ศาลรับฟ้อง! “แพทองธาร-พินทอง ทา-พจมาน” คดีแจ้งความเท็จ
ศาลรับคำร้องอุทธรณ์ นายศรายุทธ รัตนพันธ์ ฟ้องแพทองธาร-พินทองทา-พจมาน คดีแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานศาล
เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในวงการข่าวการเมืองและสังคม เมื่อศาลอาญา รับคำร้องอุทธรณ์ของนายศรายุทธ รัตนพันธ์ ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา ของทั้งสอง ในข้อหาการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานและให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
การพิจารณาคดีดังกล่าว มีความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับ กระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานศาล ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายไทย
เบื้องหลังคดี
เหตุการณ์เริ่มต้นมาตั้งแต่ วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เมื่อ นายศรายุทธ รัตนพันธ์ ได้ยื่นฟ้อง น.ส.แพทองธาร, น.ส.พินทองทา และคุณหญิงพจมาน ต่อศาลอาญาใน คดีหมายเลขดำ อ1622/2568 และหมายเลขแดง อ1601/2568 โดยกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสาม แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานศาล และให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ
เป้าหมายของนายศรายุทธในการฟ้องคดีครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า กรณีดังกล่าวเกี่ยวพันกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานศาลแพ่ง และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หากให้ศาลแพ่งเป็นผู้พิจารณาคดีเพียงฝ่ายเดียว
ดังนั้น นายศรายุทธจึงใช้สิทธิ์ตาม พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 19/1 เพื่อให้ศาลอาญาเป็นศาลกลางในการพิจารณา เพื่อความยุติธรรมและความโปร่งใส
คำสั่งของศาลชั้นต้น
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ยกฟ้องและงดไต่สวนโจทก์ ทำให้นายศรายุทธตัดสินใจ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ โดยหวังให้ศาลระดับสูงพิจารณาใหม่
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ได้แจ้งให้นายศรายุทธทราบว่า คำร้องอุทธรณ์ได้รับการรับไว้พิจารณาแล้ว และได้ส่งสำเนาคำร้องไปยังจำเลยทั้งสามเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเช่นกัน
เนื้อหาคำฟ้อง
ในคำฟ้องของนายศรายุทธ ระบุว่า จำเลยทั้งสามต้องรับโทษทางอาญา เนื่องจากได้ แจ้งความเท็จต่อผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาล ทำให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการใน คดีแพ่งหมายเลขดำ พ.881/2566
คำฟ้องยังระบุถึงความสำคัญของการพิจารณาคดีนี้โดยศาลอาญา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานศาลแพ่ง หากปล่อยให้ศาลแพ่งพิจารณาเพียงฝ่ายเดียว อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อความยุติธรรม
นอกจากนี้ นายศรายุทธได้ยืนยันว่า การฟ้องคดีนี้ไม่ได้มีเจตนาล่วงละเมิดสิทธิหรือทำให้ผู้ใดเสียหาย แต่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายในการ เรียกร้องความยุติธรรมและความโปร่งใส
ความสัมพันธ์และข้อพิพาทกับตระกูลชินวัตร
สำหรับนายศรายุทธ รัตนพันธ์และครอบครัว มีข้อพิพาทและคดีความกับบุคคลใน ตระกูลชินวัตร มานานหลายปี โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset
SC Asset ถือเป็นบริษัทใหญ่ในประเทศไทย โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหารเป็นบุคคลในตระกูลชินวัตร ทำให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างคดีส่วนตัว ข้อพิพาททางธุรกิจ และคดีแจ้งความเท็จ
ความซับซ้อนของกรณีนี้อยู่ที่การ ตัดสินใจฟ้องคดีอาญาแทนศาลแพ่ง ซึ่งสะท้อนถึงการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสและความถูกต้องของเอกสารราชการ
บทวิเคราะห์: ทำไมคดีนี้จึงสำคัญ
คดีนี้ถือเป็น กรณีศึกษาที่สำคัญของระบบกฎหมายไทย เนื่องจาก:
1. เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ศาลและการปฏิบัติหน้าที่
คดีนี้ตรวจสอบถึงการบันทึกข้อมูลที่อาจไม่ตรงความจริงในเอกสารราชการ
