เมื่อ เนย รักโลก ได้ไป Slow life ที่ Switzerland
สวัสดีเพื่อนๆชาวโซเชียลทุกคน นี่เนยเองค่ะ
ที่เนยหายหน้าไปพักใหญ่ ไม่ใช่ว่าเบื่อโซเชียล หรือเรียนหนักอะไรนะคะ
แต่ว่าเนยแอบไปสโลวไลฟ์ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาค่ะ
ครั้งแรกที่เนยบอกกับเพื่อนๆว่าเนยจะไปสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อนมันบอกว่าเนยบ้าผู้ชาย
ช่างเถอะค่ะ ตอนนี้ผู้หญิงคนไหนอยากไปสวิสก็คงมีแต่จะโดนว่าแบบนี้ เนยไม่อยากต่อปากต่อคำ
แต่เรื่องของเรื่องคือ เนยอยากไปลองใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ที่นั่นดู ตรงนี้พี่โน้สจะด่าเนยก็เชิญนะคะ
มีคนบอกว่าที่นั่นต้นไม้เยอะมาก เนยรักต้นไม้ เนยเบื่อรถติดกับเบื่อน้ำท่วมขัง ถ้าพี่โน้สทนได้ก็เชิญแต่เนยจะไม่ทน
แม้ว่าที่สวิสเซอร์แลนด์จะมีหลายอย่างที่เนยประทับใจ แต่ก็มีหลายอย่างที่ทำให้เนยสับสนเช่นกัน
เนยจะค่อยๆเล่าไปทีละเรื่องนะคะ
นี่คือสิ่งที่เนยวาดภาพเอาไว้ก่อนไป เนยอยากนอนนับดาวและตื่นมาสูดโอโซนในตอนเช้า
แต่นี่คือสิ่งที่เนยเจอ
ใช่ค่ะ มันคือ "กระท่อมเถียงนา" ที่เนยใช้พักอาศัย
เนยถ่ายรูปนี้ส่งไลน์ให้เพื่อนดู
มันส่งติ๊กเกอร์หมีทำหน้าเศร้า แล้วเขียนว่า "ชีวิต ดี๊ดี" ..เนยรู้ว่ามันประชด
ที่นี่เนยนอนดมกลิ่นขี้วัวโชยมาหลังบ้านทุกวันโดยลืมนับดาวไปเลย
แต่มาคิดอีกที ขนาดวัวมันยังรู้จักเลือกกินแต่พืชที่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งเนยให้อภัยมัน
แล้วอีกอย่างวัวที่สวิสมันก็หน้าตาตลกใจดีแบบนี้ทุกตัว
ตอนแรกเนยโกรธคนที่หลอกเนยว่าอยากเห็นต้นไม้เขียวๆให้มาเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์
ที่นี่ก็มีปัญหาหมอกควันไม่แพ้บ้านเนย
เนยคิดว่าคนสวิสอาจกำลังถูกธรรมชาติลงโทษ เหมือนที่เนยเคยโดน
ปัญหาหมอกควันแบบนี้มักเกิดกับประเทศที่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อปลูกพืชล้มลุกป้อนโรงงานอาหารสัตว์ เนยเคยเจอมาก่อนเนยมั่นใจ
การถางป่าจนเหลือแต่เขาหัวโล้นเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด
ตอนแรกๆที่มาอยู่นี่ เนยเหงามาก จนอยากออกไปยืนร้องไห้ที่ท่าน้ำเป็นเพื่อนวัว
ถ้าน้ำตามันจะรินไหลไปราดรดต้นไม้ที่แห้งแล้ง ก็ยังดีกว่าทนเก็บไว้คนเดียว
แต่พอมองไปเห็นต้นไม้บางต้น ที่มันยังมีชีวิตยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางความแห้งแร้ง มันทำให้เนยมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ
