หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โป๊ะแล้ว! อินฟลูเขมรอวดระเบิดไทย แท้จริงแค่ชิ้นส่วนรถ

โพสท์โดย bbb1236555

อินฟลูเอนเซอร์กัมพูชาปั่นข่าว อ้าง “ระเบิดไทย” แต่ชาวเน็ตจับโป๊ะว่าเป็น “ไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า”

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Army Military Force เผยคลิปวิดีโอจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งปรากฏภาพ อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชา รายหนึ่ง กำลังชี้ไปยังวัตถุต้องสงสัยและอ้างว่าเป็น ระเบิดที่ฝ่ายไทยยิงตกใส่บ้านเรือนประชาชน

เหตุการณ์นี้สร้างความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เพราะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งชายแดน และมีการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่กลับโดนชาวเน็ตไทยและเพจดังจับโป๊ะทันทีว่า วัตถุที่ชี้ในคลิปนั้นแท้จริงคือ “ไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า”

 

คลิปที่ถูกเผยแพร่ – รายละเอียดเหตุการณ์

คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยอินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชากำลังบรรยายสถานการณ์ พร้อมชี้ไปยังวัตถุโลหะชิ้นหนึ่งที่วางอยู่ข้างกำแพงบ้าน ในคลิปปรากฏว่าเจ้าตัวใช้ เทปสีขาวคาดแดง กั้นพื้นที่ไว้เป็นสัญลักษณ์ของเขตอันตราย พร้อมกล่าวอ้างว่า:

 "วัตถุดังกล่าวคือระเบิดที่กองทัพไทยยิงตกลงมาในเขตบ้านเรือนของประชาชนในช่วงปะทะกัน"

คำกล่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นกระแสในกลุ่มผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ดังกล่าว

 

เพจ Army Military Force ชี้โป๊ะทันที

หลังคลิปถูกเผยแพร่ เพจ Army Military Force ได้ออกมาตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า:

 "อินฟลูเอนเซอร์เขมรไปดูจุดที่อ้างว่า ไทยทิ้งระเบิดอีกลูกตกใส่ข้างกำแพงบ้านเรือนชาวเขมรในช่วงปะทะกัน นี่ถามจริง พวกมรึงจะเอาฮากันไปถึงไหน สงสัยว่าง จัดเอาไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่าขึ้นสนิมมาปั่น หลอกพวกเดียวกันเอง ยิ่งดูยิ่งโคตรตลกและปัญญาอ่อนด้วย 555"

ข้อความนี้ทำให้เห็นว่าเพจ Army Military Force ไม่เพียงแค่ปฏิเสธข้อมูลที่ถูกอ้างอิง แต่ยังเน้นย้ำว่า วัตถุที่ชี้ในคลิปไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า ที่ขึ้นสนิม

 

กระแสตอบสนองของชาวเน็ตไทย

หลังโพสต์จากเพจ Army Military Force ถูกเผยแพร่ มีชาวเน็ตไทยเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางและมีอารมณ์ขัน โดยส่วนใหญ่ติดตลกและประชดการปั่นข่าวของอินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชา ตัวอย่างความคิดเห็น ได้แก่:

"โอ่งไม่แตกอีกละ"

"ทุกที่ต้องมีโอ่งให้ตายเถอะ"

"หลอกได้แต่พวกเดียวกันหล่ะ สุ"

"ระเบิดเราก็ชอบไปลงแถว ๆ ที่มีโอ่งเนาะ"

"โอ่งเอย กำแพงเอย ขลังมาก โดนระเบิดไม่มีซักรอยขีดข่วนเลย"

แสดงให้เห็นว่า ชาวเน็ตมองว่าคลิปนี้เป็น ข่าวปลอม และการอ้างว่าเป็นระเบิดไทยเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ

 

วิเคราะห์ปรากฏการณ์ข่าวปลอมในโลกออนไลน์

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ การปั่นข่าวออนไลน์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือประเด็นร้อนทางการเมือง

อินฟลูเอนเซอร์บางรายอาจสร้างคลิปเพื่อ เรียกยอดวิวและความสนใจ โดยไม่สนใจความถูกต้องของข้อมูล

