iPhone 15 Pro Max และ Samsung Galaxy S23 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อป กับสเปคและฟีเจอร์ที่ล้ำหน้า

Photo Credit : Youtube Channel Alpha Tech

iPhone 15 Pro Max และ Samsung Galaxy S23 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ หน้าจอ และกล้องที่อัปเกรดใหม่ ทั้งสองรุ่นต่างก็มีสเปคและฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ยากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ

ข้อแตกต่าง

• หน้าจอ: Galaxy S23 Ultra มีความละเอียดหน้าจอที่สูงกว่าที่ 2K (QHD+) ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max มีความละเอียดหน้าจอที่ต่ำกว่าที่ FHD+
• ขนาดหน้าจอ: Galaxy S23 Ultra มีหน้าจอที่ใหญ่กว่าที่ 6.8 นิ้ว เมื่อเทียบกับหน้าจอ 6.7 นิ้วของ iPhone 15 Pro Max แต่ทั้งสองรุ่นต่างก็มีขอบจอที่บางเฉียบ
• ความสว่างหน้าจอ: iPhone 15 Pro Max สว่างกว่าที่ 2,000 nits เมื่อเทียบกับ Galaxy S23 Ultra ที่ 1,750 nits
• กล้อง: Galaxy S23 Ultra มีระบบกล้องที่หลากหลายกว่า โดยมีกล้องหลัก 200MP และปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max อัปเกรดเป็นกล้องหลัก 48MP และระบบซูม 5x ที่ดีขึ้น
• การถ่ายวิดีโอ: iPhone 15 Pro Max โดดเด่นด้านการถ่ายวิดีโอด้วยการสนับสนุน ProRes ช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงแบบไม่บีบอัดได้ นอกจากนี้ยังรองรับคุณสมบัติ spatial video และ 3D video
• ชิปเซ็ต: iPhone 15 Pro Max ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต A17 Pro ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพ CPU และ GPU เพิ่มขึ้น 10% และ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ของ Samsung มีประสิทธิภาพที่แข่งขันได้
• RAM: Galaxy S23 Ultra มี RAM สูงสุด 12GB เมื่อเทียบกับ iPhone 15 Pro Max ที่ 6GB ซึ่งอาจมีประโยชน์กับงานมัลติทาสก์
• แบตเตอรี่: Galaxy S23 Ultra และ iPhone 15 Pro Max ต่างก็มีแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง แต่ Galaxy S23 Ultra มีแต้มต่อด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh
• การชาร์จ: ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 15W แต่ Galaxy S23 Ultra รองรับการชาร์จแบบมีสายที่เร็วกว่าที่ 45W ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max ชาร์จที่ 20W
• ระบบปฏิบัติการ: Galaxy S23 Ultra ทำงานบน Android 13 กับ One UI 5.1 ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max ทำงานบน iOS 17

สรุป

ทั้งสองรุ่นต่างก็มีฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความชอบและ priorities ส่วนบุคคล เช่น ระบบปฏิบัติการ ความต้องการของกล้อง และคุณภาพของหน้าจอ