วันไหนที่เหงาๆเนยจะออกไปปั่นจักรยาน หรือไม่ก็นั่งเรือ นั่งรถไฟเที่ยว ชีวิตที่นี่มันก็มีแค่นี้
รถไฟที่นี่ทำให้เนยช็อค มีคนเคยบอกเนยว่ารถไฟที่นี่ทันสมัยมากและมีร้านสตาร์บัคบนรถไฟด้วย
เนยคาดหวังว่าคงจะได้นั่งรถไฟหัวกระสุน
แล้วนี่มันคืออัลไล(ภาษาวัยรุ่น = อะไร)
ต้องตัดต้นไม้กี่ต้นมาทำฟืนต้มน้ำเพื่อให้รถไฟวิ่งได้คะ
เนยเห็นแต่ละคนมีความสุขบนความสูญเสียของต้นไม้ เรื่องนี้เนยรับไม่ได้
อีกเรื่องที่เนยคิดว่าคนที่นี่เห็นแก่ตัวเกินไป
คิดดูว่าต้นไม้จะเอาน้ำฝนจากที่ไหนคะ ถ้าผู้คนที่คอยสร้างเมฆมัวแต่หลบไปหาความสุขกันในกล่องเล็กๆ
แต่จะว่าไปที่นี่ก็มีอะไรบางอย่างที่ดีกว่าบ้านเนย
ดูสิ ต้นไม้เก่าแก่แบบนี้ถ้าเป็นที่บ้านเนย คงจะมีคนหมั่นไส้อยากโค่นเพื่อขยายไหล่ทาง
โชคดีนะที่มันอยู่ริมน้ำ ไม่ได้อยู่ริมถนนเหมือนต้นไม้ที่บ้านเนย
และคนสวิสก็บ้าปลูกต้นไม้ไว้ในบ้าน
แต่มีบางเรื่องที่เนยสับสน
คนที่นี่เขาขี้เกียจถอนหญ้า หรือเขารักต้นไม้เหมือนเนยกันแน่ เนยอยากรู้
ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ทำให้เนยตระหนัก ต่อไปนี้ทุกๆครั้งที่เนยขึ้นรถไฟ เนยจะไม่ลืมว่ามีต้นไม้คอยอาหารจากเนยอยู่ข้างล่าง
ต้นไม้ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนมันก็ต้องการอาหารเหมือนกับคน เนยจะพยายาม
ที่นี่มีกระเช้าขึ้นภูเขาอยู่ทั่วไป ขึ้นกระเช้ายังจะง่ายกว่าโบกแทกซี่ที่บ้านเนยซะอีก
เนยคิดว่าเขาใจร้าย ที่ยอมตัดต้นไม้ทั่วประเทศ
เพื่อให้คนขึ้นไปหายใจเอาออกซิเจนใส่ปอดในที่สูงๆโดยไม่ต้องออกแรงเดิน
แต่พอมาเห็นการสร้างทางรถไฟกลับทำให้เนยเปลี่ยนใจ
ก็ขนาดยอมขุดอุโมงค์เข้าไปในก้อนหิน เพื่อที่จะเก็บรักษาต้นไม้ไว้
เรื่องนี้มันทำให้เนยตื้นตันและลืมความโกรธเรื่องกระเช้าไป เนยเอาใจช่วยให้รถไฟไม่ตกรางบ่อยๆ
เรื่องรางรถไฟ เนยเคยโม้กับเพื่อนที่เป็นคนสวิสว่า บ้านเนยกำลังจะมีรถไฟรางคู่
เพื่อนมันทำหน้าจ๋อยๆ แล้วชี้ให้ดูบอกว่า ที่นี่มีแต่รางคี่
เนยได้แต่ปลอบใจ
เพื่อนคนนี้ใจดีมาก เขาเคยชวนเนยไปดูสะพานไม้ที่ยาวและเก่าแก่ ตอนแรกเนยไม่อยากไป
ต้องตัดต้นไม้กี่ต้นเพื่อจะมาทำสะพานเนยคิดในใจ แต่พอไปดูก็สวยดี
ลำห้วยที่นี่น้ำใสมาก แต่เนยคิดว่ามันอาจเป็นน้ำตาของต้นไม้ที่ร้องไห้เพราะถูกตัดโค่น
มีอยู่วันหนึ่ง เป็นวันหยุดเพื่อนคนนี้มันบอก "วันนี้ไปกินข้าวนอกบ้านกัน" เนยดีใจแทบกระโดดตัวลอย
เนยผิดมากใช่มั๊ยที่ตื่นมาแต่งหน้าทำผมเพื่อออกไปนั่งกินข้าวหน้าบ้าน
