กัมพูชาสงสัย ข้อตกลง 7 ฉบับ ที่ไทยเคยลงนามจะช่วย ยังมีอยู่หรือไม่? หลัง “แพทองธาร” ถูกถอดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมาตรี
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ “แพทองธาร ชินวัตร” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายกัมพูชาเกิดข้อสงสัยว่า ข้อตกลงที่ “แพทองธาร” และ “ฮุน มาเนค” ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) จำนวน 7 ฉบับ และข้อตกลงอื่น ๆ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ว่าไทยจะให้ความช่วยเหลือกัมพูชายังช่วยอยู่หรือไม่
ด้านนักวิชาการเขมรบอก ไทยต้องช่วยเหมือนเดิม เพราะนี่เป็นการเซ็นสัญญาระหว่างรัฐ ไม่ใช่เฉพาะตัวบุคคล โดยข้อตกลงดังกล่าวมุ่งไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในหลายภาคส่วน ทั้งด้านแรงงานและการจ้างงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการค้าข้ามพรมแดน
รวมถึงการบริหารจัดการ บำรุงรักษา และใช้งานสะพานมิตรภาพกัมพูชา-ไทย หรือในชื่อสะพานบ้านหนองเอี่ยน-สะตึงบท ซึ่งเป็นจุดตรวจการค้าที่สำคัญระหว่างสองประเทศ และยังมีการตกลงก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ที่ปรม-บ้านผักกาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ และความร่วมมือปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 57
ขณะนี้โครงการต่าง ๆ ถูกระงับไว้เนื่องจากความขัดแย้งทางพรมแดนระหว่าง กัมพูชา-ไทย ซึ่งขณะนี้ยังคงดำเนินอยู่ และหลังจากการปลด “แพทองธาร” ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าข้อตกลงต่าง ๆ อาจล่าช้า สะดุดหรือหยุดชะงัก ซึ่งส่งผลกระทบทางการค้า การลงทุน และโครงการข้ามพรมแดน
อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นคงทางการเมืองของไทย ประกอบกับความตึงเครียดบริเวณชายแดน อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานข้ามพรมแดน ขัดขวางการค้า และสร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุนที่พึ่งพาข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการต่อไปจะต้องไม่เพียงแต่ต้องมีเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังต้องมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยตามแนวชายแดน เพื่อให้รัฐบาลทั้งสองประเทศสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เครดิต tatsuthat_rattanasin





















