เรือบรรทุกเครื่องบินจักรีนฤเบศร

เรือบรรทุกเครื่องบินเบาประจำการในกองทัพเรือไทย เรือลำนี้ได้รับการตั้งชื่อเป็น เรือหลวงจักรีนฤเบศร(CVH-911) ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกและลำเดียวของประเทศไทย  และเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่เล็กที่สุดในโลกที่ยังใช้งานอยู่โดยการให้บริการของเรือบรรทุกเครื่องบิน "จักรีนฤเบศร" ทำให้ไทยเป็นประเทศที่สองในเอเชียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีเรือบรรทุกเครื่องบินรองมาจากประเทศอินเดีย

ขึ้นระวางประจำการเมื่อ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2540 ได้ใช้งานปฏิบัติภารกิจด้านยุทธการและช่วยเหลือภัยพิบัติตลอดน่านน้ำไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน

โดยเรือบรรทุกเครื่องบิน "จักรี นฤเบศร์" มีความยาวรวม 182.6 เมตร กว้าง 22.5 เมตร ระวางขับน้ำ 6.25 เมตร ระวางมาตรฐาน 7,000 ตัน และระวางบรรทุกเต็มพิกัด 11,485 ตัน

โรงไฟฟ้าภายในเรือจะเป็นการผสมผสานระหว่างน้ำมันดีเซลและเชื้อเพลิง โดยมีกังหันก๊าซ LM-2500 สองเครื่อง กำลัง 44,250 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล 2 เครื่อง กำลัง 11,780 แรงม้า สองเพลาและสองใบพัดความเร็วสูงสุด 26 นอต และ แล่นได้ในระยะ 10,000 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็ว 12 นอต

มีอาวุธป้องกันภัยทางอากาศของเรือได้แก่ เครื่องยิงขีปนาวุธนำวิถีจากเรือสู่อากาศ "Sea Sparrow" จำนวน 8 เครื่องและระบบป้องกันระยะประชิด "Phalanx" 4 ระบบ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะติดตั้งระบบป้องกันระยะประชิด "Sadral" อีกจำนวน 3 ชุด

ระบบบัญชาการรบใช้คอมพิวเตอร์ UYK-20 เรดาร์อากาศสู่อากาศที่นำมาใช้ คือ SPS-52C ที่มีถึง 3 พิกัด

ส่วนเรดาร์แบบทะเลสู่ทะเลคือ SPS-64 และเรดาร์นำทางคือ Hughes 1105 มีเครื่องยิงจรวดติดขัด MK-36 4 เครื่องและระบบล่อลาก SLQ-32 จำนวน 1 เครื่องบนตัวเรือดาดฟ้าบินยาว 174.6 เมตร กว้าง 27.5 เมตร

ส่วนหน้าเป็นทางวิ่งแบบสกีจัมป์ที่หัน 12 องศา ดาดฟ้าสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ได้ 5 ลำเพื่อปฏิบัติการพร้อมกัน

มีลิฟต์หน้าจำนวน 1 ตัว และท้ายเรือ 1 ตัว ลิฟต์แต่ละตัวสามารถรับน้ำหนักได้ 20 ตัน และที่สำคัญ ความยาวรวมของโรงเก็บเครื่องบินคือ 100 เมตร

โรงเก็บเครื่องบิน แบ่งได้ออกเป็นสองส่วนด้วยม่านไฟตรงกลาง ซึ่งสามารถเก็บเฮลิคอปเตอร์ "Sea King" ได้ 15 ลำหรือเครื่องบินขับไล่ขึ้นลงแนวดิ่ง AV-8S "Harrier II" จำนวน12 ลำโดยลิฟต์ที่เชื่อมต่อกับช่องบรรจุกระสุนแบบออฟไลน์ที่ออกมาแบบพิเศษเพื่อจ่ายกระสุนให้กับเครื่องบินไปในตัวและเครื่องบินบรรทุกสำหรับมาตรฐานของเรือ ก็คือสามารถรองรับ เครื่องบินขับไล่ขึ้นและลงจอดแนวดิ่ง AV-8S "Harrier II" ได้ถึง12 ลำหรือเฮลิคอปเตอร์ "Sea King" จำนวน 14 ลำ

การจัดตั้งลูกเรือคือ 455 คนและบุคลากรด้านการบิน 146 คน และจากภาพด้านบน คือภาพเปรียบเทียบรพหว่าง เรือบรรทุกเครื่องบินจักรีนฤเบศรของไทยที่มีระวางขับน้ำ 7,000 ตัน และด้านล่างของภาพคือเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Ford ของอเมริกาซึ่งมีระวางขับน้ำ 110,000 ตันที่ขับคู่กันไป...

เรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือธงและเรือบรรทุกอากาศยานลำแรกและลำเดียวของราชนาวีไทย เป็นเรือที่ต่อและนำแบบมาจากเรือ ปรินซีเปเดอัสตูเรียส (Principe de Asturias) ของกองทัพเรือสเปน โดยปรับปรุงระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุมการบิน ระบบอาวุธ และลดระวางขับน้ำลงเหลือสองในสาม ซึ่งเรือปรินซิเปเดอัสตูเรียส จะมีระวางขับน้ำเต็มที่ 16,700 ตัน ในขณะที่เรือหลวงจักรีนฤเบศรมีระวางขับน้ำเต็มที่ 11,544 ตัน