หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทนายแก้วเคลียร์ทุกปม คดีลุงพลแบบสั้น กระชับ ชัดเจน

โพสท์โดย bbb1236555

คดี “ลุงพล” จากชั้นต้นสู่ศาลอุทธรณ์ — โทษเพิ่มจาก 20 ปีเป็น 26 ปี และโอกาสสู้ต่อในชั้นฎีกา

วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ความเคลื่อนไหวในคดี “ลุงพล” หรือ นายไชย์พล วิภา กลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง หลัง ทนายแก้ว ได้โพสต์สรุปความคืบหน้าของคดีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ทนายแก้ว” อธิบายให้ประชาชนเข้าใจง่ายถึงสถานะปัจจุบันของคดี ผลการพิจารณาในแต่ละชั้นศาล และเหตุผลว่าทำไมจำเลยยังสามารถต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาได้

 

ภูมิหลังของคดี “ลุงพล”

คดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากการเสียชีวิตปริศนาของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายออกจากบ้านเมื่อปี 2563 และถูกพบเป็นศพอยู่บนภูเหล็กไฟ อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ มีการรายงานอย่างต่อเนื่องหลายเดือน ทั้งในเชิงข่าวสืบสวนและกระแสโซเชียลมีเดีย

ชื่อของ “ลุงพล” หรือ นายไชย์พล วิภา ซึ่งเป็นลุงเขยของน้องชมพู่ เริ่มถูกสังคมจับตาหลังมีความขัดแย้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และถูกตั้งข้อสงสัยจากพฤติกรรมและคำให้สัมภาษณ์ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง

 

ข้อหาที่อัยการฟ้อง

ตามข้อมูลที่ทนายแก้วโพสต์ อัยการโจทก์ฟ้องลุงพลในข้อหาหลัก 3 กระทง คือ

1. ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

2. พรากผู้เยาว์

3. อำพรางศพ

ข้อกล่าวหาเหล่านี้มีโทษสูงตามประมวลกฎหมายอาญา โดยเฉพาะข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งโทษจำคุกอาจถึงตลอดชีวิต

 

คำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า การกระทำของลุงพลเป็นความผิดฐาน ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ พรากผู้เยาว์ ลงโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี รวมเป็นจำคุก 20 ปี

ในขณะเดียวกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ยกฟ้อง ในข้อหา อำพรางศพ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเชื่อมโยงได้อย่างชัดเจน และยังยกฟ้อง ป้าแต๋น ภรรยาของลุงพล ในทุกข้อกล่าวหา

คำตัดสินในชั้นต้นจึงทำให้ลุงพลต้องรับโทษจำคุก 20 ปี แต่ไม่ใช่ในข้อหาฆ่าโดยเจตนา ซึ่งถือว่าเป็นความแตกต่างสำคัญจากข้อฟ้องของอัยการ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์

เหตุการณ์พลิกผันเกิดขึ้นในชั้นศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และมีความเห็นว่า การกระทำของลุงพลเป็นการฆ่าโดยเจตนาโดยเล็งเห็นผล ไม่ใช่เพียงความประมาท

นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์ยังเห็นว่า มีมูลความผิดในข้อหา อำพรางศพ เพิ่มเติมจากข้อหาพรากผู้เยาว์ ส่งผลให้โทษจำคุกเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ปี เป็น 26 ปี

ส่วนป้าแต๋น ยังคงได้รับการยกฟ้องทุกข้อหาเช่นเดิม

 

เหตุผลที่ยังสามารถฎีกาได้

ทนายแก้วอธิบายว่า ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 และ 219 หากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้ไขจากศาลชั้นต้น และลงโทษจำเลยเพิ่มขึ้นเกิน 5 ปี คดีดังกล่าว ไม่เข้าข่ายเป็นคดีต้องห้ามฎีกา

กล่าวง่าย ๆ คือ ลุงพลยังมีสิทธิยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาเพื่อขอสู้คดีเป็นรอบสุดท้ายได้

 

ความเห็นจากชาวเน็ต

หลังโพสต์ของทนายแก้ว มีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายเข้ามาอธิบายเพิ่มเติมในเชิงเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย โดยอธิบายว่า

