อดีตประธานาธิบดีนิการากัวเสียชีวิตแล้ว
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] อดีตประธานาธิบดี "วิโอเลตา ชามอร์โร" อดีตผู้นำของนิการากัว ซึ่งเป็นผู้ที่นำสันติภาพมาสู่นิการากัว หลังสงครามยาวนานหลายปี และ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในทวีปอเมริกา ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 95 ปี โดยก่อนหน้านี้ เธอป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์...
"วิโอเลตา ชามอร์โร" ปกครองประเทศอเมริกากลางที่ยากจนแห่งนี้ ระหว่างปี 1990 ถึง 1997 เธอเสียชีวิตอย่างสงบ โดยได้รับความรักและความเอาใจใส่จากลูกๆของเธอ
ในฐานะประธานาธิบดี "วิโอเลตา ชามอร์โร" ยุติสงครามกลางเมืองที่โหมกระหน่ำ ตลอดช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อกลุ่มกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "กลุ่มคอนทรา" ต่อสู้กับรัฐบาลซันดินิสตาฝ่ายซ้าย ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้ประเทศนิการากัว กลายเป็นสมรภูมิตัวแทนที่สำคัญแห่งหนึ่งของสงครามเย็น
"วิโอเลตา ชามอร์โร" นำประเทศของเธอเข้าสู่เส้นทางสู่ประชาธิปไตย ในช่วงหลายปีที่ยากลำบากหลังจากการปฏิวัติซันดินิสตาในปี 1979 ซึ่งล้มล้างระบอบการปกครองฝ่ายขวา ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ของประธานาธิบดี "อนาสตาซิโอ โซโมซา" ของนิการากัวในขณะนั้น
ในประเทศที่รู้จักกันดีว่า มีวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ชาวชามอร์โรมีสไตล์ความเป็นแม่ และ ขึ้นชื่อในเรื่องความอดทน และ ความปรารถนาในการปรองดอง และ เมื่อ "วิโอเลตา ชามอร์โร" ชนะการเลือกตั้งในปี 1990 ในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เธอเอาชนะ "ดาเนียล ออร์เตกา" ผู้นำกองโจรซันดินิสตา และ เธอก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเธอปกครองประเทศมาเป็นเวลา 17 ปีเต็ม และ เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากรัฐบาล และ กลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า ได้ทำลายเสรีภาพส่วนบุคคล ความขัดแย้งทางการเมืองทั้งหมด และ ความเป็นอิสระของระบบตุลาการด้วยการปกครองแบบเผด็จการ
"ดาเนียลออร์เตกา" และ "โรซาริโอ มูริลโล" ภรรยาของเขา ซึ่งพวกเขาต่างมีตำแหน่งประธานาธิบดีร่วม กล่าวว่า ""วิโอเลตา ชามอร์โร" เป็นตัวแทนของการสนับสนุนสันติภาพ ที่จำเป็นในประเทศของเรา"
นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง "เฟลิกซ์ มาดาริอากา" ซึ่งเป็นชาวนิการากัวที่อาศัยอยู่ในอเมริกา กล่าวว่า "เธอเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่าน จากสงครามสู่สันติภาพ เธอเยียวยาประเทศที่ถูกทำลายจากสงคราม ซึ่งทำให้เห็นว่า เกิดความแตกต่างในประเทศของเธอ กับออร์เตกาอย่างชัดเจนและลึกซึ้ง"
ในปี 1990 "วิโอเลตา ชามอร์โร" ทำให้ประเทศตกตะลึง ด้วยการชนะการเลือกตั้ง เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ซึ่งเอาชนะออร์เตกา ที่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล 14 พรรค ไปอย่างขาดลอย












