Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กู้ซ้ำแล้วซ้ำอีก! เปิดรายชื่อเจ้าหนี้ 'กัมพูชา' – ไทยช่วยแล้วกี่รอบ

โพสท์โดย zzz1111

เปิดข้อมูลหนี้สาธารณะกัมพูชาในปี 2568 – จีนยังคงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ขณะที่ไทยเคยปล่อยกู้หลายครั้งเพื่อช่วยซ่อมถนน!

หลายคนอาจไม่เคยทราบว่า ประเทศไทยเคยมีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “กัมพูชา” ผ่านโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการปล่อยเงินกู้เพื่อใช้พัฒนา “ถนนสายสำคัญ” ที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ แต่รู้หรือไม่ว่าแม้ไทยจะเคยให้ความช่วยเหลือหลายครั้ง ทว่ากัมพูชากลับมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและบางครั้งมีเหตุการณ์ทำให้ต้องชะลอหรือยกเลิกข้อตกลง

เราจะพาย้อนกลับไปดูรายละเอียดโครงการเงินกู้ระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งเปิดรายชื่อเจ้าหนี้รายใหญ่ของกัมพูชาล่าสุดในปี 2568 ที่น่าตกใจคือ หนี้ของกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันเกือบทั้งหมดเป็น "หนี้ต่างประเทศ"

 

ย้อนรอยไทยปล่อยกู้ช่วย “กัมพูชา” พัฒนาเส้นทางถนน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2552 หรือกว่า 15 ปีก่อน รัฐบาลกัมพูชาในขณะนั้น ภายใต้การดูแลของ “กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง” ได้ลงนามขอกู้เงินจากรัฐบาลไทยเป็นจำนวน กว่า 1.4 พันล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ ซ่อมแซมถนนหมายเลข 68 ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่าง “จุดผ่านแดนช่องจอม” จังหวัดสุรินทร์ ของไทย ไปจนถึงจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา รวมระยะทางกว่า 113 กิโลเมตร

โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ช่วยให้การขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศในภูมิภาคอาเซียน

 

ความตึงเครียดเรื่อง “ปราสาทพระวิหาร” ส่งผลให้กัมพูชาขอยกเลิกข้อตกลง

แต่ทว่าหลังจากลงนามและเตรียมดำเนินโครงการได้ไม่นาน ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เกิดความตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับ “ปราสาทพระวิหาร” จนลุกลามกลายเป็นเหตุปะทะตามแนวชายแดน ทำให้บรรยากาศของการเจรจาทางการทูตย่ำแย่ลงอย่างชัดเจน

สุดท้าย “กัมพูชา” ได้ประกาศ ขอถอนตัวจากข้อตกลงเงินกู้ โดยให้เหตุผลว่า “มีเงินเพียงพอแล้ว” ทั้งที่ก่อนหน้านั้นประเทศไทยเคยให้ความช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้ง เช่น โครงการสร้างถนนหมายเลข 48 และ 67 เพื่อเชื่อมต่อระหว่างเมืองชายแดนและยกระดับระบบขนส่งภายในประเทศ

ปี 2562-2563 ไทยยังคงให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง

แม้จะเคยถูกถอนตัวจากข้อตกลงก่อนหน้า แต่ไทยก็ยังคงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับกัมพูชา โดยในปี 2562 - 2563 รัฐบาลไทยได้อนุมัติการปล่อยเงินกู้เพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นจำนวน กว่า 983 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงถนน หมายเลข 67 ในช่วง “เสียมราฐ - อลงเวง - โจนสังกาม”

ความพิเศษของสัญญาครั้งนี้คือ การตั้งเงื่อนไขที่ชัดเจนว่า วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างอย่างน้อย 50% ต้องนำเข้าจากไทย และบุคลากรทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ผู้รับเหมา วิศวกร ที่ปรึกษาโครงการ ต้องเป็นคนไทยทั้งหมด เพื่อสร้างรายได้กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยในทางอ้อม

 

หนี้กัมพูชาที่ต้องชำระคืนให้ไทย – ตัวเลขจริงเป็นอย่างไร?

