พูดแล้วทำจริง! ปลอดประสพประกาศรับซื้อทุ่นระเบิดจากกัมพูชา 5 ข้อ
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประกาศรับซื้อ “หุ่นระเบิดเขมร” ชวนคนไทยร่วมแสดงความรักชาติ
วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เคลื่อนไหวผ่านทาง เฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศกิจกรรมทางสังคมและความรักชาติ โดยเน้นเรื่อง การรับซื้อทุ่นระเบิดจากเขมร หรือที่เรียกกันว่า “หุ่นระเบิดเขมร” เพื่อแสดงความรักชาติและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
โพสต์ของดร.ปลอดประสพได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ติดตามและประชาชนทั่วไป เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงแค่สร้างความตื่นตัวทางความมั่นคง แต่ยังสะท้อนถึงความสามัคคีของคนไทยในการร่วมกันทำประโยชน์เพื่อชาติ
ประกาศกิจกรรม “รับซื้อหุ่นระเบิดเขมร”
ดร.ปลอดประสพระบุว่ากิจกรรมนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ร่วมกัน แสดงความรักชาติและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยรายละเอียดกิจกรรมมีดังนี้
1. รับซื้อทุ่นระเบิดบุคคลแบบ PMN-2 จากทหารกัมพูชา
ประชาชนสามารถนำส่งได้ที่ด่านชายแดนทุกแห่ง
กำหนดราคาลูกละ 10,000 บาท
จุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำลายอาวุธและลดความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน
2. ติดธงชาติไทยหรือสติกเกอร์ธงชาติบนรถยนต์
เพื่อแสดงความรักชาติและสร้างความตระหนักในหมู่ประชาชน
เป็นการแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
3. ติด pin ธงชาติไทยที่ปกเสื้อ
ดร.ปลอดประสพกล่าวว่า ปัจจุบัน pin ธงชาติมีจำนวนจำกัด
เขาได้เสนอที่จะเหมา 1,000 อันทันที สำหรับผู้ที่สนใจ
4. ประกวดแต่งเพลงรักชาติ
เพลงต้องเกี่ยวข้องกับ ประวัติศาสตร์ไทย-เขมร
รางวัลสำหรับผู้ชนะคือ 10,000 บาท
การประกวดนี้นอกจากจะส่งเสริมความรักชาติ ยังเป็นการสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะ
5. ร่วมมือจากเพื่อนนักเรียนเก่า
ดร.ปลอดประสพเชิญชวนเพื่อนนักเรียนเก่าจากหลายสถาบัน เช่น โรงเรียนมาแตร์เดอี กรุงเทพคริสเตียน เตรียมอุดมศึกษา และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาร่วมสนับสนุนกิจกรรม
การรวมตัวของนักเรียนเก่าเหล่านี้จะสร้างความอบอุ่นและความสามัคคีในชุมชน
ความสำคัญของกิจกรรมและการแสดงความรักชาติ
การประกาศกิจกรรมครั้งนี้ของดร.ปลอดประสพมีความสำคัญหลายด้าน
1. สร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยชายแดน
ทุ่นระเบิด PMN-2 เป็นอาวุธที่อันตรายต่อประชาชนและทหารชายแดน
การส่งมอบและทำลายทุ่นระเบิดช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้คนในพื้นที่ชายแดน
2. ส่งเสริมความรักชาติและความสามัคคี
การติดธงชาติและ pin ธงชาติบนเสื้อหรือรถยนต์ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
แสดงออกถึงการสนับสนุนชาติและความเข้มแข็งของประชาชนไทย
3. ส่งเสริมวัฒนธรรมและความรู้ประวัติศาสตร์ผ่านศิลปะ
การประกวดแต่งเพลงรักชาติเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย-เขมร เป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับความรู้และความเข้าใจในอดีต
ช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าใจเหตุการณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านงานสร้างสรรค์
การตอบรับจากประชาชนและสังคม
หลังโพสต์ของดร.ปลอดประสพถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊ก มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความสนใจและสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรม
มีผู้คนถามถึง ด่านชายแดนที่สามารถนำทุ่นระเบิดส่งมอบได้
มีผู้ที่สนใจ ประกวดแต่งเพลงรักชาติ และสอบถามถึงกติกาและรางวัล
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สนใจ pin ธงชาติไทย และสติกเกอร์ธงชาติบนรถยนต์
การตอบรับที่ดีนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีความสนใจในการร่วมแสดงความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นคุณค่าของกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
การแสดงความรักชาติผ่านการปฏิบัติจริง
ดร.ปลอดประสพเน้นย้ำว่าการรักชาติไม่ได้หมายถึงการพูดเพียงอย่างเดียว แต่ต้อง ลงมือทำในสิ่งที่สร้างประโยชน์ต่อชาติและประชาชน
การนำทุ่นระเบิดมาส่งมอบและทำลาย เป็นการปฏิบัติที่สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน
การติดธงชาติบนเสื้อและรถยนต์ เป็นการสร้างสัญลักษณ์ความสามัคคี
การประกวดเพลงรักชาติ เป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ทุกกิจกรรมล้วนสะท้อนถึง ความรับผิดชอบต่อชาติและชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับหลักการของการเป็นพลเมืองดี
ข้อสังเกตและมุมมองสังคม
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ากิจกรรมครั้งนี้ของดร.ปลอดประสพไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเชิงสัญลักษณ์ แต่ยังเป็น แรงกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในเรื่องความปลอดภัยชายแดนและการสร้างความสามัคคี
การตั้งราคาทุ่นระเบิดที่ 10,000 บาทต่อชิ้น อาจเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม
การให้รางวัลสำหรับการประกวดเพลงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สนใจประวัติศาสตร์ไทยและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
สรุป
การเคลื่อนไหวของดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ผ่านการประกาศ รับซื้อทุ่นระเบิด PMN-2 จากเขมร และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธงชาติไทยและการประกวดเพลงรักชาติ ถือเป็น ตัวอย่างการแสดงความรักชาติและความสามัคคีของประชาชนไทย
กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน แต่ยังสร้างสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของ การปกป้องชาติ สร้างความปลอดภัย และรักษาประวัติศาสตร์วัฒนธรรม
ดร.ปลอดประสพยังเน้นย้ำว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่เป็น การปฏิบัติจริงที่สามารถสร้างผลประโยชน์ต่อสังคมและชาติอย่างแท้จริง









