เมื่อไปเดินห้างเจอของลดราคา อย่าเพิ่งกระโจนเข้าใส่ ขอบอกจากใจ
18 ธ.ค. เวลาบ่ายแก่ ๆ สักสี่ห้าโมงเย็น หญิงอ้วนหัวสีส้ม เยื้องกรายไปห้างค่อนข้างใหญ่ห้างนึง แถวย่านบ้านที่พักอาศัย คือ พระราม 3 ไปครั้งแรกแค่ต้องการไปจ่ายค่าทุกสรรพสิ่ง และซื้อกระปุกเก็บความร้อนมาชดเชยอันที่พังไป เลยแวะกินซิสเลอร์ เรื่องราวมันเกิดขึ้นหลังจากกินอิ่ม เพราะนึกได้ว่ามีวอยเชอร์ที่หลงเหลือจากการแลกมาจากบัตรเครดิต เลยคิดได้ว่าร่างกายต้องการชุดว่ายน้ำ จึงได้พาร่างอ้วนตรงไปชั้นกีฬา ไปเจอป้ายเร้าใจมาก 1 ชิ้นลดราคา 50 เปอร์เซนต์ สองชิ้นลด 70 เปอร์เซ็นต์ กระโจนเข้าใส่สิคะจะรออะไรอยู่ วอยเชอร์ร้อน ๆ นอนอยู่ในกระเป๋าสตางค์
ไม่อยากจะคุยสมัยเด็ก ๆ ชั้นเคยเป็นนักว่ายน้ำมาก่อน คุ้นเคยกับชุดว่ายน้ำ s .....o เป็นอย่างดี แค่ถามว่าไซส์ใหญ่สุดยังเป็น 38 อยู่ใช่ไหม น้องเค้าก็บอกว่าใช่ค่ะ เพื่อความชัวร์ก็ลงมือลองกันเลย จนได้ชุดที่พอใจ ในราคาลด 50 เปอร์เซนต์ คือประมาณ 1250 บาท น้องเค้าก็เอ่ยปากบอกว่าพี่ค่ะ ถ้าพี่เอาสองตัวมันจะประมาณ 1400 กว่าเองนะคะ หญิงอ้วนตรึกตรอง พลันสายตามองไปเห็นชุดบิกินี่สีส้มลายตัวเอสสีดำ ซึ่งตรงไม้แขวนห้อยไว้หราเลยว่าลดไปตามที่เราบอก เลยถามไปว่าแบบนี้มีไซส์พี่ไหม น้องก็ตอบว่ามีค่ะ หญิงอ้วนคว้าเข้าห้องลองทันที ใส่ได้พอดีเป๊ะ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนนักเพาะกายหุ่นพัง แต่นางอยากได้ จัดสิคะ นับวอยเชอร์ให้น้องไป 3 ใบ เดินตามน้องไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
ดราม่าของชีวิตก็เกิดขึ้นทันทีทันใด มีผู้ชายใส่เสื้อยืนมีปกสีขาวนั่งอยู่ตรงหน้าเครื่องคิดเลข นางก็คิดเงินเบ็ดเสร็จออกมามันไม่ใช่จำนวนที่น้องบอก เราก็เริ่มงง มันเกินไปเยอะมาก จากพันกว่าบาทเป็นสามพันเกือบสี่พัน น้องผู้หญิงที่ดูแลเราก็น่ารักมาก คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูป้ายราคา แล้วก็กดหาจำนวนเงิน ซึ่งก็เป็นตามที่เราบอก พลันสายตาเราก็มองไปที่เครื่องคิดเงิน มันไม่ใช่อย่างที่ติดป้ายบอกไว้ซะแล้ว บทสนทนาระหว่างพนักงานก็เริ่มขึ้น พอจับใจความได้ว่า บิกินี่นั้นลดแค่ 30 เปอร์เซนต์ไม่สามารถเอามารวมเป็นลด 70 ได้ เอาละสิ ๆๆๆๆๆๆ เอาวะลด 30 เปอร์เซนต์ จาก 2400 หรือ 2700 เนี่ยลด 30 เปอร์เซนต์ยังไง ๆ ก็ไม่ถึง 2000 เอาก็เอาว่ะ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อพนักงานชายถามว่า ราคาที่บอกเราได้บวกขึ้นหรือยัง
ห๊า.................... บวกขึ้นก่อนติดป้ายลด มันใช่เหรอ คุณหลอกดาว
เอ้างั้นซื้อตัวเดียวก็ได้ เอาตัวธรรมดาก็แล้วกันบิกินี่ไม่ต้อง เอาตัวที่ลด 50 เปอร์เซนต์ก็แล้วกันใส่แล้วดูทะมัดทะแมงดี ถึงแม้จะเหมือนนักยกน้ำหนัก รุ่นย้อยไปทั้งตัว วอยเชอร์อยู่กับน้องสามใบ ๆ ละ 500 น้องคืนมาใบนึง แล้วเราก็เติมเป็นเงินสดไป
ช้าก่อน เรื่องไม่ได้จบแบบเทพนิยาย
เมื่อผู้ชายคนนั้นกดเครื่องคิดเลข แล้วกันเครื่องมาให้ดู มันไม่ใช่ราคาที่น้องบอกไว้ค่ะ มันเกือบพันห้า หรือเลยไปนิดหน่อย ถึงจะโง่ แต่ก็คิดเลขเป็น 2000 ต้น ลด 50 เปอร์เซนต์ มันก็ต้องเหลือพันนิด ๆ สิคะ คำถามเดิมหันมาถามน้องอย่างเอาเรื่อง ว่า บวกราคาลงไปหรือยัง
ห๊า ....................... บวกราคาอีกแล้ว ตกลงทำไมไม่เปลี่ยนป้ายเปลี่ยนราคาให้เสร็จสรรพเสียก่อน ตอบ!!!!!!