สำหรับภาระหนี้ที่รัฐบาลกัมพูชาต้องทยอยชำระคืนประเทศไทยนั้น มีรายละเอียดดังนี้:

ปี 2557: กัมพูชาชำระเงินต้นเป็นจำนวน 5.21 ล้านดอลลาร์ พร้อมดอกเบี้ย 900,000 ดอลลาร์

ปี 2568 (ปีปัจจุบัน): ชำระเพิ่มอีก 1.72 ล้านดอลลาร์ พร้อมดอกเบี้ยตามที่กำหนดในสัญญา

ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า กัมพูชายังมีภาระหนี้กับประเทศเพื่อนบ้านอื่นอย่าง เวียดนาม ด้วย โดยมีจำนวนการชำระหนี้อยู่ที่ประมาณ 2.08 ล้านดอลลาร์ + ดอกเบี้ยอีก 330,000 ดอลลาร์

 

เปิดข้อมูลหนี้สาธารณะล่าสุดของกัมพูชาในปี 2568 – ใครคือเจ้าหนี้รายใหญ่?

จากรายงานของ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ประจำไตรมาสแรกของปี 2568 ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า “รัฐบาลกัมพูชา” มีหนี้สาธารณะรวมกว่า 12.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้ 99.96% เป็นหนี้ต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาเงินทุนจากนานาประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ

ต่อไปนี้คือ 10 อันดับเจ้าหนี้รายใหญ่ของกัมพูชา:

1. จีน – 3.981 พันล้านดอลลาร์ (ยังคงครองอันดับ 1)

2. ADB (ธนาคารพัฒนาเอเชีย) – 2.581 พันล้านดอลลาร์

3. ธนาคารโลก (World Bank) – 1.720 พันล้านดอลลาร์

4. ญี่ปุ่น – 1.328 พันล้านดอลลาร์

5. เกาหลีใต้ – 689 ล้านดอลลาร์

6. ฝรั่งเศส – 686 ล้านดอลลาร์

7. IFAD (กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร) – 170 ล้านดอลลาร์

8. AIIB (ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย) – 53.9 ล้านดอลลาร์

9. ประเทศไทย – 53.15 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.724 พันล้านบาท)

10. เยอรมนี – 15 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหนี้รายย่อยอื่นๆ เช่น เวียดนาม (7.29 ล้านดอลลาร์) และ อินเดีย (6.38 ล้านดอลลาร์) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีการกู้ยืมจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

วิเคราะห์: กัมพูชาจะรับมือกับภาระหนี้ในอนาคตอย่างไร?

แม้กัมพูชาจะสามารถเข้าถึงเงินทุนต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสัดส่วนหนี้ต่างประเทศที่สูงถึงเกือบ 100% ของหนี้สาธารณะทั้งหมด ย่อมสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรือมีเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้ประเทศเจ้าหนี้ถอนตัวหรือเพิ่มเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น

สำหรับประเทศไทย แม้จะเป็นเจ้าหนี้อันดับล่างๆ เมื่อเทียบกับจีนหรือ ADB แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในด้าน “การเชื่อมโยงคมนาคมข้ามแดน” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนและการค้าอย่างมาก

 

สรุป

แม้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในบางช่วงเวลาจะมีความตึงเครียด แต่ในภาพรวมประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของเงินกู้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการค้า

ขณะเดียวกัน สถานะหนี้ของกัมพูชาที่พุ่งทะลุ 12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 ก็น่าจับตามองว่ารัฐบาลกัมพูชาจะสามารถบริหารจัดการหนี้เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะยังคงได้รับความไว้วางใจจากเจ้าหนี้ต่างประเทศต่อไปได้อีกนานแค่ไหน

