ชาวบ้านวรรณะปาเทลประท้วง เรียกร้องขอโอกาสในตำแหน่งงานและการศึกษา
รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกของอินเดียประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล หลังชาวบ้านวรรณะปาเทลออกมาประท้วงใหญ่ เรียกร้องขอโอกาสในตำแหน่งงานและการศึกษา แต่เหตุประท้วงได้บานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลในที่สุด
ด้านนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดีของอินเดีย ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและใช้การเจรจา และว่าการก่อความรุนแรงจะไม่ทำให้เกิดผลดีต่อใครทั้งสิ้น
การประท้วงเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) มีขึ้นที่เมืองอาห์เมดาบัด และมีชาวปาเทลมาชุมนุมราว 300,000 คน โดยคนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นวรรณะที่มีอิทธิพลในภาคเศรษฐกิจและการเมือง ได้เรียกร้องขอโอกาสเข้าถึงด้านการศึกษาและตำแหน่งงานมากกว่านี้ โดยชี้ว่าโควต้าที่ทางการกำหนดไว้ให้กลุ่มคนวรรณะต่ำกว่า ตามนโยบายช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ทำให้ชาวปาเทลเข้าถึงตำแหน่งงานและที่นั่งในสถาบันการศึกษาได้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม การประท้วงได้ลุกลามเป็นเหตุจลาจลหลายจุดในเมืองอาห์เมดาบัดเมื่อคืนนี้ หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงวรรณะปาเทลเกิดปะทะกับคนท้องถิ่นที่มีวรรณะต่ำกว่า รวมทั้งยังไม่พอใจที่แกนนำการประท้วงวัย 22 ปีถูกจับกุม รายงานหลายกระแสระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้กระบองเข้าสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนจุดไฟเผาทำลายรถบัสอย่างน้อย 70 คัน ส่งผลให้ทางการต้องประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ 9 เขตในเมืองอาห์เมดาบัด นอกจากนี้ทางการได้ระดมกำลังทหารและทหารอาสาไปรักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งยังมีการระงับบริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ด้วย
ด้านกลุ่มผู้ประท้วงได้นัดผละงานประท้วงเป็นเวลา 1 วันในวันนี้ ส่งผลให้สถานศึกษาและธุรกิจหลายแห่ง ปิดทำการ รวมทั้งมีการระงับบริการขนส่งมวลชนในเมืองอาห์เมดาบัด และหลายพื้นที่ในรัฐคุชราต
ทั้งนี้ คนวรรณะปาเทลมีสัดส่วนคิดเป็น 20% ของประชากรในรัฐคุชราต พวกเขาระบุว่า ไม่ได้รับสิทธิให้เข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษา เพราะทางการเก็บโควต้าเข้าเรียนให้คนวรรณะต่ำกว่า นอกจากนี้ภาวะที่อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมที่ชะลอตัว ทำให้หางานได้ยากขึ้นจากระบบโควต้าดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ จึงขอเรียกร้องให้ทางการจัดพวกเขาอยู่ในกลุ่ม Other Backward Classes (OBC) ซึ่งเป็นกลุ่มคนวรรณะกลางในระบบวรรณะของศาสนาฮินดู ที่ไม่ได้ถูกกีดกันจากสังคม แต่เป็นกลุ่มที่มักเสียเปรียบทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