ดร.อมรเทพถาม "ช็อปช่วยชาติ-รถคันแรก" ต่างกันตรงไหน? เตือนปชช. อย่าคิดสั้นๆ
วันที่ 27 ธ.ค. นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย โพสต์ความเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊ก ดร.อมรเทพ จาวะลา ถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่างวันที่ 25 -31 ธ.ค.58 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยระบุว่า นโยบายนี้เทียบกับนโยบายรถคันแรก หรือเช็คช่วยชาคิ ที่ทำให้เศรษฐกิจในปีนั้นๆ เติบโตสูง แต่จะทำให้การบริโภคซึมยาว
ทั้งนี้ นายอมรเทพระบุว่า ควรนำการลงทุนที่จะทำในอนาคต มาทำในปัจจุบัน แทนการดึงการบริโภคในอนาคตมาใช้วันนี้มากกว่า
นายอมรเทพ กล่าวว่า นโยบายเร่งการบริโภคที่คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้โตขึ้น 0.1-0.2% แต่ทำไมไม่มีนักเศรษฐศาสตร์ออกมาวิจารณ์บ้าง ว่ามันเหมือนหรือต่างกับนโยบายประชานิยมอื่นยังไง หรือเราลืมบทเรียนรถคันแรกที่แม้จะทำให้ปี 2012 เศรษฐกิจโตสูง แต่ส่งผลให้การบริโภคซึมยาว นโยบายชุดนี้คงเล็กๆ เทียบกับเช็คช่วยชาติ หรือรถคันแรก
"แต่ที่แปลกคือ ทำไมไม่มีใครพูดว่ามันไม่ต่างกับการยืมการบริโภคของตัวเองในอนาคตมาใช้ในปัจจุบัน ก็อย่าแปลกใจหากการบริโภคปีหน้า ซึมกว่าเดิม หนี้ครัวเรือนสูงกว่าเดิม หนี้เสียบัตรเครดิตเพิ่มกว่าเดิม และอื่นๆ นักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งคำนวณว่านโยบายนี้เพิ่มจีดีพีปีนี้ได้เท่าไหร่ ผมขอฝากให้ช่วยคำนวณผลกระทบปีถัดๆ ไปด้วยนะครับ"
ส่วนผมยังเชื่อเรื่องยืมตัวเองจากการลงทุน คือแทนที่จะลงทุนปีหน้าปีโน้น ให้มาทำเดี๋ยวนี้ แต่ก็อย่างว่า การลงทุนมันเห็นผลช้า ความเชื่อมั่นต่ำ มันเลยไม่เกิดง่ายๆ
"ถ้าท่านมีใครรู้จักที่กำลังจะไปซื้อของมาลดหย่อนภาษี ฝากถามเขาทีว่าได้ใช้สิทธิลดหย่อนเรื่องอื่นครบหรือยัง LTF RMF หรือประกัน พวกนี้อยู่กันยาว และมีคุณค่ายามเกษียน อย่าคิดสั้นๆ เลยครับ” นายอมรเทพ กล่าว