“คอกาแฟสะดุ้ง! ทรัมป์เก็บภาษีบราซิล ตลาดกาแฟสะเทือน คนอเมริกันอาจจ่ายแพงขึ้น”
📌สำหรับคนอเมริกัน หลายคนเริ่มต้นวันด้วยกาแฟร้อน ๆ หนึ่งแก้วโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ใครจะไปเชื่อว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหม่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้กาแฟถ้วยเดิมกลายเป็นภาระที่ต้องจ่ายแพงกว่าเดิม
ล่าสุด ทรัมป์กลับมาเดินเกม ขึ้นภาษีนำเข้าจากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกาแฟอันดับหนึ่งของโลก ผลกระทบจึงไม่ได้หยุดแค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่สั่นสะเทือนถึงตลาดกาแฟโลก และอาจซัดตรงไปยังเงินในกระเป๋าผู้บริโภคชาวอเมริกันในอนาคตอันใกล้
กาแฟบราซิล: เส้นเลือดใหญ่ของคนติดกาแฟ
หลายคนอาจไม่รู้ว่าบราซิลคือประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก ครองส่วนแบ่งตลาดโลกมากกว่า 30% ต่อปี โดยสหรัฐอเมริกาคือหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดที่นำเข้ากาแฟจากบราซิล ทั้งในรูปแบบเมล็ดดิบและกาแฟสำเร็จรูปคอกาแฟหลายล้านคนในอเมริกา ตั้งแต่คนทำงานออฟฟิศไปจนถึงร้านกาแฟชื่อดัง ล้วนผูกพันกับกาแฟบราซิลโดยไม่รู้ตัว เพราะเมล็ดกาแฟที่ชงในแก้วส่วนใหญ่มักเดินทางข้ามทวีปมาจากไร่กาแฟในรัฐมีนัสเชไรส์หรือเซาเปาโล ประเทศบราซิล
ทรัมป์มองเห็นอะไร?
การประกาศเก็บภาษีสินค้าจากบราซิลของทรัมป์ครั้งนี้ สอดคล้องกับแนวทาง America First ที่เขาใช้หาเสียงมาตลอด แนวคิดคือการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือกดดันให้ประเทศคู่ค้าทบทวนข้อตกลงที่สหรัฐฯ มองว่า “ไม่เป็นธรรม” แม้รายละเอียดภาษีนำเข้าจะไม่ได้กระทบแค่กาแฟเพียงอย่างเดียว แต่กาแฟกลับเป็นสินค้าหลักที่สื่อให้ความสนใจ เพราะมันเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่โดยตรง ต่างจากสินค้าอุตสาหกรรมหรือวัตถุดิบที่คนทั่วไปอาจไม่รู้สึกตัว ตลาดกาแฟสั่นทันที เมื่อข่าวออกมา ราคาซื้อขายกาแฟในตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้นทันที เทรดเดอร์หลายรายประเมินว่าหากภาษีมีผลจริง ต้นทุนการนำเข้ากาแฟบราซิลจะสูงขึ้น ผู้คั่วกาแฟและผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ อาจต้องหันไปพึ่งแหล่งกาแฟจากประเทศอื่น เช่น โคลอมเบีย เวียดนาม หรือเอธิโอเปียแต่การเปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกาแฟมีพันธุ์และรสชาติแตกต่างกัน อีกทั้งปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศก็ยังไม่แน่นอน ยิ่งในยุคที่ภัยแล้งและภาวะโลกร้อนกระทบผลผลิตกาแฟทั่วโลก ราคาก็ยิ่งผันผวนง่ายกว่าเดิมผู้บริโภคจะโดนเต็ม ๆแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากต้นทางมักถูกผลักไปถึงผู้บริโภคในที่สุด ร้านกาแฟอาจขึ้นราคากาแฟต่อแก้ว ร้านขายกาแฟสำเร็จรูปอาจปรับราคาสินค้าบนชั้นวาง ผู้บริโภคหลายคนอาจยังไม่รู้สึกในทันที แต่ถ้าภาษีเริ่มเก็บจริงและยืดเยื้อไปนาน ราคากาแฟประจำวันอาจเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่า หากสถานการณ์ลากยาวไปจนกระทบฤดูเก็บเกี่ยวหรือทำให้ผู้ซื้อเปลี่ยนซัพพลายเออร์กะทันหัน อาจยิ่งทำให้ตลาดกาแฟโลกผันผวนรุนแรงกว่าเดิม
มุมการเมืองและเสียงคัดค้าน
ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของทรัมป์มองว่าการใช้มาตรการภาษีเล่นงานประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่รอบคอบ อาจย้อนกลับมาทำร้ายผู้บริโภคในประเทศโดยตรง ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ที่ทรัมป์ชูมาตลอดว่าเขาจะปกป้องผลประโยชน์ของคนอเมริกันขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟก็เริ่มออกมาแสดงความกังวล เพราะนอกจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังอาจเกิดความไม่แน่นอนในสายพานการนำเข้า โดยเฉพาะธุรกิจคั่วกาแฟและร้านกาแฟขนาดกลาง-เล็กที่แข่งขันด้วยราคาลำบาก
✅ สรุป
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิล ซึ่งรวมถึงกาแฟ
- ตลาดกาแฟโลกตอบสนองทันที ราคาล่วงหน้าผันผวน
- สหรัฐฯ นำเข้ากาแฟบราซิลเป็นอันดับต้น ๆ ทำให้คนอเมริกันอาจจ่ายกาแฟแพงขึ้น
- ร้านกาแฟและผู้บริโภคปลายทางเตรียมตัวรับแรงกระเพื่อม
- นี่คือตัวอย่างว่าการเมืองระหว่างประเทศสามารถเชื่อมโยงถึงชีวิตประจำวันได้จริง ๆ แม้แต่ในกาแฟแก้วเดียว
กาแฟที่คุณถืออยู่ในมือ อาจแพงขึ้นเพราะนโยบายการค้าของทรัมป์ก็ได้ ใครจะคิดว่า “นโยบายภาษี” จะส่งผลถึงรสขมในแก้วได้จริง
ถ้าคุณไม่อยากพลาดเรื่องราวแบบนี้ แชร์บทความนี้ไว้เผื่อวันหนึ่งกาแฟถ้วยประจำจะไม่ใช่แค่กาแฟถ้วยเดิมอีกต่อไป ☕✨
อ้างอิงจาก: bbc cnn






