จังหวัดอุดรขนลุก!! เจ้าของที่เข้าฝันบอกตำแหน่งที่อยู่ และนี่คือสิ่งที่เจ้าอาวาสเจอ ชาวบ้านถึงกับขนลุก
เกิดเรื่องประหลาดขึ้นที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ช่างมาทำงานนอนในวัด ฝันว่ามีชายโบราณรูปร่างสูงใหญ่พาชี้จุดในป่าหลังวัด ไปบอกเจ้าอาวาสพากันไปจุด พบเสมาโบราณสลักอักษรขอมถึง22ใบ พระพุทธรูป1 องค์ กับอีก1เศียร ชาวบ้านแห่ไปขอหวย…
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดป่าหนองเป่ง บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังทราบว่าชาวบ้านขุดพบพระพุทธรูปโบราณ และใบเสมาจำหลักภาษาขอมจำนวนมาก เมื่อไปถึงบริเวณวัด พบชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้ใบเสมาขนาดใหญ่ จำนวน 22 ใบ พระพุทธรูป 1 องค์ เศียรพระพุทธรูป 1 เศียร ซึ่งถูกนำมาวางไว้บริเวณศาลาการเปรียญวัด ที่กำลังก่อสร้าง
หลุมที่ขุดพบใบเสมา ในป่ามะม่วงหินมพานต์ ของวัดป่าหนองเป่ง บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
นายสุรศักดิ์ ตุธรรม อายุ 27 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ช่างปั้นสัตว์หิมพานต์ และช่างวาดกระเบื้อง ผู้พบใบเสมา กล่าวว่า มารับเหมาปั้นสัตว์หิมพานต์ให้วัดได้ประมาณ 1 เดือน โดยนอนอยู่ที่วัด ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 23 ก.ย.ที่่านมา ตนนอนหลับไปแล้วฝันเห็นผู้ชายโบราณ ผิวดำ รูปร่างสูงใหญ่ เดินมาชวนให้เข้าไปในป่าหลังวัดซึ่งเป็นป่าชุมชนที่ดินของราชพัสดุ กว้างประมาณ 160 ไร่ โดยในฝันชายดังกล่าวได้พาเดินผ่านหนองเป่ง เข้าไปถึงสวนมะม่วงหินมพานต์ ห่างจากวัดประมาณ 700 เมตร แล้วชี้ลงพื้นดิน หลังจากนั้นตนจึงสะดุ้งตื่น และไปทำงานปกติไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
ผู้พบใบเสมา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คืนต่อมา ได้ฝันเหมือนเดิมอีกครั้ง ตื่นเช้าจึึงไปเล่าความฝันให้พระอาจารย์วิชิต ฐานะวิโร เจ้าอาวาสวัดฟัง ท่านจึงพาเดินไปที่ป่ามะม่วงหิมพานต์ ไปตรงบริเวณจุดที่ชายโบราณรูปร่างสูงใหญ่ในความฝันชี้ พร้อมกับใช้เหล็กแหลมประมาณ 1 เมตร แทงลงไปในดิน 3 ครั้ง กระทบกับวัตถุแข็งคล้ายหิน จึงได้ใช้จอบขุดประมาณ 1 เมตร ก็พบใบเสมาขนาดใหญ่ สลักด้วยภาษาขอม จึงได้ขุดนำขึ้นมาไว้ที่ศาลาวัด หลังจากนั้นเจ้าอาวาสได้นำชาวบ้านไปขุดหาใบเสมา และพบพระพุทธด้วยอีกหลายองค์ จึงนำขึ้นมาเก็บไว้
ใบเสมาขนาดใหญ่ ถูกขุดขึ้นนำมาวางเรียงไว้
หลังรับฟังคำบอกเล่าอันแปลกประหลาดดังกล่าวแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินไปที่ป่ามะม่วงหินมะพานต์ เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ พบพระภิกษุและชาวบ้านกำลังช่วยกันขุดหลุมหาใบเสมา และนำขึ้นมาได้อีก 7 ใบ รวมถึงฐานพระพุทธรูป 1 องค์ บางคนใช้เหล็กจิ้มลงไปในดิน เพื่อหาใบเสมาและพระพุทธรูป ซึ่งพระอาจารย์วิชิต ฐานะวิโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองเป่ง เปิดเผยว่า เป็นเจ้าอาวาสวัดได้ 5 ปี ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2556 ร่วมกับพระลูกวัด 4 รูป เดินหาที่สงบเพื่อปักกลดนั่งวิปัสสนา ก็ไปพบกับป่ามะม่วงหินมพานต์ห่างจากวัดประมาณ 700 เมตร ซึ่งเป็นป่าสาธารณะของหมู่บ้าน มีความเงียบสงบ จึงได้มาช่วยกันดายหญ้า ปักกลดนั่งวิปัสสนาในตอนกลางคืนเป็นประจำ
