ย้อนเหตุการณ์ ลุงพลน้ำตาร่วง เจอศพน้องชมพู่ตรงผลชันสูตร
ย้อนคลิปสัมภาษณ์แรก “ลุงพล” หลังพบศพน้องชมพู่: พูดตรงกับผลชันสูตร ตำรวจสงสัยตั้งแต่แรก
หลังจากที่ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้โทษจำคุก นายไซย์พล วิภา หรือที่รู้จักในชื่อ “ลุงพล” ในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ เหตุการณ์นี้ทำให้สังคมและโลกออนไลน์หวนกลับมาสนใจพยานหลักฐาน รวมถึงบทสัมภาษณ์และคลิปเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีตอีกครั้ง โดยเฉพาะคลิปสัมภาษณ์แรกของลุงพลที่ผู้สื่อข่าวจาก ไทยรัฐ บันทึกไว้ ณ จุดที่พบศพน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563
คลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง ท่าทีและคำพูดที่น่าสนใจ ของลุงพล หลังพบร่างของน้องชมพู่ แม้ว่าลุงพลจะร้องไห้เสียใจอย่างหนัก แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็แสดงความสามารถในการ ควบคุมสถานการณ์ ด้วยการสั่งให้คนช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ และวางแผนเพื่อสกัดจับคนร้ายทันที
คำพูดแรกของลุงพล หลังพบศพน้องชมพู่
ในคลิปสัมภาษณ์แรก ลุงพลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
“ให้เจ้าหน้าที่วอแจ้งเลยครับ ทางนาหลวงอะไร ให้ดักหมดเลย ผู้ร้ายน่าจะรู้ตัว ไหวตัวทัน ทางบ้านกกตูมด้วยนะครับ แจ้งไปเลย”
แสดงให้เห็นถึง ความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้คนร้ายหนี และความตระหนักถึงความสำคัญของการแจ้งเจ้าหน้าที่ในทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
“ตอนนี้พี่คิดว่ายังไงครับ พี่”
และถามต่อว่า
“จากสภาพศพพี่คิดว่าน้องเป็นอะไรเสียชีวิตครับ”
ลุงพลตอบว่า
“ต้องมีคนลักพามาครับ”
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทำไมถึงคิดเช่นนั้น ลุงพลตอบว่า
“มันมีคนหายจากหมู่บ้านคนนึง แต่เขายังไม่วินิจฉัยว่าใช่หรือเปล่า”
และเมื่อถามว่าคนหายจากหมู่บ้านเป็นใคร ลุงพลตอบว่า
“เป็นคนบ้านเดียวกันครับ”
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า ชายคนนั้นอายุประมาณเท่าไร ลุงพลตอบว่า
“น่าจะประมาณ 30 กว่าครับ”
และกล่าวเพิ่มเติมว่า
“คาดว่าเขาคงหมดอาหารที่จะให้กินแล้ว เดี๋ยวผมต้องกลับไปถามพ่อแม่เขาอีกทีครับ เพราะเราคุยกันตลอด”
คำพูดนี้ถือเป็น จุดที่ตรงกับผลชันสูตรศพน้องชมพู่ ซึ่งระบุว่า การเสียชีวิตเกิดจากขาดอาหารและขาดน้ำ ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่า ลุงพลพูดตรงกับข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้น
วิเคราะห์คลิปเหตุการณ์โดยเพจ Drama-addict
เพจ Drama-addict ได้โพสต์วิเคราะห์เกี่ยวกับคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
“คลิปเหตุการณ์นี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ตำรวจเอ๊ะ เพราะตอนเจอร่างน้องชมพู่ น้องไม่ได้ใส่เสื้อผ้า คนทั่วไปหากพบเห็นอาจตีความว่าน้องถูกล่วงละเมิดจนเสียชีวิต แต่ผลชันสูตรในเวลาต่อมาไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดเลย
