เวย ตงอี้ อัจฉริยะคณิตศาสตร์ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่ายจนสร้างความฮือฮาบนโลกออนไลน์
ท่ามกลางกระแสของโลกยุคใหม่ที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความหรูหราและวัตถุนิยม แต่กลับมีบุคคลหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสวนทางกับรายได้มหาศาลและความสำเร็จทางวิชาการอย่างสิ้นเชิง จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ นั่นคือ เวย ตงอี้ (Wei Dongyi) อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ชาวจีนวัย 33 ปี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ผู้ได้รับฉายาว่า "พระเจ้าเวย"
แม้จะมีรายได้ต่อปีสูงถึง 600,000 หยวน (ประมาณ 3 ล้านบาท) แต่เวย ตงอี้ กลับใช้ชีวิตอย่างสมถะอย่างไม่น่าเชื่อ มีรายงานว่าเขาใช้จ่ายเพียงไม่ถึง 300 หยวน (ประมาณ 1,500 บาท) ต่อเดือนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูง การใช้ชีวิตที่สวนทางกับสถานะทางสังคมและวิชาการของเขาทำให้ผู้คนบนอินเทอร์เน็ตพากันประหลาดใจและชื่นชมในความมุ่งมั่นของเขา
เวย ตงอี้ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อปี 2021 จากบทสัมภาษณ์ข้างถนนที่เผยให้เห็นภาพของเขาในชุดเสื้อผ้าที่ดูเก่า สวมแว่นตา และถือขวดน้ำพลาสติกกับถุงพลาสติกบรรจุซาลาเปาสามลูก แม้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาอาจดูไม่เหมือนอาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ความอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ของเขานั้นเป็นที่ประจักษ์ เขากวาดเหรียญทองจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ (IMO) สองปีซ้อนด้วยคะแนนเต็ม และสามารถเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งได้โดยไม่ต้องสอบเข้า
ล่าสุด เวย ตงอี้ ได้เปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย Douyin (TikTok ของจีน) เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับความสนใจอย่างถล่มทลาย มียอดผู้ติดตามกว่า 23 ล้านคนภายในเวลาเพียง 5 วัน แม้ว่าในวิดีโอแนะนำตัวสั้น ๆ เพียง 4 วินาที จะทำให้ผู้คนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพฟันและรูปร่างที่ผอมบางของเขา แต่ความเรียบง่ายและมุ่งมั่นในโลกของตัวเลขและสูตรคณิตศาสตร์ของเขากลับเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมาก
ญาติของเวย ตงอี้ เปิดเผยว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือกและเป็นมังสวิรัติตั้งแต่เด็ก แต่ยังคงได้รับโปรตีนจากไข่และนม ครอบครัวของเขายังคงสนับสนุนให้เขารักษาสุขภาพและมีกิจกรรมที่กระตือรือร้น แม้จะได้รับความสนใจจากสาธารณะอย่างมาก แต่เวย ตงอี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ เพียงแค่หวังที่จะแบ่งปันความรู้ทางคณิตศาสตร์ผ่านแพลตฟอร์มนี้
กรณีของเวย ตงอี้ สะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จในชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหรูหราหรือวัตถุนิยมเสมอไป แต่คือการได้ทำในสิ่งที่รักและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในโลกของตัวเองอย่างแท้จริง การใช้ชีวิตที่สมถะของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของการใช้ชีวิต ซึ่งอยู่เหนือกว่ากระแสบริโภคนิยมในปัจจุบัน
















