เจ๋ง ดอกจิก เคลียร์ปมร้อน! ตลก จ. ครอบครองที่ดินแทน “อลงกต”
เจ๋ง ดอกจิก ตอกกลับแรง ปมถูกโยงเป็น “ตลกอักษรย่อ จ.” ถือครองที่ดินแทนอดีตพระอลงกต มูลค่ากว่า 240 ล้าน
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมและโลกโซเชียล หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามี “ตลกชื่อดัง อักษรย่อ จ.” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดินแทน อดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ซึ่งที่ดินดังกล่าวมีมูลค่ารวมสูงกว่า 240 ล้านบาท
ข่าวนี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มโยงไปยังศิลปินตลกหลายคนที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษรย่อ “จ.” หนึ่งในนั้นคือ เจ๋ง ดอกจิก หรือชื่อจริง ศวริชน์ ซูกล่อม ศิลปินตลกอาวุโสที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน
เมื่อกระแสข่าวเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเจ้าตัว ล่าสุด “เจ๋ง ดอกจิก” จึงออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ปฏิเสธอย่างหนักแน่น และตอกกลับผู้ที่กล่าวหาอย่างดุเดือด
ข่าวลือจากคดีอลงกต: ทำไม “ตลก จ.” ถึงถูกโยง?
การกล่าวหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากคดีใหญ่ที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมไทย นั่นคือ คดีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการบริหารเงินวัดไม่โปร่งใส
ตำรวจพบว่า มีบุคคลใกล้ชิดหลายรายถือครองที่ดินแทนอดีตพระอลงกต รวมมูลค่ากว่า 240 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นถูกระบุว่าเป็น “ตลกชื่อดัง อักษรย่อ จ.”
เพียงแค่อักษรย่อ “จ.” ก็เพียงพอให้สังคมโยงไปยังบุคคลหลายคน และในบรรดารายชื่อเหล่านั้น ชื่อของเจ๋ง ดอกจิก ก็ถูกพูดถึงอย่างหนัก จนกลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์
เจ๋ง ดอกจิก เคลื่อนไหว: ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เพื่อยุติข่าวลือและปกป้องชื่อเสียงของตนเอง เจ๋ง ดอกจิก ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเนื้อหามีใจความสำคัญดังนี้
ยืนยันว่า ไม่เคยถือครองที่ดินแทนอดีตพระอลงกต
ย้ำว่าตลอดชีวิตเพิ่งเคยได้พบกับอดีตพระอลงกตหลังมีข่าวเพียง 2 ครั้ง และแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
การเดินทางไปที่วัดพระบาทน้ำพุเป็นการไปด้วยตนเอง เพื่อกราบและให้กำลังใจ ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดแอบแฝง
เจ๋ง ดอกจิก ยังตอกกลับอย่างเผ็ดร้อนว่า
“ไม่ต้องมาสงสัยกู... ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ เพิ่งได้เจอหลวงพ่ออลงกตตอนที่มีข่าวแล้ว ที่วัด 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 10 นาที ไปกราบให้กำลังใจท่าน แต่กลายเป็นว่ามีคนมาปั้นข่าวว่าไปถือครองที่ดินแทน โคตรมั่วเลยว่ะ!”
โพสต์เดือด! สวนกลับผู้ที่หากินกับข่าว
ในโพสต์เดียวกัน เจ๋ง ดอกจิก ยังระบุอีกว่า บางเพจและบางสำนักข่าว กำลังนำเรื่องราวไปบิดเบือน จนทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเขาเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวหา พร้อมวิจารณ์แรงว่า “พวกปัญญาอ่อน” ที่เชื่อข่าวโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นอกจากนี้เขายังพูดถึงบุคคลบางกลุ่มที่ “หากินกับชื่อเสียงของหลวงพ่ออลงกต” โดยอ้างโครงการต่างๆ เพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์เป็นเวลาหลายปี พร้อมทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำดุดันว่า
“ไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้น... พวกที่ไปหากินกับหลวงพ่อ นำโครงการไปแหกกินเป็นปีๆ... งไม่ต้องมาสงสัย!”
ภาพลักษณ์ที่ถูกสั่นคลอน กับความจริงที่เจ้าตัวพยายามชี้แจง
แม้เจ๋ง ดอกจิก จะออกมาโต้ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่กระแสข่าวลือก็ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่มีการแชร์และโยงเรื่องราวไปยังบุคคลต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ในแง่ภาพลักษณ์ การถูกเชื่อมโยงกับคดีเงินวัดและที่ดินมูลค่ามหาศาล ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของเขาในฐานะศิลปินตลกที่อยู่ในสายตาสังคมมานานหลายสิบปี
มุมมองทางกฎหมาย: ข่าวลือที่อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท
นักกฎหมายหลายรายชี้ว่า หากเจ๋ง ดอกจิก สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดินจริงๆ การแพร่กระจายข่าวลือดังกล่าวอาจเข้าข่าย หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งเจ้าตัวมีสิทธิที่จะดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข่าวปลอม
ทั้งนี้การที่เขาออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนผ่านโซเชียล ก็ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียงเบื้องต้น ก่อนจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
กระแสสังคม: แบ่งเป็นสองฝั่ง
เมื่อโพสต์ชี้แจงของเจ๋ง ดอกจิก ถูกเผยแพร่ออกมา กระแสสังคมก็แตกออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน
1. ฝั่งที่เชื่อเจ๋ง ดอกจิก – เห็นว่าการออกมาพูดตรงๆ เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และการที่เขาย้ำว่าเพิ่งเคยพบอดีตพระอลงกตแค่ไม่กี่นาที ยิ่งเป็นหลักฐานว่าข่าวลือดังกล่าวไร้สาระ
2. ฝั่งที่ยังตั้งข้อสงสัย – มองว่าแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ แต่ก็ยังอยากรอฟังความคืบหน้าจากการสืบสวนของตำรวจว่าบุคคลที่แท้จริงคือใคร
ความจริงที่สังคมต้องรอ: ใครคือ “ตลก จ.” ตัวจริง?
จนถึงตอนนี้ ตำรวจยังไม่ได้เปิดเผยชื่อบุคคลที่แท้จริงซึ่งถูกกล่าวหาว่าถือครองที่ดินแทนอดีตพระอลงกต มูลค่ากว่า 240 ล้านบาท ทำให้สังคมยังคงต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการ
การที่สื่อบางแห่งและโลกโซเชียลเร่งโยงไปยังบุคคลต่างๆ จึงกลายเป็นการสร้างบาดแผลโดยไม่จำเป็น และอาจทำให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริงต้องเสียหายไปด้วย
บทสรุป: เส้นบางๆ ระหว่าง “ข่าวจริง” กับ “ข่าวลือ”
กรณีของ เจ๋ง ดอกจิก คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของปัญหาในยุคโซเชียลมีเดีย ที่ข่าวลือสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนทำให้บุคคลที่อาจไม่เกี่ยวข้องต้องออกมาแก้ข่าวด้วยตัวเอง
แม้เจ้าตัวจะประกาศชัดว่า “ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ถือครองที่ดินแทน ไม่เคยเรียกเงินจากอดีตพระอลงกต” แต่กระแสที่เกิดขึ้นก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า การแชร์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบ อาจทำลายชื่อเสียงของใครบางคนได้ในพริบตา
สิ่งที่สังคมไทยต้องรอคอยต่อไป คือผลการสืบสวนจากตำรวจ ที่จะเป็นคำตอบชัดเจนว่า “ตลกอักษรย่อ จ.” คือใครกันแน่ และความจริงจะสางปมข่าวลือครั้งนี้ได้หรือไม่



















