"ฮุน เซน" อ้อนญี่ปุ่น! หยอดคำหวานกลางเวที “เขมรไม่สามารถแยกจากญี่ปุ่นได้” ย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้น ชี้ญี่ปุ่นคือแรงขับเคลื่อนความเจริญของกัมพูชา
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 — สื่อกัมพูชา SBM News รายงานถ้อยแถลงของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรี ว่าระหว่างการพบปะกับคณะผู้แทนจากประเทศญี่ปุ่น สมเด็จฯ ได้กล่าวคำชื่นชมญี่ปุ่นอย่างจริงใจ พร้อมระบุว่า “กัมพูชาไม่สามารถแยกจากญี่ปุ่นได้ เพราะถ้าไม่มีญี่ปุ่น กัมพูชาคงไม่เจริญเท่าทุกวันนี้”
ฮุน เซน กล่าวย้ำว่า ญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการช่วยฟื้นฟูและพัฒนากัมพูชาหลังยุคสงคราม โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคม และการศึกษา ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“ญี่ปุ่นไม่เพียงให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ แต่ยังให้เกียรติและความเคารพต่ออธิปไตยของกัมพูชาเสมอมา พวกเขาไม่เคยแทรกแซงทางการเมือง แต่เลือกที่จะร่วมมืออย่างเท่าเทียม นี่คือมิตรแท้ที่กัมพูชาไม่อาจลืมได้”
— สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าว
นักวิเคราะห์การเมืองในกรุงพนมเปญมองว่า ถ้อยคำของฮุน เซนครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนความสัมพันธ์เชิงมิตรระหว่างสองประเทศ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ให้เห็นถึงท่าทีของกัมพูชา ที่ต้องการรักษาความสมดุลทางการเมืองระหว่าง “อิทธิพลตะวันตก” และ “จีน” โดยการกระชับสัมพันธ์กับญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา เช่น สะพานมิตรภาพญี่ปุ่น–กัมพูชา, ถนนวงแหวนพนมเปญ, และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ Sihanoukville SEZ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญของภูมิภาค
สำหรับสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งมีบทบาทสำคัญทางการเมืองมากว่า 40 ปี การย้ำความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นทั้ง “กลยุทธ์” และ “ถ้อยคำทางการทูต” เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตานานาชาติ ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมบทบาทของลูกชาย สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ให้มีจุดยืนทางการทูตที่มั่นคงและหลากหลายมากขึ้น
บทสรุปของคำกล่าวนี้จึงไม่ใช่เพียงการ “อ้อน” ญี่ปุ่นในเชิงมิตรภาพ แต่ยังสะท้อนความเข้าใจเชิงลึกของฮุน เซนต่อการเมืองระหว่างประเทศ — ว่าการพัฒนาและความมั่นคงของกัมพูชาในอนาคต จำเป็นต้องยืนอยู่บนความร่วมมือกับพันธมิตรที่จริงใจอย่างญี่ปุ่น






















