ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปเอเซีย-แฟซิฟิกจะกลายเป็นภูมิภาคที่ร่ำรวยที่สุดทิ้งอเมริกาไว้เบื้องหลัง - งานวิจัย
พูดแต่เรื่องสงครามแล้วอาจจะทำให้บางท่านรู้สึกเครียด งั้นหันมาดูเรื่องเศรษฐกิจบ้างนะครับ เมื่อวานนี้อ่านข่าวหนึ่งแล้วเห็นว่าน่าสนใจอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง คือเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Asia-Pacific to leave N.America behind as world’s richest region by 2016 – study" จริงดิ๊!? น่าสนใจใช่ป๊ะ? มันมีเหตุผลอะไรถึงกับทำให้ RT ต้องพาดหัวข่าวแบบนี้ หรอกกันเล่นหรือเปล่า? ก็ลองอ่านดูจึงพบว่านี่ RT เขาไม่ได้พูดเอง แต่เป็นการศึกษาและวิจัยจาก BCG
รายงานข่าวบอกว่า ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกได้ล้ำหน้ายุโรปไปแล้วเป็นครั้งแรกในความหมายของคำว่า "การบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก" (global wealth management) (เอ๊ะ! คำนี้ฟังคุ้นๆนะ จำได้หรือเปล่าใครที่ชอบพูดคำนี้บ่อยๆ "ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" คริๆ) ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกกำลังจะกลายเป็นภูมิภาคที่มั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับสอง (ของโลก) ด้วยมูลค่าการซื้อขายถึง $47 trillion (ประมาณ 1.5 พันล้านล้านบาท) และกำลังจะแซงหน้าอเมริกาเหนือในปีหน้านี้แล้ว นี่เป็นรายงานการวิเคราะห์จาก The Boston Consulting Group (BCG) ของสหรัฐฯเองนะ
BCG เผยแพร่รายงานชื่อ "Growth Continues, but Skies Are Not All Blue for Wealth Managers" BCG Perspectives ก็ออกรายงานอีกและฉบับชื่อ "Global Wealth 2015: Winning the Growth Game" เนื้อหาคล้ายกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ในปี 2019 (อีก 4 ปีข้างหน้า) ความมั่งคั่งภาคเอกชน (private wealth) ในประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกคาดว่าจะกลายเป็น 1 ใน 3 ของความมั่งคั่งทั่วโลก
รายงานบอกว่าในปี 2014 อเมริกาเหนือมีความมั่งคั่งภาคเอกชนอยู่ที่ $51 trillion (ประมาณ 1.7 พันล้านล้านกว่าบาท) ซึ่งถือว่ายังครองตำแหน่งเป็นภูมิภาคที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่จากการคาดการณ์ล่วงหน้า พบว่าความมั่งคั่งภาคเอกชนในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะมีมูลค่าราว $57 trillion (ประมาณ 1.9 พันล้านล้านบาท) ภายในปี 2016 (ก็ปีหน้านะสิ! ฟังแล้วชื่นใจจัง) ในขณะที่ความมั่งคั่งภาคเอกชนของอเมริกาเหนือคาดว่าจะอยู่ที่ $56 trillion (ประมาณ 1.8 พันล้านล้านบาท) ในปีเดียวกันนี้
รายงานการศึกษาบอกว่าในปี 2019 (พ.ศ.2562) อัตราการเติบโตของความมั่งคั่งภาคเอกชน [ทั่วโลก] คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปี ซึ่งจะมียอดรวมถึง $222 trillion (ประมาณ 7.5 พันล้านล้านบาท)
หากดูภาพกราฟประกอบจะเห็นตัวเลขความแตกต่างได้ชัดเจนมาก ดูกราฟสีม่วง (2019E) ของ North America เทียบกับของ Asia-Pacific (ex Japan) ในปีเดียวกัน จะเห็นได้ว่าของอเมริกาเหนืออยู่ที่ 62.5% ในขณะที่ของเอเซีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) อยู่ที่ 75.1% เมื่อเทียบกันแล้วระหว่างปี 2014 กับ 2019 จะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตความมั่งคั่งร่ำรวยของภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกสูงกว่าทุกภูมิภาคทั่วโลกเลย ผู้ที่คบกับจีนและรัสเซียกลุ่ม BRICS และ AIIB รวมทั้ง SCO นับว่ามาถูกทางแล้ว เพราะตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป การลงทุนและพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จะมุ่งตรงมาที่ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกเป็นหลัก จึงไม่แปลกใจที่สหรัฐฯพยายามจะเข้าไปสร้างความวุ่นวายและเพื่อครอบครองหรือแย่งชิงส่วนแบ่งในทะเลจีนใต้จากจีน
The Eyes
18/06/2558