ศาลมี 3 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น, ศาลอุทธรณ์ และ ศาลฎีกา

ในชั้นต้น ลุงพลถูกตัดสินจำคุก 20 ปี

ในชั้นอุทธรณ์ โทษเพิ่มเป็น 26 ปี

เหลือการตัดสินชี้ขาดในชั้นฎีกา ซึ่งเป็นเหมือน “นัดล้างตา”

บางความเห็นยังเสริมเชิงประชดประชันถึงความเชื่อของจำเลย ว่าอาจหวังพึ่ง “ความดีที่สั่งสม” และแรงสนับสนุนจากแฟนคลับที่เคยโอนเงินช่วยเหลือจำนวนมาก

กระแสสังคมและบทเรียนจากคดี

คดีนี้ไม่เพียงเป็นคดีอาญาที่สังคมจับตามอง แต่ยังเป็นตัวอย่างของปรากฏการณ์ “ศาลโซเชียล” ที่กระแสความเห็นในสื่อและโซเชียลมีเดียส่งผลต่อภาพลักษณ์ของผู้เกี่ยวข้องอย่างมาก

ตั้งแต่เริ่มต้นคดี ลุงพลเคยได้รับความนิยมและการสนับสนุนจากแฟนคลับจำนวนมาก มีการบริจาคเงิน สิ่งของ และช่วยโปรโมตผ่านสื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและคดีมีความคืบหน้า ความเห็นสาธารณะก็เริ่มแตกเป็นสองฝ่าย บางคนยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ขณะที่บางคนมองว่าพยานหลักฐานมัดตัว

 

ขั้นตอนต่อไป

หากลุงพลตัดสินใจยื่นฎีกา คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของ ศาลฎีกา ซึ่งจะเป็นการพิจารณาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงตามที่อนุญาต ไม่ใช่การสอบสวนใหม่ทั้งหมด กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสำนวนและปริมาณพยานหลักฐาน

ในระหว่างนี้ ลุงพลจะต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้ประกันตัว pending การฎีกา ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

 

สรุป

ศาลชั้นต้นตัดสิน: ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย + พรากผู้เยาว์ → โทษ 20 ปี

ศาลอุทธรณ์แก้: ฆ่าโดยเจตนา + พรากผู้เยาว์ + อำพรางศพ → โทษ 26 ปี

ป้าแต๋น: ยกฟ้องทุกข้อหา

เหตุผลฎีกาได้: ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษเกิน 5 ปี → ไม่เข้าข่ายต้องห้ามฎีกา

คดีนี้จึงยังไม่สิ้นสุด และสายตาของสังคมยังคงจับจ้องไปที่การตัดสินของศาลฎีกา ว่าจะยืนตามศาลอุทธรณ์ หรือกลับไปตามศาลชั้นต้น หรือแม้แต่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางอื่น

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ถอดรหัสลับผ่านลายเซ็น บอกวิธีการใช้เงินของคุณได้อย่างไรอย.ตรวจเจอ สารปรอท ในเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากจีน เสี่ยงทำไตอักเสบ...มีใครใช้แบรนด์นี้บ้างคะ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สัตว์ป่าไม่เคยเป็นสัตว์เลี้ยง"เฮเลน ปวรา" ออกโรง! เตือนทีมสร้างหนัง "เลี้ยงรุ่น" ถ้าพาดพิงวุ่นวายเจอฟ้องแน่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
อ.ธรณ์ แสดงความเสียใจ เหยื่อถูกสิงโตขย้ำดับ ย้ำไม่ควรฆ่าสัตว์เพราะทำตามสัญชาตญาณสุดเศร้า! ครอบครัวเปิดใจคำสัญญาสุดท้ายของ “พี่เจียน” ก่อนถูกสิงโตทำร้ายเสียชีวิตวอนผู้สูงวัย เลิกเล่นคลิปสลัดผ้า CIB ชี้เสี่ยงผิดกฎหมาย-ภัยออนไลน์เตือนภัยญี่ปุ่น! แก๊งมิจฉาชีพอ้างลบไวรัส หลอกเหยื่อแก้ผ้า
ตั้งกระทู้ใหม่