พ่อค้าแบตหุ่นแซ่บ ลบโพสต์หนีดราม่า หลังถูกขุดประวัติแสบตั้งแต่เด็ก
ดราม่า “พ่อค้าแบตหุ่นแซ่บ” ไวรัลโซเชียล ลบโพสต์เกลี้ยง หลังเพื่อนสมัยเรียนออกมาแฉวีรกรรมบูลลี่ ทำทัวร์ลงสนั่นโซเชียล
ในโลกโซเชียลมักจะมีการสร้างไวรัลหรือกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว และในเวลาเดียวกันหากมีข้อเท็จจริงบางอย่างถูกเปิดเผย เรื่องราวที่เคยเป็นเพียงสีสันก็อาจพลิกกลายเป็นดราม่าหนักจนเจ้าของกระแสถึงกับต้องออกมารับแรงกดดันจากสังคม เช่นเดียวกับกรณีของ “พ่อค้าแบตเตอรี่หุ่นแซ่บ” ที่เคยกลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตจากคอนเทนต์ถอดเสื้อขายของ แต่ต้องเผชิญกับกระแสดราม่าหนักหน่วง หลังเพื่อนสมัยเรียนออกมาแฉพฤติกรรมบูลลี่ตั้งแต่เด็กยันโต จนเกิดทัวร์ลงอย่างต่อเนื่อง
จากไวรัลสุดแซ่บสู่ดราม่าร้อนแรง
“พ่อค้าแบตเตอรี่หุ่นแซ่บ” เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลจากคลิปวิดีโอที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ ขณะเจ้าตัวถอดเสื้อโชว์หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มระหว่างขายแบตเตอรี่ให้ลูกค้า ภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วและทำให้เขากลายเป็นกระแสไวรัลที่สาว ๆ หลายคนพูดถึง พร้อมยกให้เป็น “พ่อค้าสุดแซ่บ” ที่สร้างสีสันให้กับวงการขายของออนไลน์
แต่ไม่นานนัก ภาพลักษณ์ที่ดูดีในโลกออนไลน์ก็ถูกสั่นคลอน เมื่อมีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนของพ่อค้าแบตเตอรี่คนดัง ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในอดีต โดยระบุว่าช่วงสมัยมัธยม เธอเคยถูกเขาบูลลี่ด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงขั้นพูดว่า
“มึงเป็นผู้หญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลกที่กูเคยเจอมา ถ้าโลกนี้เหลือผู้หญิงคนเดียวบนโลก กูก็คงไม่เอามึง”
คำพูดดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องในอดีต แต่เมื่อถูกนำมาเล่าใหม่ท่ามกลางกระแสความดังของพ่อค้าแบต กลับกลายเป็นชนวนที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาตั้งคำถามต่อพฤติกรรมและทัศนคติของเขา
แฉต่อเนื่อง! พฤติกรรมที่ไม่เปลี่ยนไป
หญิงสาวคนเดิมยังได้เล่าเสริมถึงเหตุการณ์ในช่วงที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และมีโอกาสพาลูกชายกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวที่จังหวัดหนองคาย เธอเล่าว่าบังเอิญเจอพ่อค้าแบตที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และเขายังพูดจาเชิงบูลลี่เช่นเดิม โดยถามต่อหน้าผู้คนว่า “ลูกใคร ใครเป็นพ่อเด็ก” พร้อมทำท่าทางที่เธอรู้สึกไม่เหมาะสม เหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนมองว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมในอดีตแต่อย่างใด
คำตอบที่ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
หลังจากถูกกล่าวหา พ่อค้าแบตเตอรี่ได้เข้ามาตอบกลับในโพสต์ดังกล่าว แต่แทนที่จะเป็นการขอโทษอย่างจริงใจ กลับถูกมองว่าเป็นคำตอบที่แสดงถึงความมั่นใจเกินพอดีและขาดความสำนึกผิด โดยเจ้าตัวระบุทำนองว่า “การเป็นบุคคลสาธารณะก็ย่อมต้องเผชิญกับเรื่องราวแบบนี้อยู่แล้ว”
คำตอบนี้ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนในโลกออนไลน์มากขึ้น หลายคนมองว่า หากเจ้าตัวออกมาขอโทษอย่างจริงใจตั้งแต่แรก เรื่องราวอาจไม่บานปลาย แต่เพราะคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเกินไป กลับกลายเป็นเชื้อไฟที่ทำให้ดราม่าขยายวงกว้าง
ญาติสนิทออกมาแฉซ้ำ
