โป๊ะแล้ว! อินฟลูเขมรอวดระเบิดไทย แท้จริงแค่ชิ้นส่วนรถ
อินฟลูเอนเซอร์กัมพูชาปั่นข่าว อ้าง “ระเบิดไทย” แต่ชาวเน็ตจับโป๊ะว่าเป็น “ไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า”
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Army Military Force เผยคลิปวิดีโอจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งปรากฏภาพ อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชา รายหนึ่ง กำลังชี้ไปยังวัตถุต้องสงสัยและอ้างว่าเป็น ระเบิดที่ฝ่ายไทยยิงตกใส่บ้านเรือนประชาชน
เหตุการณ์นี้สร้างความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เพราะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งชายแดน และมีการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่กลับโดนชาวเน็ตไทยและเพจดังจับโป๊ะทันทีว่า วัตถุที่ชี้ในคลิปนั้นแท้จริงคือ “ไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า”
คลิปที่ถูกเผยแพร่ – รายละเอียดเหตุการณ์
คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยอินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชากำลังบรรยายสถานการณ์ พร้อมชี้ไปยังวัตถุโลหะชิ้นหนึ่งที่วางอยู่ข้างกำแพงบ้าน ในคลิปปรากฏว่าเจ้าตัวใช้ เทปสีขาวคาดแดง กั้นพื้นที่ไว้เป็นสัญลักษณ์ของเขตอันตราย พร้อมกล่าวอ้างว่า:
"วัตถุดังกล่าวคือระเบิดที่กองทัพไทยยิงตกลงมาในเขตบ้านเรือนของประชาชนในช่วงปะทะกัน"
คำกล่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นกระแสในกลุ่มผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ดังกล่าว
เพจ Army Military Force ชี้โป๊ะทันที
หลังคลิปถูกเผยแพร่ เพจ Army Military Force ได้ออกมาตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า:
"อินฟลูเอนเซอร์เขมรไปดูจุดที่อ้างว่า ไทยทิ้งระเบิดอีกลูกตกใส่ข้างกำแพงบ้านเรือนชาวเขมรในช่วงปะทะกัน นี่ถามจริง พวกมรึงจะเอาฮากันไปถึงไหน สงสัยว่าง จัดเอาไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่าขึ้นสนิมมาปั่น หลอกพวกเดียวกันเอง ยิ่งดูยิ่งโคตรตลกและปัญญาอ่อนด้วย 555"
ข้อความนี้ทำให้เห็นว่าเพจ Army Military Force ไม่เพียงแค่ปฏิเสธข้อมูลที่ถูกอ้างอิง แต่ยังเน้นย้ำว่า วัตถุที่ชี้ในคลิปไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า ที่ขึ้นสนิม
กระแสตอบสนองของชาวเน็ตไทย
หลังโพสต์จากเพจ Army Military Force ถูกเผยแพร่ มีชาวเน็ตไทยเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางและมีอารมณ์ขัน โดยส่วนใหญ่ติดตลกและประชดการปั่นข่าวของอินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชา ตัวอย่างความคิดเห็น ได้แก่:
"โอ่งไม่แตกอีกละ"
"ทุกที่ต้องมีโอ่งให้ตายเถอะ"
"หลอกได้แต่พวกเดียวกันหล่ะ สุ"
"ระเบิดเราก็ชอบไปลงแถว ๆ ที่มีโอ่งเนาะ"
"โอ่งเอย กำแพงเอย ขลังมาก โดนระเบิดไม่มีซักรอยขีดข่วนเลย"
แสดงให้เห็นว่า ชาวเน็ตมองว่าคลิปนี้เป็น ข่าวปลอม และการอ้างว่าเป็นระเบิดไทยเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ
วิเคราะห์ปรากฏการณ์ข่าวปลอมในโลกออนไลน์
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ การปั่นข่าวออนไลน์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือประเด็นร้อนทางการเมือง
อินฟลูเอนเซอร์บางรายอาจสร้างคลิปเพื่อ เรียกยอดวิวและความสนใจ โดยไม่สนใจความถูกต้องของข้อมูล
ผู้ชมบางกลุ่มอาจเชื่อโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้ข่าวปลอมแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เพจหรือกลุ่มตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น Army Military Force มีบทบาทสำคัญในการ แยกแยะข้อมูลจริงและเท็จ
ความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูล
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคโซเชียลมีเดีย
1. สังเกตหลักฐานภาพหรือวัตถุ – หากวัตถุในคลิปมีลักษณะเหมือนสิ่งของทั่วไป เช่น ไดสตาร์ทรถเก่า หรือเศษอุปกรณ์อื่น ๆ ควรตั้งคำถามก่อนเชื่อว่าเป็นระเบิด
2. วิเคราะห์บริบทและแหล่งที่มาของข้อมูล – คลิปที่มาจากอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ใช้รายเดียว ควรพิจารณาว่ามีแหล่งข้อมูลยืนยันหรือไม่
3. ตรวจสอบจากหลายแหล่ง – ข้อมูลจากเพจท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยยืนยันความถูกต้อง
บทเรียนสำคัญจากกรณีนี้
1. อย่าเชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว – โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่มีการอ้างเหตุการณ์รุนแรงหรือภัยพิบัติ
2. ตรวจสอบแหล่งที่มาและวัตถุประสงค์ของคลิป – อินฟลูเอนเซอร์บางรายสร้างคอนเทนต์เพื่อความสนุกสนานหรือเรียกยอดวิว โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
3. การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ – การแชร์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบอาจสร้างความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกในสังคม
สรุป
เหตุการณ์อินฟลูเอนเซอร์กัมพูชาปั่นข่าวอ้าง “ระเบิดไทย” แต่ถูกจับโป๊ะว่าเป็นไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า เป็นตัวอย่างของ ข่าวปลอมในโลกออนไลน์ ที่สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เพจ Army Military Force และชาวเน็ตไทยได้ช่วยแยกแยะข้อเท็จจริง ทำให้เห็นว่า การตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อและแชร์เป็นสิ่งสำคัญ
ผู้บริโภคข่าวออนไลน์ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะ คิดวิเคราะห์และใช้วิจารณญาณ ก่อนรับข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหรือเหตุการณ์อันตราย
อ้างอิงจาก: เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
😅 ชวนไปดูเหตุการณ์ของคนที่อยากได้ไทม์แมชชีนเพื่อเริ่มต้นวันอันเลวร้ายของพวกเขาใหม่อีกครั้ง 😠
ช็อกยูกันดา! ผล DNA พลิกชีวิต พ่อกว่า 98% พบ "ไม่ใช่ลูกแท้ๆ" (วิกฤตครอบครัว)
แรงงานกัมพูชาย้ายไปทำงานที่ประเทศมาเลฯ เป็นจำนวนมาก
24 พ.ย. 68 กรมอุตุฯ เตือนภัยฝนหนักถึงหนักมาก ถล่ม 9 จังหวัดภาคใต้ คลื่นยักษ์อ่าวไทย 3 เมตร
แบบนี้ก็เคยมีบนโลกมนุษย์ด้วยนะเนี่ย....Alien Skull เครื่องมือที่ใช้ในการจัดกระโหลกศีรษะเด็กเพื่อให้มีรูปทรงเรียวยาว
พรรคภูมิใจไทยขาขึ้น 2 สส.เพื่อไทยย้ายเข้าพรรค บ้านใหญ่แห่ก็พักต่อเนื่อง
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
10 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไป
รู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขม
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
10 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไป
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
รู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขม
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
เตือนภัย! อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพอ้างชื่อธนาคารออมสินปล่อยกู้เงินออนไลน์
ชุดปฏิบัติงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมของทั้งสองประเทศ ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อรังวัดหมุด GCP และบินโดรนถ่ายภาพภูมิประเทศอย่างละเอียด
