เปิดโปง "นักต้มตุ๋นพันหน้า" ฟาติมา แต่งงาน 8 ครั้ง หลอกเงินเศรษฐีอินเดียนับล้าน
นครนาคปุระ ประเทศอินเดีย – ตำรวจอินเดียได้จับกุมตัวหญิงสาววัย 35 ปี นามว่า ฟาติมา (Sameera Fatima) ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหัวหน้าแก๊งต้มตุ๋นหลอกแต่งงาน ซึ่งก่อเหตุมานานกว่า 15 ปี หลอกลวงเหยื่อผู้ชายร่ำรวยไปแล้วถึง 8 ราย ด้วยวิธีการอันซับซ้อนและน่าตกใจ ฟาติมาถูกจับกุมขณะกำลังนัดพบกับเหยื่อรายที่ 9 ที่ร้านชาแห่งหนึ่งในเมืองนาคปุระ
ฟาติมาใช้เว็บไซต์หาคู่และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการหาเหยื่อ โดยเฉพาะชายที่ร่ำรวยและแต่งงานแล้ว เธอจะสร้างภาพลักษณ์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่น่าสงสาร เพิ่งหย่าร้างหรือเป็นหม้าย โดยอ้างว่าตนเอง "ไร้ที่พึ่งและต้องเลี้ยงดูลูกชาย" เพื่อเรียกความเห็นใจและความเชื่อใจจากเหยื่อ หลังจากสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ได้แล้ว เธอจะเร่งรัดให้มีการแต่งงานอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า "แฟลชแมริเอจ" (Flash Marriage)
เมื่อแต่งงานแล้ว พฤติกรรมของฟาติมาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอจะเริ่มควบคุมอารมณ์ของสามี และหาวิธีหลอกเอาเงินไปเรื่อยๆ โดยมีรายงานว่าเธอถึงขั้นแอบบันทึกเสียงสนทนาของสามี แล้วนำมาตัดต่อเพื่อใช้แบล็กเมล์ และข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องในข้อหาคบชู้หรือล่วงละเมิด หากไม่จ่ายเงินให้เธอ เพื่อแลกกับการถอนฟ้อง
เหยื่อรายหนึ่งถูกหลอกไปถึง 5 ล้านรูปี (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) ทั้งในรูปของเงินสดและการโอนเงิน นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งชาติอินเดียก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ถูกหลอกไป ส่วนสามีคนที่ 8 ของเธอถูกแบล็กเมล์ไป 1 ล้านรูปี (ประมาณ 4.4 แสนบาท) ซึ่งเป็นผู้ที่แจ้งความกับตำรวจ
ฟาติมาเคยถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว แต่เธออ้างว่าตั้งครรภ์และต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล ก่อนจะฉวยโอกาสหลบหนีไปได้ในที่สุด ในช่วงที่หลบหนี เธอยังคงพยายามหาเหยื่อรายใหม่ต่อไป จนกระทั่งวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้รับเบาะแสและสามารถจับกุมตัวเธอได้ขณะกำลังนัดพบกับเหยื่อรายที่ 9
ตำรวจกำลังสืบสวนคดีของฟาติมาและกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิด โดยสงสัยว่ามีสมาชิกแก๊งค์ช่วยเหลือเธอในการหลบหนีและซ่อนตัว ผู้เสียหายทั้ง 8 รายได้ให้การอย่างละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ถูกหลอกลวง อย่างไรก็ตาม การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่ทราบจำนวนเงินทั้งหมดที่ฟาติมาหลอกลวงไปได้ ตำรวจคาดว่าอาจมีเหยื่ออีกหลายรายที่ยังไม่ปรากฏตัว
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
รู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขม
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
พรรคภูมิใจไทยขาขึ้น 2 สส.เพื่อไทยย้ายเข้าพรรค บ้านใหญ่แห่ก็พักต่อเนื่อง
แรงงานกัมพูชาย้ายไปทำงานที่ประเทศมาเลฯ เป็นจำนวนมาก
แบบนี้ก็เคยมีบนโลกมนุษย์ด้วยนะเนี่ย....Alien Skull เครื่องมือที่ใช้ในการจัดกระโหลกศีรษะเด็กเพื่อให้มีรูปทรงเรียวยาว
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"
ช็อกยูกันดา! ผล DNA พลิกชีวิต พ่อกว่า 98% พบ "ไม่ใช่ลูกแท้ๆ" (วิกฤตครอบครัว)
มิสยูนิเวิร์สลาว ‘รัตนา มั่นวิไล’ ได้ใจคนไทยเต็มๆ ติดโบว์ดำไว้อาลัยพระพันปีหลวงทุกครั้งบนเวทีโลก
24 พ.ย. 68 กรมอุตุฯ เตือนภัยฝนหนักถึงหนักมาก ถล่ม 9 จังหวัดภาคใต้ คลื่นยักษ์อ่าวไทย 3 เมตร
ตำนานจระเข้ในท่อระบายน้ำ จากนิวยอร์กสู่ฟลอริดา เรื่องจริงที่โผล่มาแล้ว
10 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไป
10 ต้นไม้ที่มีพิษอันตราย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้นไม้ที่ดูสวยงามตามสวนหรือกระถางประดับบ้านนั้น บางชนิดสามารถสร้างอันตรายต่อลูกหลาน รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราได้ หากเผลอไปสัมผัสหรือกัดกินเข้าไป
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
รู้หรือไม่ ? เพราะเหตุใดทำไม "กาแฟ" ถึงขม
อาการปวดหลังแต่ละส่วน
นักเรียนไนจีเรีย 50 ราย หนีรอดจากกลุ่มลักพาตัว
แคนาดาสุดทนตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังพบประชาชนถูกคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในกัมพูชาหลอก เงิน ไป 1.6 พันล้านบาท ในปี 2024
เตือนภัย! อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพอ้างชื่อธนาคารออมสินปล่อยกู้เงินออนไลน์
ชุดปฏิบัติงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมของทั้งสองประเทศ ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อรังวัดหมุด GCP และบินโดรนถ่ายภาพภูมิประเทศอย่างละเอียด