ไม่เพียงแค่เพื่อนสมัยเรียนเท่านั้นที่ออกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมของพ่อค้าแบต แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเองก็ออกมาโพสต์ข้อความเชิงตำหนิ โดยกล่าวหาว่าเจ้าตัวเคยบูลลี่ญาติพี่น้องด้วยกันเองเช่นกัน
ลูกพี่ลูกน้องรายดังกล่าวโพสต์ว่า
“เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า ถือกระเช้าไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นซะ แถมยังเคยบูลลี่ส่วนสูงไล่ให้ไปกินนมเยอะ ๆ ตัวเท่าลูกหมา เดี๋ยวก็ไม่ต้องโตหรอก”
ข้อความนี้ยิ่งทำให้กระแสดราม่าร้อนแรงมากขึ้น เพราะสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาพฤติกรรมบูลลี่อาจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสมัยเรียน แต่ยังคงปรากฏในช่วงโตเป็นผู้ใหญ่
กระแสสังคม: จากการชื่นชมสู่การกดดัน
ก่อนหน้านี้ พ่อค้าแบตเตอรี่หุ่นแซ่บถูกยกให้เป็นตัวอย่างของพ่อค้ารูปหล่อที่สามารถสร้างคอนเทนต์ดึงดูดผู้ชม แต่หลังจากเรื่องราวการบูลลี่ถูกเปิดเผย ภาพลักษณ์ของเขากลับถูกโจมตีอย่างหนัก หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าความหล่อหรือหุ่นดีไม่สามารถกลบพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้ และบุคคลที่เคยสร้างความทุกข์ให้ผู้อื่นด้วยคำพูดไม่ควรถูกยกย่องในฐานะฮีโร่โซเชียล
ในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก มีแฮชแท็กเกี่ยวกับดราม่านี้ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง หลายโพสต์เรียกร้องให้เขาออกมาขอโทษอย่างจริงใจ พร้อมเตือนสติให้สังคมตระหนักว่า การบูลลี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่าง หน้าตา ส่วนสูง หรือสถานะครอบครัว ล้วนทิ้งร่องรอยเจ็บปวดไว้กับผู้ถูกกระทำ
ตัดสินใจลบโพสต์เกลี้ยงเฟซบุ๊ก
ภายใต้แรงกดดันมหาศาล พ่อค้าแบตเตอรี่หุ่นแซ่บในที่สุดก็เลือกที่จะลบภาพและคลิปวิดีโอทั้งหมดที่เคยเป็นไวรัลออกจากเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นภาพถอดเสื้อขายของหรือคอนเทนต์ที่เคยทำให้เขามีชื่อเสียง แม้การลบโพสต์อาจช่วยลดกระแสในระยะสั้น แต่ก็ไม่สามารถลบความทรงจำของผู้คนที่รับรู้เหตุการณ์ไปแล้วได้
กรณีของพ่อค้าแบตหุ่นแซ่บสะท้อนให้เห็นว่า โลกออนไลน์สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับใครบางคนได้ภายในเวลาอันสั้น แต่ก็สามารถทำลายภาพลักษณ์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อพฤติกรรมในอดีตหรือปัจจุบันไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่สังคมรับรู้
สิ่งสำคัญที่ควรเรียนรู้คือ “การบูลลี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก” คำพูดที่ไม่เหมาะสมอาจสร้างบาดแผลในใจของใครบางคนไปตลอดชีวิต แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความทรงจำเหล่านี้ก็ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาได้เสมอ
สังคมออนไลน์ควรตระหนัก
โลกโซเชียลเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ทำให้คนเราถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทุกพฤติกรรม ทุกคำพูด มีโอกาสที่จะถูกบันทึกและนำมาเปิดเผยในอนาคต ดังนั้นการระมัดระวังคำพูดและการกระทำจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ
สำหรับพ่อค้าแบตหุ่นแซ่บ ดราม่านี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา หากสามารถใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้และขอโทษอย่างจริงใจ อาจช่วยเยียวยาความรู้สึกของผู้ที่เคยถูกกระทำ และอาจทำให้เขามีโอกาสกลับมาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
















