มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย จากการปะทะระหว่าง นิกายในซูไวดาของซีเรีย
มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 15 ราย และ บาดเจ็บอีกหลายสิบราย ในเมืองสไวดา ซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวดรูซอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ในประเทศซีเรีย จากการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธ ชาวดรูซและชนเผ่าเบดูอินซุนนี
พยานกล่าวว่า "ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจาก เกิดการลักพาตัวหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการลักพาตัวพ่อค้าชาวดรูซ เมื่อวันศุกร์ที่้ผ่านมา [ตามเวลาท้องถิ่น] บนทางหลวงที่เชื่อมระหว่าง กรุงดามัสกัสกับสไวดา"
ซึ่งต่างจากเหตุการณ์ปะทะกัน ที่คล้ายคลึงกันเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งนักรบชาวซุนนีปะทะกับชาวดรูซติดอาวุธ ในเมืองจารามานา ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงดามัสกัส และ ต่อมาได้ลุกลามไปยังอีกเขตหนึ่งใกล้เมืองหลวง นี่เป็นครั้งแรกที่การสู้รบปะทุขึ้นภายในเมืองสไวดา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด ที่มีชาวดรูซอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่
นักวิจัยชาวดรูซ "รายัน มารูฟ" ประจำเมืองสไวดา กล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่การสู้รบ ระหว่างนิกายปะทุขึ้น ภายในเมืองสไวดา วัฏจักรแห่งความรุนแรงนี้ ได้ปะทุขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว" และ "หากยังไม่ยุติลง เราก็กำลังมุ่งหน้าสู่การนองเลือด"
การปะทะกันระหว่าง นักรบชนเผ่าเบดูอินและกองกำลังติดอาวุธชาวดรูซ มีศูนย์กลางอยู่ที่ย่านมักวาส ทางตะวันออกของเมืองสไวดา ซึ่งเป็นชุมชนชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ และ ถูกล้อมโดยกลุ่มดรูซติดอาวุธ และ ถูกยึดครองในภายหลัง
ชาวบ้านกล่าวว่า "ชาวเผ่าเบดูอินติดอาวุธ ยังได้เปิดฉากโจมตีหมู่บ้านชาวดรูซ ทางชานเมืองทางตะวันตกและทางเหนือของเมืองด้วย"
แพทย์กล่าวว่า "มีศพอย่างน้อย 15 ศพ ถูกนำส่งไปยังห้องเก็บศพ ที่โรงพยาบาลรัฐ ในเมืองสไวดา" และ "มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50 คน โดยบางส่วนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ไปยังเมืองเดราแล้ว"
ความรุนแรงครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดระหว่างนิกายครั้งล่าสุดในซีเรีย ซึ่งความหวาดกลัวในหมู่ชนกลุ่มน้อยเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่กลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่มอิสลามิสต์ โค่นล้มประธานาธิบดี "บาชาร์ อัล อัสซาด" ในเดือนธันวาคม 2024 และ จัดตั้งรัฐบาลและกองกำลังรักษาความปลอดภัย ของตนเองขึ้นมาแทนที่...
ความกังวลดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการสังหารชาวอลาวีหลายร้อยคน ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการตอบโต้การโจมตีก่อนหน้านี้ ของกลุ่มผู้ภักดีต่อ "บาชาร์ อัล อัสซาด"






