"สม รังสี" แฉแหลก "ตระกูลฮุน" ได้เงินจากแก๊งสแกมเมอร์ มีคนหลายแสนถูกบังคับทำงานเยี่ยงทาส
"สม รังสี" แฉแหลก "ตระกูลฮุน" ได้เงินจากแก๊งสแกมเมอร์..มีคนหลายแสนถูกบังคับทำงานเยี่ยงทาส โพสต์ภาพแฉอาคารที่ตั้งแก๊งอาชญากรรมในกัมพูชาสร้างรายได้หลายพันล้านเหรียญต่อปี เงินมหาศาลหลั่งไหลเข้ากระเป๋าตระกูลฮุน เมื่อไทยเอาจริงปราบปรามจึงออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊ค Sam Rainsy ของ "นายสม รังสี" ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ปัจจุบันมีคนกว่า 1.2 แสนคนถูกกักขังในอาคารหลายแห่งทั่วกัมพูชา ซึ่งพวกเขาถูกบังคับให้เป็นทาสแรงงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ทั้งนี้ตามรายงานของ แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งรวบรวมจากคำให้การของผู้รอดชีวิตทั้งหมด 58 คน เป็นเวลา 18 เดือน รวมถึงเด็กอีก 9 คน บอกว่า ในอาคารอย่างน้อย 53 แห่งนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีสภาพเหมือนคุก เหยื่อของการค้ามนุษย์จะถูกทรมานด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อต และทุบตีอย่างรุนแรง ถูกบังคับให้ทำการหลอกลวงเหยื่อทางออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้มหาศาลให้กับเครือข่ายอาชญากรชาวจีนที่ทรงอิทธิพลในกัมพูชา
บรรดาคนที่ตกเป็นเหยื่อไม่ได้มีแค่คนกัมพูชา แต่ยังมี ไทย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ และชาติอื่นๆ รวมอยู่ด้วย โดยถูกนำเข้ามายังกัมพูชาและถูกคุมขังโดยมิชอบ ซึ่งกลุ่มอาชญากรเหล่านี้จะดำเนินธุรกิจกาสิโน ฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ และตั้งบริษัทเพื่อบังหน้าอยู่ทั่วไปในกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ตามชายแดน พวกเขาได้รับการปกป้องจากกลุ่มการเมืองตระกูลฮุน และดำเนินการโดยแทบไม่ต้องรับโทษใดๆ เลย ที่สำคัญพวกมาเฟียชาวจีนเหล่านี้มักจะถือหนังสือเดินทางกัมพูชา
ทั้งนี้แก๊งมาเฟียข้ามชาติเหล่านี้สามารถสร้างรายได้หลายพันล้านเหรียญต่อปี และส่งต่อเงินที่หลอกลวงเหยื่อได้ให้กับตระกูลฮุนและพันธมิตร นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทางการไทยต้องออกมาปราบปรามมาเฟียข้ามชาติเหล่านี้ และทันทีที่ได้รับผลกระทบก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากทางฮุนเซน และสร้างความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นตามแนวชายแดน













