แนวหน้าสุดหดหู่ ทหารกัมพูชาป่วยนอนรอความตาย เหม็นจนเพื่อนทนไม่ไหว
ชีวิตสุดลำบากของทหารกัมพูชาแนวหน้า ป่วยหนัก-ใส่หน้ากากกันแก๊ส ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้จะไม่มีเหตุปะทะทางทหารโดยตรง แต่ความตึงเครียดก็ยังคงอยู่ในระดับสูง การตรึงกำลังของทั้งสองฝ่ายยังดำเนินต่อเนื่อง ขณะที่ในโลกออนไลน์ก็มีการเผยแพร่คลิปจากฝั่งกัมพูชาที่สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของทหารแนวหน้า ซึ่งบางครั้งก็กลายเป็นประเด็นให้สังคมพูดถึงอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “Army Military Force” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ 2 ชิ้นที่กำลังกลายเป็นกระแสในโซเชียล โดยมีเนื้อหาสะท้อนชีวิตความยากลำบากของทหารกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ทั้งในด้านสภาพความเป็นอยู่และปัญหาสุขภาพของกำลังพล
คลิปแรก: ฐานปฏิบัติการกลางคืน – ทหารใส่หน้ากากกันแก๊ส
ในคลิปแรกซึ่งบันทึกภาพในช่วงเวลากลางคืน แสดงให้เห็นทหารกัมพูชาหลายสิบนายกำลังพักผ่อนภายในฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดน ทุกนายสวมใส่ หน้ากากกันแก๊ส หรือ หน้ากากป้องกันสารพิษ ตลอดเวลา
แม้ในคลิปจะไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงเหตุผลของการใส่หน้ากาก แต่จากคำบรรยายของเพจผู้โพสต์ ได้กล่าวในเชิงล้อเลียนว่า ทหารกัมพูชาอาจได้รับข่าวปลอมที่ใส่ร้ายว่าไทยใช้ “อาวุธแก๊สพิษ” หรืออาจเป็นเพราะกลิ่นเหม็นจากศพเพื่อนทหารที่เสียชีวิตในพื้นที่ ซึ่งทำให้ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาขณะอยู่ในฐาน
ภาพในคลิปนี้สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศอึมครึมของพื้นที่แนวหน้า การที่กำลังพลต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลา แม้ในช่วงพักผ่อน ก็เป็นสัญญาณถึงระดับความตึงเครียดและความไม่แน่นอนของสถานการณ์
คลิปที่สอง: ทหารป่วยหนักในแนวหน้า – ได้รับการช่วยเหลืออย่างจำกัด
คลิปที่สองซึ่งเพิ่งถูกเผยแพร่ไม่นาน แสดงภาพทหารกัมพูชานอนอยู่บนเตียงสนามในสภาพป่วยหนัก มีการให้น้ำเกลือและยาผ่านทางสายน้ำเกลือ โดยมีนายทหารอีกนายหนึ่งวางเงินจำนวนหนึ่งไว้ข้างตัว ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายหรือเงินช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมหน่วย
จากภาพในคลิปพบว่า สภาพของฐานปฏิบัติการมีความกันดารอย่างชัดเจน สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์มีจำกัด อุปกรณ์รักษาพยาบาลพื้นฐานเพียงเล็กน้อย ไม่มีสัญญาณว่ามีแพทย์สนามหรือเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำการอย่างต่อเนื่อง
คลิปนี้จึงกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ทั้งในแง่ของ การดูแลสุขภาพทหารแนวหน้า และ ความพร้อมด้านสาธารณสุขของกองทัพกัมพูชา
บริบทความตึงเครียดตามแนวชายแดน
แม้ปัจจุบันจะไม่มีเหตุปะทะทางอาวุธอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังคงตรึงกำลังตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า ภูเขา และทุรกันดาร การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เหล่านี้เต็มไปด้วยความเสี่ยง ทั้งจากสภาพภูมิประเทศ อากาศ และการขาดแคลนสิ่งจำเป็น
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า การเผยแพร่คลิปจากฝั่งกัมพูชามักถูกใช้เพื่อจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น การสร้างภาพทางการเมือง การโฆษณาชวนเชื่อ หรือแม้แต่การตอบโต้กระแสข่าวจากฝั่งตรงข้าม ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนให้ความเห็นว่า คลิปที่เผยแพร่ในลักษณะนี้อาจมีทั้งความจริงและการจัดฉากปะปนกันไป การใช้ภาพทหารใส่หน้ากากกันแก๊สอาจมีเจตนาสร้างความรู้สึกหวาดระแวง หรือสร้างเรื่องเล่า (narrative) ว่าฝ่ายตรงข้ามมีพฤติกรรมผิดหลักมนุษยธรรม
ในขณะเดียวกัน คลิปที่แสดงภาพทหารป่วยหนักก็อาจสะท้อนปัญหาจริงของกองทัพกัมพูชาในเรื่องการดูแลสวัสดิการทหารแนวหน้า ซึ่งต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่โหดร้าย และการขาดแคลนทรัพยากรพื้นฐาน
เสียงสะท้อนจากชาวเน็ต
หลังคลิปทั้งสองเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตฝั่งไทยส่วนใหญ่มีการคอมเมนต์ในเชิงวิพากษ์และล้อเลียน ขณะที่บางส่วนมองว่าควรเห็นใจทหารแนวหน้า เพราะส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ด้านชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นก็มีทั้งการให้กำลังใจทหารและการวิพากษ์วิจารณ์กองทัพของตนเองเกี่ยวกับการขาดแคลนการดูแลด้านสุขภาพและความปลอดภัยของกำลังพล
ชีวิตในแนวหน้า: ความจริงที่ไม่ค่อยมีใครเห็น
ไม่ว่าจะเป็นทหารไทยหรือทหารกัมพูชา การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แนวหน้ามักต้องเผชิญกับ
การขาดน้ำและอาหารที่เพียงพอ
ปัญหาสุขภาพจากสภาพแวดล้อม เช่น ไข้มาลาเรีย โรคผิวหนัง และการติดเชื้อ
ภาวะเครียดจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์
ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้ในช่วงที่ไม่มีการสู้รบ
คลิปที่เผยแพร่ออกมาครั้งนี้จึงเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่หลังแนวรบ ซึ่งส่วนใหญ่สังคมภายนอกไม่ค่อยได้รับรู้
บทสรุป
เหตุการณ์คลิปทหารกัมพูชาใส่หน้ากากกันแก๊ส และคลิปทหารป่วยหนักในฐานแนวหน้า ได้กลายเป็นกระแสที่พูดถึงทั้งในไทยและกัมพูชา สะท้อนถึงความยากลำบากของชีวิตทหารในพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่สามารถทำให้เรื่องราวในพื้นที่ห่างไกลถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
แม้ความจริงของเหตุการณ์บางส่วนอาจยังต้องตรวจสอบ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ สภาพความเป็นอยู่ของทหารแนวหน้ายังคงเป็นประเด็นที่ควรได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งใดของพรมแดน