แต่ลุงพลพูดในตอนพบศพทันทีว่า น้องคงขาดอาหาร ซึ่งตรงกับผลชันสูตรพอดี ตำรวจเลยเอ๊ะร่วมกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่ชี้มาที่ลุงพลหมด พูดง่าย ๆ คือ ตำรวจสงสัยลุงพลตั้งแต่แรกเลย”
การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นถึง ความซับซ้อนของคดี และวิธีที่ตำรวจต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งสภาพศพ พฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานต่าง ๆ
ทำไมคลิปสัมภาษณ์แรกจึงมีความสำคัญ
1. สะท้อนท่าทีของผู้เกี่ยวข้อง
คลิปแสดงให้เห็นว่า ลุงพลเสียใจอย่างหนัก แต่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์และให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติการแก่ผู้รอบข้าง
2. ตรงกับผลชันสูตรศพ
คำพูดของลุงพลว่า “น้องคงขาดอาหาร” สอดคล้องกับผลการตรวจชันสูตรศพจริง
3. เป็นหลักฐานในการวิเคราะห์พฤติกรรม
เจ้าหน้าที่และนักจิตวิทยาสามารถนำไปใช้ศึกษาพฤติกรรมและการตอบสนองต่อเหตุการณ์รุนแรง
4. สื่อสะท้อนความเข้าใจสังคม
การเผยแพร่คลิปนี้ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลจากมุมมองของผู้เกี่ยวข้องโดยตรง และช่วยให้สังคมเห็นเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจบางอย่างของตำรวจ
ประเด็นที่ตำรวจสงสัยตั้งแต่แรก
เมื่อพิจารณาเหตุการณ์และพยานหลักฐานในช่วงแรก ตำรวจมีข้อสงสัยต่อ ลุงพล เนื่องจากหลายปัจจัยรวมกัน
การพบศพโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ทำให้ตำรวจตีความไปว่ามีความเป็นไปได้ที่เกิดการล่วงละเมิด
พฤติกรรมและการตอบคำถามของผู้เกี่ยวข้อง เช่น การบอกว่า “ต้องมีคนลักพา” ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ทันที
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานอื่น ๆ ที่ต้องรอผลตรวจเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต
แม้ว่าผลชันสูตรจะยืนยันว่า การเสียชีวิตเกิดจากขาดอาหารและน้ำ แต่ช่วงแรกตำรวจต้องตั้งข้อสังเกตหลายด้านเพื่อความรอบคอบ
บทบาทของสื่อและการเผยแพร่คลิป
สื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่เหตุการณ์ตั้งแต่ต้น โดย ไทยรัฐ ได้บันทึกคลิปสัมภาษณ์แรกของลุงพลทันทีหลังพบศพ ทำให้มีข้อมูลตรงจากผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยให้ผู้ติดตามคดีและประชาชนทั่วไปสามารถติดตามเหตุการณ์ได้ใกล้ชิด
การนำคลิปมาวิเคราะห์อีกครั้งหลังศาลมีคำพิพากษา ทำให้เกิด การทบทวนพยานหลักฐานและมุมมองต่อคดี โดยสังคมสามารถมองเห็นความละเอียดซับซ้อนของคดีและการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่
บทสรุป
คลิปสัมภาษณ์แรกของ ลุงพล หลังพบศพน้องชมพู่ มีความสำคัญทั้งในด้าน พฤติกรรมผู้เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์พยานหลักฐาน และ การสื่อสารต่อสาธารณะ
คำพูดของลุงพลตรงกับผลชันสูตรศพ
แสดงให้เห็นความเสียใจและความพยายามควบคุมสถานการณ์
เป็นเหตุผลหนึ่งที่ตำรวจต้องตั้งข้อสงสัยตั้งแต่แรก
เรื่องราวทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึง ความซับซ้อนของคดีอาชญากรรม และความสำคัญของการบันทึกเหตุการณ์โดยสื่อมวลชน รวมถึงบทเรียนสำหรับการจัดการพยานหลักฐานในคดีอาชญากรรม
---

