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Thorsten
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
งานเข้า..! “แวนด้า” แรปเปอร์ชื่อดังเขมร ปากดีเกินเหตุ ถูกโค๊กเด้งพ้นเก้าอี้พรีเซนเตอร์ ฮุนเซนเดือดจัดทหารกัมพูชาจับคนไทยลักลอบข้ามแดน 5 รายโค้กปลด “แวนด้า” จากพรีเซ็นเตอร์! ฮุนเซนร้อนใจ วอนชาวเขมรอย่าคว่ำบาตรทำไมรัฐบาลถึงต้องเชิญ "ไมเคิล ฝรั่งขี้นก" ที่ไม่ใช่นักข่าวจริงเข้ามาด้วย เชิญมาทำไมเลขเด็ด "หวยปฏิทินจีน" งวดวันที่ 1 กันยายน 68..คอหวยห้ามพลาด!หลักเขตแดน SIAM เขมรบอก SIAM ไม่ใช่ THAI ทั้งที่ทั่วโลกเขาเรียกไทว่าสยามอินฟลูเอนเซนร์ชื่อดังของเขมรลงทุนซื้อมาม่าคัพ 5 แพค 400-500 บาทถ่ายคลิปสั้นๆ ทำคอนเท้นต์เผาทิ้งจับได้คาหนังคาเขา ทหารเขมรวางทุ่นระเบิด-รื้อรั้วลวดหนามไทย งานนี้หลักฐานแน่นหนีไม่รอดมาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 1 กันยายน 68..รีบส่องด่วน!!สาระน่าสนใจ "ต้นเมงเกริส" หรือ "Koompassia excelsa" ต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลขเด็ดปฏิทิน "หลวงพ่อรวย" งวดวันที่ 1 กันยายน 68..เลขเด่นมาแรง รีบส่องเลย!ไวรัลวันพระ เปิดภาพมัดรวมพระสายปฏิบัติ 16 รูป ศรัทธาล้นโซเชียล
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
งานเข้า..! “แวนด้า” แรปเปอร์ชื่อดังเขมร ปากดีเกินเหตุ ถูกโค๊กเด้งพ้นเก้าอี้พรีเซนเตอร์ ฮุนเซนเดือดจัดอินฟลูฯ เขมรสร้างดราม่า! ซื้อ "มาม่าคัพ" 5 แพคเผาทิ้งโชว์ แบนสินค้าไทย ยอดวิวพุ่งเกือบ 4 แสน แต่รายได้เข้ากระเป๋าเต็ม ๆเนยถั่วอันตราย? สาวป่วยมะเร็งตับใหญ่ไร้ปัจจัยเสี่ยง เปิดสาเหตุแท้จริงจาก "อาหารเช้า" ที่กิน 20 ปีหลักเขตแดน SIAM เขมรบอก SIAM ไม่ใช่ THAI ทั้งที่ทั่วโลกเขาเรียกไทว่าสยามสาระน่าสนใจ "ต้นเมงเกริส" หรือ "Koompassia excelsa" ต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อนันดา ประกาศข่าวดีกำลังมีทายาทคนแรก หลังภรรยาสาวตั้งท้องแล้ว!!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
โค้กปลด “แวนด้า” จากพรีเซ็นเตอร์! ฮุนเซนร้อนใจ วอนชาวเขมรอย่าคว่ำบาตรอินฟลูฯ เขมรสร้างดราม่า! ซื้อ "มาม่าคัพ" 5 แพคเผาทิ้งโชว์ แบนสินค้าไทย ยอดวิวพุ่งเกือบ 4 แสน แต่รายได้เข้ากระเป๋าเต็ม ๆทำไมรัฐบาลถึงต้องเชิญ "ไมเคิล ฝรั่งขี้นก" ที่ไม่ใช่นักข่าวจริงเข้ามาด้วย เชิญมาทำไมกัมพูชาเตือนประชาชนระวังข่าวปลอม แนะฟังข่าวจากผู้นำ-ทีมโฆษกฯ เท่านั้น
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง