สตาร์บัคส์ โพสต์ประกาศห้ามนำ "อุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่" เข้าร้าน
เมื่อไม่นานมานี้ สตาร์บัคส์ได้บังคับใช้นโยบายใหม่ในเกาหลีใต้ โดยจำกัดอุปกรณ์ที่สามารถนำเข้ามาในร้าน โดยมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสำนักงานส่วนตัว นับจากนี้เป็นต้นไป ลูกค้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำอุปกรณ์สำนักงานขนาดใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ สายพ่วง หรือฉากกั้นสำนักงานเข้ามาในร้านอีกต่อไป
สำนักข่าว Business Insider รายงานว่า นโยบายนี้ถูกโพสต์ในสตาร์บัคส์หลายสาขาในเกาหลีใต้ โดยระบุอย่างชัดเจนว่าห้ามนำสิ่งของดังกล่าวเข้าร้าน ประกาศนี้ยังเตือนลูกค้าให้นำสัมภาระส่วนตัวติดตัวไปด้วยหากจำเป็นต้องลุกออกจากที่นั่งชั่วคราว และพยายามจัดโต๊ะขนาดใหญ่ให้ว่างสำหรับลูกค้าท่านอื่น
โฆษกของสตาร์บัคส์กล่าวว่า เป้าหมายของมาตรการนี้คือการสร้าง "ประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและสะดวกสบาย" ให้กับลูกค้าทุกคนในร้าน ถึงแม้ว่าจะยังคงอนุญาตให้นำแล็ปท็อปและอุปกรณ์ส่วนตัวขนาดเล็กเข้ามาได้ แต่อุปกรณ์ขนาดใหญ่จะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เนื่องจากกินพื้นที่มากเกินไปและอาจกีดขวางการนั่งร่วมโต๊ะ และยังเน้นย้ำว่ากฎใหม่นี้ไม่ได้กำหนดข้อจำกัดใดๆ เกี่ยวกับระยะเวลาที่ลูกค้าสามารถอยู่ในร้านได้
การบังคับใช้นโยบายนี้มีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับวัฒนธรรม "cagongjok" (การศึกษาร้านกาแฟ) อันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีใต้ ภาพถ่ายล่าสุดที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นลูกค้าติดตั้งฉากกั้นแบบพับได้ในร้านสตาร์บัคส์ ซึ่งสร้างพื้นที่ให้คล้ายกับพื้นที่ทำงานส่วนตัว และทำให้ที่นั่งที่อยู่ติดกันใช้งานยาก พฤติกรรมเช่นนี้ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด และเน้นย้ำถึงความพยายามของสตาร์บัคส์ในการสร้างสมดุลระหว่างพฤติกรรมของลูกค้ากับการใช้พื้นที่สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสตาร์บัคส์ทั่วโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน โดยมีสาขามากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในสิ้นปี 2567 คาดการณ์ว่าเกาหลีใต้จะมีจำนวนสาขาแซงหน้าญี่ปุ่น และกลายเป็นประเทศที่มีสาขาสตาร์บัคส์มากที่สุดในเอเชีย





