ด่วน! ศาลสั่งจำคุก “สิระ เจนจาคะ” ไม่รอลงอาญา ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที
สิ้นเสียงคนดังการเมือง! “สิระ เจนจาคะ” อดีต ส.ส. พลังประชารัฐ ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุกทันที ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาท-บุกรุก รพ.สนาม
วันที่ 18 มิถุนายน 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อศาลแขวงดอนเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองชื่อดังอย่าง “นายสิระ เจนจาคะ” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกฟ้องในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และบุกรุกพื้นที่ของโรงพยาบาลสนามในช่วงวิกฤตโควิด-19 เมื่อปี 2564
คดีนี้มีที่มาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ซึ่งในขณะนั้น ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเร่งจัดเตรียมพื้นที่สำหรับผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน หนึ่งในนั้นคือโรงพยาบาลสนามที่ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในย่านหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในวันนั้นได้กลายเป็นชนวนให้เกิดคดีความทางกฎหมาย เมื่อ “นายสิระ เจนจาคะ” พร้อมกลุ่มคนอีกประมาณ 4-5 คน ได้เดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้างโรงพยาบาลสนามโดยไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งยังมีการแสดงพฤติกรรมลักษณะคุกคาม พูดจาในลักษณะพาดพิงใส่ร้ายต่อหน้าคนจำนวนมาก และเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะหมิ่นประมาทอย่างชัดเจน
การดำเนินคดีและคำพิพากษาในชั้นศาล
บริษัท โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จำกัด และ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา จึงตัดสินใจดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยยื่นฟ้องนายสิระในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และข้อหาบุกรุกสถานที่โดยไม่มีอำนาจ ซึ่งถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียด และมีคำพิพากษาออกมาว่า จำเลยมีความผิดจริงในหลายกรรมต่างกัน โดยพิพากษาจำคุก 5 กระทงในข้อหาหมิ่นประมาท กระทงละ 2 เดือน รวมเป็น 10 เดือน และเพิ่มโทษอีก 6 เดือนในข้อหาบุกรุกสถานที่โดยไม่มีอำนาจ รวมเป็นโทษจำคุกทั้งสิ้น 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
หลังคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกมา นายสิระได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยยื่นฎีกา และได้รับการประกันตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีในศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกา: จุดจบของกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนให้จำคุก นายสิระ เจนจาคะ เป็นระยะเวลา 6 เดือน 20 วัน โดย ไม่รอลงอาญา ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาคดีในทุกชั้นศาล
หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายสิระเข้าเรือนจำทันที เพื่อรับโทษตามคำสั่งของศาล โดยไม่มีโอกาสกลับบ้านหรือเตรียมตัวล่วงหน้า สร้างความตกตะลึงให้กับสื่อมวลชนและผู้ที่มาให้กำลังใจ ณ ศาลแขวงดอนเมืองในวันนั้น
บทเรียนสำคัญในสังคม: กฎหมายอยู่เหนือบุคคล
กรณีนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็งและเที่ยงตรง แต่ยังเป็นบทเรียนที่สำคัญแก่สังคมไทย โดยเฉพาะในเรื่อง “การใช้อำนาจ” และ “การเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น” แม้ว่าบุคคลนั้นจะมีสถานะเป็นอดีต ส.ส. หรือบุคคลมีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองก็ตาม หากการกระทำละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ย่อมต้องรับผลที่ตามมาอย่างไม่ลำเอียง
การกระทำของนายสิระที่บุกรุกพื้นที่ของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุมในช่วงสถานการณ์พิเศษ อีกทั้งยังกล่าวหาด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อบุคคลและองค์กรผ่านสื่อ ถือเป็นการใช้ “พื้นที่สาธารณะ” เพื่อโจมตี “พื้นที่งานสาธารณสุข” อย่างไม่เหมาะสม
การตอบสนองของสังคมและบทบาทของสื่อ
หลังจากมีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมา ข่าวนี้กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์ มีการแชร์กันอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียล โดยส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นคำพิพากษาที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของจำเลย หลายคนยกให้เป็น “จุดเปลี่ยน” ที่ตอกย้ำว่าความยุติธรรมยังคงมีอยู่ในประเทศไทย และการกระทำใดที่เป็นภัยต่อสังคมย่อมต้องถูกตรวจสอบและรับผิด
ขณะเดียวกัน บางส่วนของสังคมก็ตั้งคำถามต่อแนวทางปฏิบัติของนักการเมืองหลายคนที่มักใช้ความเป็นบุคคลสาธารณะเพื่อเข้าแทรกแซงงานของภาครัฐหรือหน่วยงานสาธารณสุขในยามคับขัน
จากอดีตนักการเมืองชื่อดัง สู่ชีวิตในเรือนจำ
สิระ เจนจาคะ เคยเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีบทบาทสูงในสภาผู้แทนราษฎร มีชื่อเสียงจากการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาและการพูดจาโผงผาง แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลับทำให้เขาต้องเผชิญกับการจำคุกจริง และเป็นหนึ่งในนักการเมืองไม่กี่คนที่ถูกจำคุกจากคดีหมิ่นประมาทและบุกรุก
การสิ้นสุดอิสรภาพในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ และบุคคลที่มีบทบาทในสังคมว่า “ชื่อเสียงไม่ได้ปกป้องคุณจากความผิด แต่การเคารพกฎหมายจะปกป้องคุณจากชื่อเสีย”