เอร่อ น้องคะเอาเป็นว่าพี่ไม่ซื้อแล้วค่ะ เพราะถ้าเกิดพรุ่งนี้มาเดินแล้วป้ายยังติดอยู่แล้วคนอื่นซื้อได้ในราคาที่ลดจริง ๆ ไขมันมันพี่จะสะเทือนไหม ตอบสิ
โดยส่วนตัวเชื่อว่า พรุ่งนี้ถ้ากลับไปเดินห้างอีป้ายลด 50 เปอร์เซนต์กับ 70 เปอร์เซ็นอาจจะหายไปบ้าง อาจจะย้ายที่บ้าง หรืออาจจะหายไปเลย และยังเชื่อโดยสุจริตว่า ป้ายราคาจะต้องขยับราคาขึ้นจากราคาที่เราเห็น เพราะมันเป็นเทศกาลลดราคา ที่หาความจริงใจไม่ได้
ลาก่อย ไม่ว่ามิดไนท์ มิดเยียร์ มิดเดย์ เซลย์ ชั้นจะไม่ไปเบียดคนเพื่อเลือกซื้อของที่ลดไม่จริง ไปเดินซื้อวันธรรมดา คนโล่ง ๆ ไม่ต้องเบียดเสียดก็ได้มั๊ง ความจริงวันนี้คนก็ไม่ได้เยอะแต่นึกถึงตอนที่เค้าสาระพัด mid ที่คนต้องไปเบียดเสียดกันซื้อ พึงสังวรณ์ เรากำลังตกเป็นเหยื่อของคำว่าลดราคา ที่เขามีกลอุบายในการทำราคา
อย่าถามถึงภาพถ่าย ไม่ได้ถ่ายมาเพราะไม่ได้อยากจะเอาเรื่องเอาราวแต่อย่างใด เพราะก่อนจะเดินจากมา ยังชี้ป้ายที่ติดกับตัวที่เราต้องการมันติดไว้อย่างนั้นจริง ๆ ให้พนักงานดู น้องเค้าก็พร่ำขอโทษ
คือ แค่อยากจะเล่าขำ ๆ อยากรู้ว่ามีใครเคยเจอบ้างไหม อยากรู้ว่าจริงเหรอที่ห้างที่เค้าลดราคาเค้าทำกันแบบนี้
อย่าคิดว่าจะเลิกซื้อของที่ห้างนี้ คือไม่มีทางเลือกค่ะ มีห้างเดียวที่ใกล้บ้านที่สุด ก่อนกลับยังหน้าด้านแวะซื้อแก้วเก็บความร้อนลด 30 เปอร์เซนต์ยี่ห้อ Zojirushi อยู่เลย ของเก่ามันพังมันไม่เก็บความร้อนแล้ว เลยได้ความรู้ว่าของพรรณนี้ ถ้าซื้อมาแล้วต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่ใช้นานมันจะพัง ไม่เก็บความร้อน โดนไป 910 บาท ให้วอยเชอร์ไปสองใบน้องบอกว่าทอนได้แค่ 20 เปอร์เซนต์ เลยได้ขวดพลาสติค ล๊อค แอนด์ ล๊อค มาอีกใบเพิ่มตังค์ไป 20 บาท
โปรดท่องไว้ การติดป้ายลดราคาเป็นภาพลวงตา ตอนจ่ายตังค์นั่นหนาเป็นเรื่องจริง
ขอบคุณกระทู้จากคุณ คุณน้ำตาลหวานใจ สมาชิกเว็บพันทิป (เว็บโพสท์จังได้ขออนุญาตเรียบร้อยครับ)