พระอาจารย์วิชิต กล่าวด้วยว่า ต่อมาปี 2557 ได้มาปักกลดปลีกวิเวกในที่เดิมกับพระอีก 2 รูป มีพระรูปหนึ่งพูดขึ้นมา “ถ้าตีสองใครยังไม่ตื่น จะให้พระภูมิเจ้าที่มาปลุก” พอถึงเวลา 02.00 น. พระ 2 รูปได้ตื่นขึ้น ส่วนตนฝันว่ามีงูเหลือมตัวขนาดใหญ่สีดำใช้ลำตัวมาหนุนคอเพื่อปลุก แต่ตนก็ยังไม่ตื่น กระทั่งงูได้ใช้หางแหย่ปากและจมูก ทำให้ตนสำลักและสะดุ้งตื่น จากนั้นตนและพระภิกษุก็ไม่ไปปักกลดในป่ามะม่วงหิมพานต์อีก แต่ย้ายมาปักกลดนั่งวิปัสสนาภายในบริเวณวัด
เศียรพระพุทธรูป 1 เศียร ที่ขุดพบคาดว่า มีพระพักตร์คล้ายพระพุทธรูปสมัยขอม หรือทวารวดี รอทางกรมศิลปากรมาตรวจสอบอีกครั้ง
“ต่อมาปี 2558 ได้มีโครงการสร้างศาลาการเปรียญสำหรับสวดมนต์และนั่งวิปัสสนา จึงได้ชวนชาวบ้านสร้างศาลาโดยที่ไม่มีเงินทุน ได้อาศัยเงินทำบุญจากชาวบ้านก่อสร้างศาลาไปเรื่อยๆ และต่อมาได้มีนายสุรศักดิ์ ซึ่งเป็นช่างปั้นและวาดลวดลายกระเบื้อง มาทำงานนอนอยู่ที่วัด ได้ฝันเห็นใบเสมาเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาจึงพากันไปขุดดู และพบใบเสมากับพระพุทธจำนวนมาก จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน เมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็มาช่วยกันขุด และพบขึ้นมาอีก ซึ่งทางวัดและผู้ใหญ่บ้าน ได้แจ้งกับกรมศิลปากรไปแล้ว” เจ้าอาวาส กล่าว
ด้านนายสมคิด กุตัน ผู้ใหญ่บ้านใหม่ หมู่ 14 ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ กล่าวว่า ป่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าสาธารณะ เป็นดินที่ราชพัสดุ มีเนื้อที่ทั้งหมด 160 ไร่ เป็นแนวเทือกเขาภูพาน ใกล้กับอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ต.เมืองพาน มีชาวบ้านมาขอเช่าพื้นที่ปลูกมะม่วงหิมพานต์จำนวน 10 ไร่ โดยนำรถไถมาไถดิน แต่ได้ปล่อยสวนมะม่วงหิมพานต์ทิ้งร้างมาหลายปีแล้ว ซึ่งตนเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน เล่าให้ฟังว่า ป่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดเก่าแก่ และเมื่อ 60 ปีก่อน เคยมีคนขุดพบใบเสมาแล้ว 3 ใบ
พระพุทธรูปที่ขุดพบ
ส่วนที่มีการขุดพบพระพุทธรูป มีพระพักตร์คล้ายพระพุทธรูปสมัยขอม หรือทวารวดี และใบเสมาที่มีอักษรขอมสลักไว้ จึงคิดว่าเป็นของโบราณ มีอายุราว 1,000-2,000 ปี วันนี้จึงได้แจ้งไปให้กรมศิลปากร เข้ามาตรวจสอบอายุใบเสมาและพระพุทธรูป ซึ่งทางกรมศิลปากรได้แจ้งว่าจะมาในวันที่ 29 กันยายนนี้ เมื่อตรวจแล้วจะได้นำไปเก็บรักษาต่อไป.