สาวประเภท 2 ฟ้องศาลฯ ปม"มธ." ไม่รับเป็นอาจารย์ เชื่อกีดกันทางเพศ
สาวประเภทสองยื่นศาลปกครองฟ้อง "มธ." เหตุไม่รับเข้าเป็นอาจารย์ ทั้งที่ผ่านข้อเขียน-สัมภาษณ์ เชื่อละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เลือกปฏิบัติทางเพศ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 3.6 แสน ไม่รวมดอกเบี้ย
วันที่ (12 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายเคท ครั้งพิบูลย์ สาวประเภทสอง พร้อมนายนคร ชมพูชาติ ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้อง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.) ต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง กรณีที่ มธ. และ ก.บ.ม. มีมติไม่เห็นชอบ จ้าง นายเคท ทั้งที่สอบผ่านข้อเขียน-สัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งอาจารย์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยการอ้างว่า นายเคทมีพฤติกรรมการแสดงออกผ่านสื่อออนไลน์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม โดยอ้างภาพลิปสติกที่มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชายที่นายเคทโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์การเป็นอาจารย์ของ มธ.
โดยในคำฟ้องดังกล่าวระบุว่า ภาพลิปสติกดังกล่าวเป็นของฝากจากประเทศญี่ปุ่น เป็นการโพสต์เพื่อขอบคุณผู้ที่ซื้อฝากและเป็นการสื่อถึงเรื่องเพศวิถี ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมักจะใช้เรื่องเพศวิถีเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตสินค้า อีกทั้งตามปกติ นายเคทเป็นผู้ที่ใช้สื่อออนไลน์ในการให้ข้อมูลเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน ความหลากหลายทางเพศวิถี เพศสภาพ เพราะได้มีประสบการณ์ทำงานวิชาการในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น จึงร้องให้ศาลปกครองสั่งเพิกถอนมติ ก.บ.ม. ครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2558 และ มติ ก.บ.ม. ครั้งที่ 10/2558 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2558 ที่มีมติไม่เห็นชอบจ้างนายเคทเป็นอาจารย์ มธ. และให้ศาลสั่งให้ ก.บ.ม.รับนายเคท เป็นอาจารย์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชดใช้ค่าสินไหม แก่นายเคท เป็นเงิน 363,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น รวมทั้งให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชดใช้ค่าเสียโอกาสแก่นายเคท ในอัตราเดือนละ 23,700 บาท นับถัดจากวันฟ้อง จนกว่า ก.บ.ม.จะรับนายเคท เป็นอาจารย์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดยนายเคท เปิดเผยว่า ตนหวังว่าคดีของตนจะเป็นบรรทัดฐานให้สังคมไทยเข้าใจสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศ อีกทั้งในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังร่างอยู่นั้น ตนต้องการให้ระบุถึงสิทธิทางเพศ เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ลงข้อกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ด้านนายนคร ชมพูชาติ ทนายความ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า คดีนี้เป็นการตรวจสอบแนวคิดการวินิจฉัยการใช้ดุลยพินิจรับคนเข้าทำงาน โดยการตรวจสอบครั้งนี้เพื่อให้เห็นเหตุผลชัดเจนขึ้น แม้มหาวิทยาลัยจะอ้างหลักพิจารณาต่างๆ แต่ต้องมองเรื่องทางเพศวิถีในการประกอบการพิจารณาด้วย ตนหวังให้ศาลปกครองช่วยทำให้สังคมเห็นถึงความซับซ้อนต่าง ๆ