คู่รักอินฟลูดังงงหนัก! รถโดนชนแค่ด้านข้าง แต่อู่ตีราคาซ่อมพุ่ง 1.3 ล้าน เจ้าตัวตั้งคำถามแรง “แพงเกินจริงไหม?”
💥 ดราม่าร้อนสะเทือนวงการซ่อมรถหรู! “มอสเจีย” คู่รักอินฟลูฯ ดัง รถอัลพาร์ดโดนชนแต่ค่าซ่อมพุ่ง 1.3 ล้าน สุดงง “อะไหล่แท้กอดจากรถคันอื่น”! เจ้าของอู่แจงเสียงแข็ง ยันทุกอย่างโปร่งใส ขณะ “หนุ่ม กรรชัย” ถึงกับอุทานกลางรายการ “งงมาก!”
กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่โลกออนไลน์จับตามอง เมื่อคู่รักอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง มอสเนีย และ เจีย จัสมีโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “มอสเจีย” ได้ออกมาโพสต์คลิปและข้อความผ่านโซเชียลส่วนตัว เปิดเผยถึงเหตุการณ์สุดช็อก หลังรถหรู “โตโยต้า อัลพาร์ด” ของพวกเขาถูก “คนเมาแล้วขับ” พุ่งชนด้านข้างจนได้รับความเสียหายหนัก
แม้ในตอนแรกจะดูเป็นแค่ “อุบัติเหตุทั่วไป” ที่มีประกันชั้น 1 คุ้มครองอยู่แล้ว แต่กลับกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อซับซ้อน เมื่อรถถูกนำไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ศูนย์บริการตามมาตรฐานที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และสุดท้ายค่าซ่อมที่ควรอยู่ในหลักแสนกลับพุ่งทะลุถึง 1.7 ล้านบาท ก่อนลดลงเหลือ 1.3 ล้านบาท — ทำเอาชาวเน็ตพากันตั้งคำถามสนั่น “รถโดนชนแค่ประตู ทำไมแพงขนาดนั้น?”
🚘 จุดเริ่มดราม่า: จากอุบัติเหตุเล็ก กลายเป็นปัญหาใหญ่
มอสเจียเล่าว่า หลังรถโดนชน ทั้งคู่ตั้งใจจะนำรถเข้า “ศูนย์บริการโตโยต้า” ตามเงื่อนไขประกัน เพราะรถอยู่ในประกันชั้น 1 (ซ่อมห้าง) แต่กลับมี “พี่คนรู้จัก” โทรมาชักชวนให้ลองไปซ่อมที่อู่เอกชนแห่งหนึ่ง โดยบอกว่าอู่นี้ “ซ่อมดี” และ “ซ่อมรถหรูระดับซูเปอร์คาร์มาแล้วหลายคัน” ด้วยความไว้ใจและเห็นว่าเป็นคนรู้จัก จึงตัดสินใจนำรถไปซ่อมที่นั่น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน รถยังไม่แล้วเสร็จ ติดต่ออู่ไม่ได้ มีคนแปลกหน้ามารับหน้าแทน และของบางอย่างในรถหายไป — มอสเจียเริ่มเอะใจ จึงโพสต์ขอความช่วยเหลือและขอให้คนที่เคยซ่อมกับอู่เดียวกันมาแชร์ประสบการณ์ ซึ่งหลายคนก็ออกมาคอนเฟิร์ม “โดนเหมือนกันหมด!”
