โป๊ะหรือเปล่า? ชาวเน็ตตั้งคำถาม คลิปสถานีอวกาศจีนวางแก้วน้ำได้ไม่ลอย
นักสืบโซเชียลตั้งข้อสงสัย “คลิปแก้วน้ำในสถานีอวกาศจีนไม่ลอย” จุดชนวนทฤษฎีสมคบคิด หรือแค่ไม่เข้าใจฟิสิกส์?
เมื่อความไม่รู้ทางวิทยาศาสตร์ ผนวกกับความคลางแคลงใจในโลกออนไลน์ กลายเป็นเชื้อเพลิงที่จุดประกายให้ “ทฤษฎีสมคบคิด” ลุกโชนอีกครั้งในวงการอวกาศ
ไม่กี่วันที่ผ่านมา โลกโซเชียลโดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจข่าวด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอจากสถานีอวกาศ "เทียนกง" ของจีนอย่างดุเดือด เมื่อมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า “ทำไมแก้วน้ำถึงสามารถตั้งนิ่งอยู่บนโต๊ะได้ ทั้งที่ควรอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง?”
จุดเริ่มต้นของดราม่า
คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านโครงการ “ห้องเรียนเทียนกง” (Tiangong Classroom) ซึ่งเป็นรายการที่จัดขึ้นโดยนักบินอวกาศจีน เพื่อถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์สู่นักเรียนบนโลก ผ่านการทดลองต่างๆ ที่ทำกันจริงในสถานีอวกาศ
ในตอนหนึ่งของรายการ มีฉากที่แสดงให้เห็น แก้วน้ำใสใบหนึ่งถูกวางไว้บนโต๊ะ โดยไม่ลอยขึ้นหรือล้มลง ซึ่งขัดกับภาพจำของผู้ชมส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยกับ “น้ำที่ลอยเป็นก้อน” หรือวัตถุที่ลอยไปมาในสภาพไร้น้ำหนักตามคลิปที่เคยเห็นจาก NASA หรือ ESA
นั่นเองจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของทฤษฎีสมคบคิดว่า “นี่อาจจะไม่ใช่การถ่ายทำในอวกาศจริงๆ แต่เป็นเพียงฉากจัดในสตูดิโอบนโลกเท่านั้น!”
ทฤษฎีสมคบคิดเริ่มแพร่กระจาย
บรรดาผู้ใช้งานโซเชียลบางรายโดยเฉพาะใน X (Twitter) และ TikTok ต่างตั้งคำถามว่า หากสถานีอวกาศจีนลอยอยู่เหนือโลก แรงโน้มถ่วงจะต้องไม่มีผลต่อวัตถุใดๆ แล้วทำไม “น้ำถึงไม่ลอยออกจากแก้ว”?
บางคนถึงขั้นบอกว่า “นี่มันการจัดฉากชัดๆ!” พร้อมยกตัวอย่างคลิปจากสถานีอวกาศสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นว่าน้ำจะต้องลอยเป็นหยดกลม และจะไม่สามารถอยู่ในภาชนะเปิดได้เลย หากไม่มีฝาปิดหรือเครื่องมือควบคุม
และเมื่อเครื่องมือ AI อย่าง Grok AI ของ Elon Musk ถูกถามเกี่ยวกับการดื่มน้ำในสถานีอวกาศ ก็ตอบว่า “น้ำจะลอยออกจากแก้วทันที” ซึ่งกลายเป็นเชื้อไฟอีกดอกที่สนับสนุนความเชื่อของเหล่าผู้คลางแคลงใจว่า “แก้วน้ำที่ไม่ลอย = ปลอม”
แล้วความจริงคืออะไร?