บางวันมันก็ชวนไปเล่นสกี เนยไม่อยากขัดทั้งๆที่ใจไม่ชอบเลย
เนยรักต้นไม้มากกว่าหิมะค่ะ เนยมั่นใจ
ครั้งล่าสุด เพื่อนบอกว่า คราวนี้ไปกินข้าวนอกบ้านจริงๆละนะ
มันพาไปร้านอะไรก็ไม่รู้ นั่งกินแล้วภูเขาก็หมุนไปเรื่อยๆ จนเนยเวียนหัว
บนนั้นไม่มีต้นไม้สักต้น เนยตาลายและอึดอัดมาก
เนยบอกแล้วว่าวัวที่นี่หน้าตาน่ารักทุกตัว
มีอยู่วันหนึ่งเนยเห็นวัวนอนเล่นใต้ต้นไม้ มันยิ้มให้เนย เนยเลยถามมันว่าสบายดีมั๊ย
มันไม่ตอบอะไร เนยเลยไม่อยากกวน มันอาจจะเหนื่อยจากการทำงาน
เนยรักวัว เพราะวัวช่วยเนยให้อาหารต้นไม้อีกแรงหนึ่ง
หรือคิดอีกที เนยอาจจะอิจฉาพวกมัน
มีอยู่วันหนึ่ง เนยเดินเล่นเข้าไปในป่า เนยตกใจมากที่เจอสนามเด็กเล่นที่นั่น
นี่ต้องตัดต้นไม้เพื่อสร้างสนามเด็กเล่นกันเลยเหรอ เนยควรจะโกรธใช่ไหม
เรื่องสนามเด็กเล่นยังมีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง
เนยเห็นคนทำภูเขาจำลองให้เด็กปีน ทำไมเขาต้องทำภูเขาหัวโล้น
เนยอยากให้มีต้นไม้อยู่บนนั้น เด็กๆจะได้มีออกซิเจนเวลาปีนเขา
เพื่อนคนนี้ก็ดีอย่าง คือชอบชวนเนยไปเดินเขา
ถ้าเป็นเรื่องเดินเขาเนยไม่เคยปฏิเสธ เพราะบนเขามีต้นไม้เยอะ
ไปเจอโรงแรมสวยดี เนยอยากพักที่นี่สักคืน
แต่พอไปเจอภาพนี้ เนยโกรธมาก
ต้นไม้ทำผิดอะไร ทำไมต้องทำโทษ เอามันไปไว้ในที่แบบนั้น
เนยเลยเปลี่ยนใจกลับไปนอนดมกลิ่นขี้วัวที่เดิมยังดีกว่า
เนยบอกเพื่อนชาวสวิสก่อนจากกัน ว่าถ้ามีโอกาสอย่าลืมมาเที่ยวบ้านเนย
ที่นั่นมีรถไฟที่วิ่งเร็วกว่าสวิสเซอร์แลนด์
แล้วเนยน้ำตาไหลออกมา เพื่อนถามว่า ดีใจที่ได้กลับบ้านเหรอ
เนยตอบว่า กลัวกลับไปถึงบ้านแล้วถูกแทกซี่ฟันที่สนามบิน เพื่อนชาวสวิสทำหน้างงอีกตามเคย
สุดท้ายนี้เนยมีอะไรอยากฝากเอาไว้
เนยเชื่อว่า "ถ้าเรารักโลก โลกก็จะรักเรา"
ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะครับ กระทู้นี้เขียนขึ้นด้วยความคิดถึงประเทศ Switzerland และผู้หญิงไอดอลที่ชื่อว่า เนย รักโลก
มีเรื่องราวสนุกๆ กับการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด อีกมากมาย สามารถตามไปทักทาย เฮฮาปาจิงโกะกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/ลุงหมอขอพักร้อน-760679240696775/notifications/
ขอบคุณครับ
ขอบคุณกระทู้จาก คุณ ลุงหมอขอพักร้อน
https://www.facebook.com/ลุงหมอขอพักร้อน-760679240696775/notifications/
(ได้ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ คุณ ลุงหมอขอพักร้อน เรียบร้อยครับ)