😡 5 ข้อสงสัยที่ทำให้ “มอสเจีย” เดือด
หลังพูดคุยกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ มอสเจียจึงตั้งข้อสังเกต 5 ประเด็นใหญ่เกี่ยวกับอู่ดังกล่าว ได้แก่
1. ไปที่อู่แต่ไม่เจอรถตัวเอง
2. ติดต่อเจ้าของอู่ไม่ได้ มีคนอื่นมารับหน้าแทน
3. ของในรถหายหรือถูกสลับ
4. รถซ่อมล่าช้า ไม่ตรงเวลาที่เคยรับปากไว้
5. รถซ่อมเสร็จแล้วแต่สภาพไม่เหมือนเดิมเลย
แม้บริษัทประกันตีราคารวมเพียง 8 แสนบาท แต่อู่กลับประเมินค่าซ่อมสูงถึง 1.7 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า “รถภายในพังหนัก” และ “ต้องใช้ของแท้ทั้งหมด” ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมาก เพราะจุดที่ชนมีเพียงด้านข้างของรถเท่านั้น
หลังจากต่อรองกันไปมา อู่จึงลดราคาเหลือ 1.3 ล้านบาท แต่เจ้าของรถยังไม่ยอม เพราะมองว่าค่าซ่อมไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังพบความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ประตูใหม่ไม่ใช่มือหนึ่ง, ล้อแม็กซ์ถูกเปลี่ยน, และที่สำคัญคือ “อู่ยังคงซ่อมต่อ” ทั้งที่เจ้าของรถ “สั่งระงับการซ่อมไปแล้ว”
🏗️ อู่ซ่อมรถออกโรงชี้แจง ยันทุกอย่างเป็น “อะไหล่แท้”
เมื่อกระแสโซเชียลเริ่มแรง เจ้าของอู่ที่ถูกพาดพิงได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อ โดยยืนยันว่า การซ่อมครั้งนี้ดำเนินการด้วยความถูกต้องและโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมเปิดเผยว่า
ใช้อะไหล่แท้จากศูนย์โตโยต้าทั้งหมดกว่า 100 รายการ
ทุกชิ้นมี “ใบสั่งซื้อจริง” แต่เอกสารเป็น “ข้อมูลภายในของบริษัท”
ราคาซ่อมที่สูงเป็นเพราะ “โครงสร้างภายในรถเสียหายมาก” โดยเฉพาะ “คัสซีรถเบี้ยว 3 มิลลิเมตร” ซึ่งต้องซ่อมอย่างละเอียดเพื่อให้ปลอดภัย
ส่วนที่ถูกตั้งคำถามว่า “ประตูมือสอง” และ “อะไหล่แท้กอดจากรถคันอื่น” เจ้าของอู่ตอบว่า หมายถึง “อะไหล่แท้ถอดจากรถรุ่นเดียวกันที่ยังใหม่และสมบูรณ์” ซึ่งถือเป็นของแท้จากศูนย์เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่ของใหม่เอี่ยมจากกล่อง ทำให้คำพูดนี้กลายเป็นไวรัลทันที เพราะหลายคนไม่เข้าใจว่าการ “กอดอะไหล่แท้จากรถคันอื่น” หมายความว่าอย่างไร
😲 “หนุ่ม กรรชัย” งงกลางรายการ ถามชัด “ของแท้แต่ถอดจากรถอื่น มันยังไง?”
ประเด็นนี้ถูกพูดถึงในรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ทางช่อง 3 ซึ่งมี “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และ “ดร.หมวย อริสรา” เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยหลังอ่านคำชี้แจงของเจ้าของอู่ กรรชัยถึงกับอุทานกลางรายการว่า
“อะไหล่แท้กอดจากรถคันอื่นนี่หมายความว่ายังไงครับ? ถ้ามันถอดมาจากคันอื่น มันก็ไม่ใช่ของใหม่สิ?”
ผู้ชมต่างพากันแสดงความคิดเห็นสนั่นโลกออนไลน์ บ้างก็เห็นใจอู่ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากสังคม ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่า การซ่อมรถที่มีประกันชั้น 1 ควรได้มาตรฐานระดับศูนย์ ไม่ใช่ของมือสองหรืออะไหล่ถอดจากรถอื่น
💬 เจ้าของอู่เผยอีกมุม – “ไม่ได้หลอกลวง พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”
เจ้าของอู่ยังยืนยันว่า ไม่มีเจตนาหลอกลูกค้า และทุกขั้นตอนมีการตรวจสอบจากศูนย์บริการแล้ว โดยหลังซ่อมเสร็จ รถถูกนำไปตรวจเช็กที่ศูนย์โตโยต้าถึง 2 ครั้ง และได้รับการรับรองว่า “ใช้อะไหล่แท้” พร้อมใช้งานได้ตามมาตรฐาน
ส่วนสาเหตุที่งานล่าช้า เจ้าของอู่ชี้แจงว่า เกิดจาก “ปัญหาภายในของบริษัทประกันภัย” ที่มีการเรียกเก็บ “ค่าดำเนินการพิเศษ” รอบแรกประมาณ 20,000 บาท เพื่อเร่งอนุมัติยอด จากเดิม 8 แสนเป็น 1.3 ล้าน ซึ่งอู่ยอมจ่าย แต่เมื่อบริษัทประกันขอเพิ่มอีก 100,000 บาท เพื่อเร่งงานอีกครั้ง ทางอู่ไม่ยอมจ่าย ทำให้ขั้นตอนล่าช้าออกไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าของอู่ยืนยันว่า “ทุกอย่างซ่อมตามมาตรฐาน” และ “ยังไม่ได้รับค่าซ่อมเลยแม้แต่บาทเดียว” พร้อมประกาศ “พร้อมตรวจสอบทุกอย่างจากหน่วยงานกลาง”
🧍♀️ ฝั่ง “มอสเจีย” ไม่ขอทนอีกต่อไป – “ถึงเวลาที่เราต้องพูดบ้าง”
ภายหลังข่าวออกอากาศ มอสเจียได้โพสต์ภาพจากรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” พร้อมข้อความว่า
“หนูพร้อมมากค่ะ ขอบคุณนักข่าวที่ให้หนูได้ชี้แจง หนูไม่เคยได้พูดเลย ถึงเวลาที่หนูต้องพูดบ้างค่ะ”
โพสต์ดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมากจากแฟนคลับและชาวเน็ตที่ติดตาม โดยหลายคนเข้ามาให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอู่ซ่อมรถดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย
🔍 วิเคราะห์ประเด็น: ทำไมค่าซ่อมรถ “อัลพาร์ด” ถึงสูงขนาดนั้น?
ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถอัลพาร์ดถือเป็นรถหรูระดับพรีเมียมจากโตโยต้า ราคาคันละหลายล้านบาท การซ่อมจึงต้องใช้ชิ้นส่วนแท้ทั้งหมด ซึ่งแต่ละชิ้นมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและโครงสร้างตัวถังที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะทาง
อย่างไรก็ตาม หากรถชนเพียงด้านข้าง แต่ไม่มีความเสียหายถึงโครงสร้างหลัก ราคาค่าซ่อมระดับ “ล้านบาทขึ้นไป” ถือว่าสูงเกินไป จึงจำเป็นต้องตรวจสอบว่า มีการ “บวกค่าแรง” หรือ “เพิ่มรายการอะไหล่” เกินจริงหรือไม่
⚖️ เสียงจากชาวเน็ตสองฝ่าย
โลกออนไลน์แบ่งเป็นสองกระแสชัดเจน
ฝั่งหนึ่งเห็นใจ “มอสเจีย” มองว่าเป็นเหยื่อของระบบที่ไม่โปร่งใส ทั้งอู่และประกันอาจมีผลประโยชน์ร่วมกัน
แต่อีกฝั่งกลับมองว่า “อู่” ก็เป็นผู้ประกอบการที่ลงทุนสูง ใช้อะไหล่แท้ราคาแพงและแบกรับความเสี่ยงมากมาย การที่ค่าซ่อมสูงอาจมีเหตุผลในทางเทคนิค
บางคนถึงขั้นเสนอให้ “กรมการขนส่งทางบก” และ “สมาคมประกันภัยไทย” เข้ามาตรวจสอบอู่ที่รับซ่อมหรู เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก
🧩 บทสรุป: ดราม่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องซ่อมรถ แต่คือ “บทเรียนเรื่องความไว้ใจ”
กรณี “มอสเจีย” สะท้อนให้เห็นหลายแง่มุมของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ทั้งเรื่องความไว้ใจคนรู้จัก การเลือกใช้บริการอู่ซ่อมเอกชน การทำงานของระบบประกันภัย และความเข้าใจของผู้บริโภคต่อสิทธิของตนเอง
สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น “อู่” หรือ “เจ้าของรถ” ใครผิดใครถูกอาจต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ “การซื่อสัตย์ โปร่งใส และตรวจสอบได้” คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้
📰 สรุปสั้น ๆ:
รถอัลพาร์ดของ “มอสเจีย” โดนชน ถูกนำไปซ่อมที่อู่เอกชน
อู่ตีราคา 1.7 ล้าน ก่อนลดเหลือ 1.3 ล้าน
มอสเจียสั่งระงับซ่อม แต่พบว่ารถถูกซ่อมต่อ
เจ้าของอู่ยันใช้อะไหล่แท้ 100% แต่บางส่วน “ถอดจากรถคันอื่น”
หนุ่ม กรรชัย งงกลางรายการ ถามตรง “ของแท้แต่ถอดจากคันอื่น มันแท้ยังไง?”
ดราม่านี้กลายเป็นกรณีศึกษาเรื่อง “ความโปร่งใสในวงการซ่อมรถ”






