แม้ทฤษฎีสมคบคิดจะฟังดูน่าสงสัย แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถอธิบายเหตุการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน
จอร์แดน บิมม์ (Jordan Bimm) นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์อวกาศจากมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าวอธิบายว่า การที่น้ำยังสามารถคงอยู่ในแก้วในอวกาศได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด หากเข้าใจหลักการของ แรงตึงผิว (Surface tension)
โมเลกุลของน้ำมีแนวโน้มจะ ยึดเกาะกันเอง และยึดเกาะกับภาชนะที่สัมผัส ดังนั้น แม้จะอยู่ในภาวะไร้แรงโน้มถ่วง น้ำก็สามารถ “เกาะ” อยู่ภายในแก้วได้ โดยไม่ไหลออกมาหรือแตกตัวลอยกลางอากาศ ตราบเท่าที่ไม่มีแรงจากภายนอกมากระทำ
นักบินอวกาศจึงสามารถใช้แก้ว หรือภาชนะต่างๆ เพื่อแสดงปรากฏการณ์นี้ได้ในการทดลอง ซึ่งเป็นเพียง “การสาธิต” ไม่ใช่การใช้งานดื่มน้ำในชีวิตประจำวันจริงๆ
นักบินอวกาศจาก ESA ก็เคยสาธิตไว้เช่นกัน
ซาแมนธา คริสโตโฟเร็ตติ (Samantha Cristoforetti) นักบินอวกาศหญิงจากองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ก็เคยเผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามนำน้ำออกจากภาชนะเปิดในอวกาศ ซึ่งพิสูจน์ว่า “แทบจะเป็นไปไม่ได้” เพราะน้ำไม่ไหลออกจากแก้วเลย
ในวิดีโอดังกล่าว เธอใช้ถุงบีบน้ำออกมาให้ลอยกลางอากาศ และใช้อุปกรณ์ดูดน้ำเข้าปากผ่านหลอด ซึ่งเป็นวิธีดื่มน้ำที่ปลอดภัยที่สุดในอวกาศ
นั่นคือเหตุผลที่ NASA, ESA และจีนเอง ต่างใช้ถุงน้ำดื่มพิเศษ ไม่ใช่แก้วเปิด เพราะถึงแม้น้ำจะอยู่ในแก้วได้ในแง่ของฟิสิกส์ แต่การควบคุมไม่ให้มันกระเด็นหรือหลุดออกจากภาชนะเมื่อเคลื่อนไหว ก็ยังคงเป็นความเสี่ยง
รายการ “ห้องเรียนเทียนกง” ไม่ได้ปิดบังอะไร
ประเด็นที่นักทฤษฎีสมคบคิดมองข้ามไป คือ คลิปแก้วน้ำที่เป็นต้นเรื่องมาจากรายการ “ห้องเรียนเทียนกง” ที่ออกแบบมาเพื่อสาธิตการทดลองวิทยาศาสตร์แก่เด็กๆ บนโลก
ในคลิปฉบับเต็ม มีการอธิบายว่า แก้วน้ำที่วางอยู่นั้นมี การใช้เทปตีนตุ๊กแก (Velcro) ติดไว้กับโต๊ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เคลื่อนที่ขณะทำการทดลอง และการสาธิตครั้งนั้นคือการโชว์ “แรงลอยตัว” หรือ Buoyancy ซึ่งเป็นการศึกษาอีกมิติหนึ่งในสภาพไร้น้ำหนัก
การตัดคลิปมาเพียงบางส่วนโดยไม่ใส่คำอธิบายจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นการ “สรุปเร็วเกินไป” โดยไม่มีหลักฐานที่ครบถ้วน
ฟิสิกส์ไม่ใช่ฟิคชั่น
นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้ให้ความเห็นไว้ในโลกออนไลน์อย่างน่าคิดว่า
“นั่นไม่ใช่การจัดฉาก นั่นคือฟิสิกส์… ถ้าคุณเข้าใจแรงตึงผิว คุณจะรู้ว่าน้ำสามารถอยู่ในแก้วได้ แม้จะไม่มีแรงโน้มถ่วง”
หลายคนในโซเชียลที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่างพยายามอธิบายอย่างใจเย็นว่า “สิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่คิด หากไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง”
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า แม้โลกจะก้าวหน้าเพียงใด แต่การ ขาดพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ หรือการบริโภคข้อมูลแบบขาดการตรวจสอบ ก็ยังนำพาให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดได้ง่ายเหมือนเช่นในอดีต
บางทฤษฎีที่ดูเหมือนจะสร้างความสนุกสนานให้กับผู้คน อาจสร้างความเสียหายและความไม่ไว้วางใจต่อองค์กรวิทยาศาสตร์ระดับชาติหรือระดับโลกได้
การตั้งคำถามไม่ใช่เรื่องผิด แต่การตั้งคำถามโดยไม่หาคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ หรือนำคำตอบผิดๆ มาแชร์ต่อ ก็อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดได้อย่างร้ายแรง
กรณี “แก้วน้ำไม่ลอยในสถานีอวกาศจีน” จึงไม่ใช่การเปิดโปงแผนลวงโลกแต่อย่างใด แต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความเข้าใจผิดทางวิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นกระแสไวรัลในยุคข้อมูลล้นมือ
โลกอวกาศยังคงเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ และยิ่งเราเรียนรู้มากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งเข้าใจว่า “ธรรมชาติ” ไม่ได้ซับซ้อนเกินความเข้าใจของเรา เพียงแต่ต้องเปิดใจเรียนรู้และฟังเสียงของวิทยาศาสตร์มากกว่าความเชื่อ
หากคุณสนใจในฟิสิกส์ อวกาศ หรือวิทยาศาสตร์เบื้องหลังชีวิตบนสถานีอวกาศ อย่าลืมติดตามโครงการ “ห้องเรียนเทียนกง” และติดตามองค์ความรู้จาก NASA, ESA หรือ CNSA ที่เผยแพร่ข้อมูลวิชาการไว้มากมายบนโลกออนไลน์