สะท้อนความสำคัญของความถูกต้องและความโปร่งใสในระบบยุติธรรม
2. เชื่อมโยงกับข้อพิพาททางธุรกิจและครอบครัว
การฟ้องร้องระหว่างนายศรายุทธและตระกูลชินวัตร แสดงให้เห็นว่าข้อพิพาทส่วนตัวสามารถลุกลามไปยัง กระบวนการยุติธรรมและการตรวจสอบทางกฎหมาย
3. การใช้สิทธิ์ตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
นายศรายุทธใช้มาตรา 19/1 ของพระธรรมนูญศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลอาญาเป็นศาลกลาง
เป็นตัวอย่างของการใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อให้ได้ความยุติธรรม
4. ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นสังคม
การที่ศาลอุทธรณ์รับคำร้องอุทธรณ์ เป็นสัญญาณว่า กระบวนการยุติธรรมสามารถตรวจสอบได้และเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายเรียกร้องความยุติธรรม
สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่า แม้เป็นบุคคลมีชื่อเสียงหรือมีอำนาจทางการเมือง ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
จากคำสั่งของศาลอุทธรณ์ การพิจารณาคดีในขั้นต่อไปจะเป็น การพิจารณาความถูกต้องของคำแจ้งความและเอกสารราชการ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นการ เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานศาลและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่า คดีนี้อาจนำไปสู่:
การปรับปรุงมาตรฐานการแจ้งความและการบันทึกข้อมูลในศาล
การตรวจสอบความโปร่งใสของเอกสารราชการในคดีแพ่งและคดีอาญา
การสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการใช้สิทธิ์ของประชาชนในการฟ้องร้องเพื่อความยุติธรรม
นอกจากนี้ คดีนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญของการแยกบทบาทระหว่างศาลแพ่งและศาลอาญา เพื่อให้เกิดการตรวจสอบที่เป็นกลางและยุติธรรม
สรุป
กรณี ศาลรับคำร้องอุทธรณ์ของนายศรายุทธ รัตนพันธ์ ฟ้อง น.ส.แพทองธาร พินทองทา และคุณหญิงพจมาน ในคดีแจ้งความเท็จ เป็นคดีที่ทั้ง ซับซ้อนและละเอียดอ่อน
เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ศาลและการปฏิบัติหน้าที่
มีความเชื่อมโยงกับข้อพิพาททางธุรกิจและครอบครัว
แสดงให้เห็นถึงการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
มีผลต่อความเชื่อมั่นของสังคมต่อกระบวนการยุติธรรม
คดีนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของบุคคลหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง แต่เป็น กรณีศึกษาเชิงสังคมและกฎหมาย ที่ประชาชนและนักกฎหมายควรติดตามอย่างใกล้ชิด
ในอนาคต การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในขั้นต่อไป จะเป็นบททดสอบความโปร่งใสและความยุติธรรมของกระบวนการศาลไทย และอาจกลายเป็น คดีสำคัญที่สังคมไทยให้ความสนใจ อีกหลายปี
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
ในหลวงพระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” ช่วยชาวหาดใหญ่ ด้าน ศบภ.ทภ.4 ระดมกำลังพลช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ต่อเนื่อง
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"
กู้ภัยเมืองคอน ลุยน้ำท่วมช่วยหญิงวัย 62 หนีน้ำท่วมติดต้นมะพร้าวนาน 6 ชม
“ทหารไม่รอช้า!เร่งเข้าช่วยประชาชนย่านตาขาว จ.ตรัง ท่ามกลางน้ำท่วมวิกฤต
กู้ภัยเมืองคอน ลุยน้ำท่วมช่วยหนูน้อย 9 เดือน อ.หาดใหญ่
วัดสนามเหนือ วัดสวย ในจังหวัดนนทบุรี
กัมพูชาลุยโครงการคลองฟูนันเตโช แม้จีนลดสัดส่วนการลงทุน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
ถูกปรับ 1.5 แสน เพราะใช้บ้านรับ-ส่งลูกชิ้น
ถอดรหัส "จีน 3 สี"
เขมรซ็อก จีนเทลดสัดส่วนหุ้น คลองฟูนันเตโช เหลือ 49% กู้เงินลุยเอง เกือบ 2 หมื่นล้าน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
ถ้าเปรียบ ร่างกายมนุษย์เป็นคอมพิวเตอร์ การเปรียบเทียบระบบอันซับซ้อน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
“ทหารไม่รอช้า!เร่งเข้าช่วยประชาชนย่านตาขาว จ.ตรัง ท่ามกลางน้ำท่วมวิกฤต
ในหลวงพระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” ช่วยชาวหาดใหญ่ ด้าน ศบภ.ทภ.4 ระดมกำลังพลช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ต่อเนื่อง