ผู้ชมบางกลุ่มอาจเชื่อโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้ข่าวปลอมแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

เพจหรือกลุ่มตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น Army Military Force มีบทบาทสำคัญในการ แยกแยะข้อมูลจริงและเท็จ

 

ความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูล

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคโซเชียลมีเดีย

1. สังเกตหลักฐานภาพหรือวัตถุ – หากวัตถุในคลิปมีลักษณะเหมือนสิ่งของทั่วไป เช่น ไดสตาร์ทรถเก่า หรือเศษอุปกรณ์อื่น ๆ ควรตั้งคำถามก่อนเชื่อว่าเป็นระเบิด

2. วิเคราะห์บริบทและแหล่งที่มาของข้อมูล – คลิปที่มาจากอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ใช้รายเดียว ควรพิจารณาว่ามีแหล่งข้อมูลยืนยันหรือไม่

3. ตรวจสอบจากหลายแหล่ง – ข้อมูลจากเพจท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยยืนยันความถูกต้อง

บทเรียนสำคัญจากกรณีนี้

1. อย่าเชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว – โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่มีการอ้างเหตุการณ์รุนแรงหรือภัยพิบัติ

2. ตรวจสอบแหล่งที่มาและวัตถุประสงค์ของคลิป – อินฟลูเอนเซอร์บางรายสร้างคอนเทนต์เพื่อความสนุกสนานหรือเรียกยอดวิว โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง

3. การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ – การแชร์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบอาจสร้างความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกในสังคม

 

สรุป

เหตุการณ์อินฟลูเอนเซอร์กัมพูชาปั่นข่าวอ้าง “ระเบิดไทย” แต่ถูกจับโป๊ะว่าเป็นไดสตาร์ทรถบรรทุกเก่า เป็นตัวอย่างของ ข่าวปลอมในโลกออนไลน์ ที่สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

 

เพจ Army Military Force และชาวเน็ตไทยได้ช่วยแยกแยะข้อเท็จจริง ทำให้เห็นว่า การตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อและแชร์เป็นสิ่งสำคัญ

 

ผู้บริโภคข่าวออนไลน์ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะ คิดวิเคราะห์และใช้วิจารณญาณ ก่อนรับข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหรือเหตุการณ์อันตราย

 

 

โพสท์โดย: bbb1236555
อ้างอิงจาก: เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: paktronghie
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ😅 ชวนไปดูเหตุการณ์ของคนที่อยากได้ไทม์แมชชีนเพื่อเริ่มต้นวันอันเลวร้ายของพวกเขาใหม่อีกครั้ง 😠ช็อกยูกันดา! ผล DNA พลิกชีวิต พ่อกว่า 98% พบ "ไม่ใช่ลูกแท้ๆ" (วิกฤตครอบครัว)แรงงานกัมพูชาย้ายไปทำงานที่ประเทศมาเลฯ เป็นจำนวนมาก24 พ.ย. 68 กรมอุตุฯ เตือนภัยฝนหนักถึงหนักมาก ถล่ม 9 จังหวัดภาคใต้ คลื่นยักษ์อ่าวไทย 3 เมตรแบบนี้ก็เคยมีบนโลกมนุษย์ด้วยนะเนี่ย....Alien Skull เครื่องมือที่ใช้ในการจัดกระโหลกศีรษะเด็กเพื่อให้มีรูปทรงเรียวยาวพรรคภูมิใจไทยขาขึ้น 2 สส.เพื่อไทยย้ายเข้าพรรค บ้านใหญ่แห่ก็พักต่อเนื่องแคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 202410 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไปรู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขมนักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
10 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไปนักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัวแคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024รู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขม
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัวแคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024เตือนภัย! อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพอ้างชื่อธนาคารออมสินปล่อยกู้เงินออนไลน์ชุดปฏิบัติงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมของทั้งสองประเทศ ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อรังวัดหมุด GCP และบินโดรนถ่ายภาพภูมิประเทศอย่างละเอียด
ตั้งกระทู้ใหม่