลาดตระเวน ตรวจสอบแนวรั้ว และประสานงานกับชุมชนชายแดนเพื่อสร้างความเข้าใจและลดความตึงเครียด
ประชาชนในพื้นที่ชายแดนส่วนใหญ่รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยการแจ้งข่าวสารหากพบความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย นอกจากนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังใช้ข้อมูลจากสื่อโซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการติดตามสถานการณ์
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
แม้เหตุการณ์โพสต์ภาพอาวุธของทหารกัมพูชาจะยังไม่เกิดความรุนแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเตือนว่า ความตึงเครียดชายแดนในพื้นที่บ้านหนองจานยังคงมีความเสี่ยงสูง หากไม่มีการเจรจาและการควบคุมสถานการณ์ที่เหมาะสม
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
เกิดความเข้าใจผิดระหว่างทหารไทยและกัมพูชา อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางทหารโดยไม่ตั้งใจ
สร้างความตื่นตระหนกในชุมชนชายแดน ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่
กระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูต หากเหตุการณ์บานปลายและสื่อสาธารณะตีความผิดพลาด
บทสรุป
เหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาโพสต์ภาพคู่กับ จรวดหลายลำกล้อง RM-70 บริเวณช่วงเวลาที่ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญต่อ สถานการณ์ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
ฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งใช้มาตรการ ลาดตระเวนเสริมความมั่นคงและประสานงานกับประชาชน เพื่อป้องกันเหตุขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
ประชาชนและผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าได้จาก หน่วยงานความมั่นคงและสื่อมวลชน ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน การโพสต์และวิเคราะห์ภาพจากสื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
สถานการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้การโพสต์ภาพเพียงไม่กี่ภาพอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ในเชิงยุทธศาสตร์และจิตวิทยา กลับสามารถสร้างแรงกดดันและส่งผลต่อ ความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน ได้อย่างมาก
---





















