หัวใจแม่แทบแตกสลาย เมื่อตาฆ่าหลานตัวเอง
หัวใจแม่แทบแตกสลาย เมื่อตาฆ่าหลานตัวเอง
ตาป่วยโรคประสาทกำเริบจับหลาน 2 ขวบฟาดพื้นเสียชีวิต นาทีที่
ปราจีนบุรี-เกิดเหตุสลด ตาวัย 51 ปีป่วยโรคประสาทกำเริบใช้เชือกรัดคอและลำตัวหลาน 2 ขวบ ก่อนจับขาฟาดกับพื้นถนนคอนกรีตจนเสียชีวิต จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาทมานานแล้ว และอยู่ระหว่าง การรักษา ซึ่งคาดว่าอาจจะขาดยา และมีอาการกำเริบจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้จนมาก่อเหตุสลดดังกล่าว
ที่เกิดเหตุบนถนนกลางซอย พบร่าง เด็กหญิงแก้ว (นามสมมติ) สวมชุดสีฟ้านอนคว่ำหน้ากับพื้นถนนในสภาพมีเลือดออกทางปากและจมูก มีรอยถลอกตามร่างกาย ใกล้ๆ กันพบ นางเกด (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่นั่งร่ำไห้ฟูมฟาย โดยมีเพื่อนๆคอยปลอบใจ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้า นางเกด ผู้เป็นแม่ได้ออกไปทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยฝากน้องแก้วไว้กับ นายเล็ก (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เป็นตาแท้ๆ คอยดูแล ซึ่งเป็นเรื่องประจำทุกวัน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย
จนกระทั่งมีคนโทรไปบอกว่า ลูกสาวเสียชีวิตจึงรีบกลับมาดูก็พบว่า ลูกสาวเสียชีวิตแล้วโดยถูกตาแท้ๆ ทำร้าย ด้วยการจับร่างน้องแก้ว โยนขึ้นไปกลางอากาศ ให้ตกลงมาบนพื้นถนนซึ่งเป็นคอนกรีตหลายครั้ง จนแน่นิ่ง แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเพื่อนบ้านเห็นและพยายามเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกนายเล็ก ซึ่งเป็นตา วิ่งเข้าไปในบ้านพัก คว้าสากออกมาขู่ว่าหากใครเข้ามาจะตี จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย จนกระทั่งมีคนรู้มารุมดู นายเล็กกลัวจึงได้หลบหนีไป
นางเกด เปิดเผยว่า นายเล็ก ป่วยเป็นโรคประสาท มีอาการเครียด ซึมเศร้า จนต้องเข้ารับการรักษาและนำยาจากทางโรงพยาบาลประสาท ได้ยามากินอย่างต่อเนื่อง โดยปกติก็ไม่เคยแสดงกิริยา หรือว่าจะทำร้ายใคร แต่ทำไมวันนี้ ถึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งแล้วจับหลานสาวโยนบนถนนจนเสียชีวิต ทั้งที่ปกตินายเล็กรักหลานสาวคนนี้มาก