“กัน จอมพลัง” โดนแบนตลอดชีวิต! กัมพูชาขึ้นบัญชีดำ ไม่ให้เหยียบแผ่นดินอีกต่อไป
แม้จะถูกห้ามเข้าสู่กัมพูชา แต่ “กัน จอมพลัง” ยังมุ่งมั่นพัฒนาถนนยุทธศาสตร์ชายแดน เพื่อชาติ เพื่อประชาชน!
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณตภณ ทองธีรภาพ กลับมาอยู่ในกระแสความสนใจของสังคมอีกครั้ง เมื่อเขาได้รับแจ้งจากทางกัมพูชาอย่างเป็นทางการว่าได้ถูกขึ้นบัญชีดำ “ห้ามเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาตลอดชีวิต” ซึ่งนับเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตกใจและเศร้าใจแก่เจ้าตัวอย่างมาก โดยเจ้าตัวถึงกับโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “เมื่อคืนผมนอนร้องไห้ทั้งคืน” พร้อมเปิดเผยความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวดที่ไม่สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเจ็บปวดในใจ “กัน จอมพลัง” ไม่ปล่อยให้ความเศร้าเหล่านั้นมาหยุดยั้งภารกิจของเขา ในทางกลับกัน เขายังคงเดินหน้าช่วยเหลือประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก โดยล่าสุดเขาได้ลงพื้นที่พัฒนาถนนเส้นสำคัญที่มีบทบาทในเชิงยุทธศาสตร์บริเวณแนวชายแดนไทย เพื่อสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่และบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล
ถนนที่ไม่ใช่แค่ถนน แต่คือ “เส้นชีวิต” ของทหารชายแดน
กัน จอมพลัง ได้เล่าถึงการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนคนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์จริงบริเวณแนวชายแดนที่ประชาชนทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อน เจ้าหน้าที่เล่าว่า หากวันใดเกิดสถานการณ์ไม่สงบ หรือมีภัยคุกคามจากภายนอก หน่วยทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนจะต้องเป็นแนวหน้าในการ “ยัน” ข้าศึกให้นานที่สุด เพื่อรอการสนับสนุนจากกองกำลังหลักเข้ามาช่วยเหลือ
แต่ความยากลำบากก็คือเส้นทางในการลำเลียงอาวุธ อาหาร หรือการเสริมกำลังนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค ถนนเดิมๆ ที่ใช้งานอยู่นั้นชำรุด ทรุดโทรม มีทั้งดินหล่ม ไม้ล้มขวางทาง ทางลาดชันและเปลี่ยว รถธรรมดาไม่สามารถผ่านได้ บางคันถึงกับตกข้างทางหรือติดหล่ม ทำให้การขนส่งยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะไปถึงฐานทัพ
“กัน จอมพลัง” ฟังเรื่องนี้แล้วถึงกับสะเทือนใจ เพราะนั่นไม่ใช่แค่การเดินทางที่ลำบาก แต่คือความเสี่ยงต่อชีวิตของทหารไทยที่ต้องปกป้องผืนแผ่นดินและประชาชนโดยไร้เครื่องมือที่พร้อมรองรับ
เปลี่ยนถนนลูกรัง ให้เป็นถนนแห่งความหวัง
ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นและพร้อมสู้เพื่อส่วนรวม “กัน จอมพลัง” จึงตัดสินใจนำมูลนิธิของเขา ร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะ “แบงทรัพย์ทรายทอง” ลงพื้นที่เพื่อปรับปรุงถนนเส้นดังกล่าวอย่างจริงจัง
จากถนนลูกรังที่เคยใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมงเต็ม ในการขึ้นสู่ฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ วันนี้ได้ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นถนนที่ได้รับการปรับเกรดและปูหินอย่างแข็งแรง ส่งผลให้ระยะเวลาในการเดินทางลดลงเหลือเพียง 10 กว่านาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อระบบโลจิสติกส์ของกองกำลังชายแดน
ไม่เพียงเท่านั้น ความเจริญยังสามารถเดินทางเข้าสู่พื้นที่ห่างไกลได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม การศึกษา หรือแม้กระทั่งการเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งล้วนแต่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
บาดแผลในใจ กับการถูกห้ามเข้าประเทศเพื่อนบ้าน
แม้ภารกิจของเขาจะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อประชาชนชาวไทย แต่การถูกกัมพูชาสั่ง “แบน” ตลอดชีวิตยังคงเป็นบาดแผลทางใจที่ใหญ่หลวงสำหรับ “กัน จอมพลัง” เจ้าตัวโพสต์ข้อความว่า “อดไปดูความเจริญเลยครับ” ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกเสียดายที่เขาไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมเยือนประเทศเพื่อนบ้านที่เขาเคยเข้าไปทำกิจกรรมช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้งในอดีต
ความสัมพันธ์ระหว่าง “กัน จอมพลัง” กับประเทศกัมพูชาอาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังชัดเจนคือ เขาไม่เคยหยุดที่จะทำเพื่อมนุษย์ชาติ ไม่ว่าพรมแดนจะปิดกั้นเขาหรือไม่ก็ตาม
เมื่อ “พลังของประชาชน” สำคัญกว่าชื่อเสียงหรือผลประโยชน์
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา “กัน จอมพลัง” คือบุคคลหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ การส่งอาหารและของใช้จำเป็นให้ผู้ขาดแคลน หรือแม้แต่การยื่นมือเข้าไปในสถานการณ์ที่หลายคนเลือกจะเมินเฉย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ชื่อของเขายังคงได้รับการยอมรับจากประชาชนในหลายพื้นที่ แม้จะมีทั้งคำชื่นชมและคำวิจารณ์ในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ “กัน จอมพลัง” ยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชน และไม่เคยหลบหนีความจริง
บทเรียนจากการยืนหยัดของพลเมืองที่ไม่ยอมแพ้
กรณีของ “กัน จอมพลัง” ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของบุคคลหนึ่งที่ถูกห้ามเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นบทเรียนที่สะท้อนถึงพลังของความตั้งใจ ความกล้าหาญ และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง หรือขอบเขตของพรมแดน
ถนนที่เขาทำ อาจดูเป็นแค่ถนนเส้นหนึ่งในแผนที่ แต่ในความเป็นจริง มันคือ “สะพานแห่งศรัทธา” ที่เชื่อมโยงระหว่างทหาร ประชาชน และคนทำงานจิตอาสา
แม้จะถูกประกาศห้ามเข้าประเทศกัมพูชาอย่างถาวร แต่ “กัน จอมพลัง” ยังคงยืนหยัดในการเป็นผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ เขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับความเสียใจ แต่กลับเดินหน้าทำสิ่งดีๆ ต่อไป ด้วยหัวใจที่ยึดมั่นในหลักของความเสียสละ ความเสียสละที่ไม่ต้องการการยอมรับ แต่อยากเห็นแผ่นดินไทยมั่นคงและประชาชนอยู่ดีมีสุข
และนี่คือเหตุผลที่แม้พรมแดนจะปิดลง แต่หัวใจของนักสู้เพื่อประชาชนไม่มีวันถูกปิดกั้น...





















