ครูพี่เลี้ยงถูกพักงาน ปมพาน้องโอเว่นวัย 10 ขวบหายตัว ยันบริสุทธิ์ใจ รักเหมือนลูกศิษย์ ไม่ใช่ในเชิงชู้สาว

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตกใจในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อน้องโอเว่น เด็กชายวัย 10 ปี หายตัวไปจากบ้านพักในตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง ผู้ปกครองรีบแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และการสืบสวนเริ่มต้นจากหลักฐานกล้องวงจรปิดในพื้นที่

กล้องวงจรปิดเผยเหตุการณ์

ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายวัยรุ่นรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 17-18 ปี สวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีขาว-แดง มาจอดหน้าบ้านของน้องโอเว่น ก่อนเรียกน้องขึ้นรถจักรยานยนต์และขับออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้ครอบครัวอย่างมาก

ติดตามตัวพบอยู่กับครูพี่เลี้ยง

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามน้องโอเว่น พบว่าน้องอยู่ในความดูแลของครูพี่เลี้ยงสาววัย 19 ปี ซึ่งเป็นครูประจำโรงเรียนของน้องโอเว่นเอง เธอให้การว่าที่พาน้องมาบ้าน เพราะน้องโทรมาขอให้ไปรับ โดยอ้างว่าขออนุญาตพ่อแม่แล้ว เธอจึงตัดสินใจขี่รถไปรับน้องมา โดยไม่ได้คิดว่าการกระทำนี้จะนำมาซึ่งความเข้าใจผิด

เปิดใจครูพี่เลี้ยง

ครูพี่เลี้ยงให้การว่า เธอพาน้องโอเว่นกลับมาที่บ้านของตัวเอง ซึ่งมีมารดาของเธออยู่ด้วย และในระหว่างที่นั่งทานข้าวกันอยู่นั้น น้องโอเว่นเห็นข่าวของตัวเองจากโทรศัพท์มือถือที่รายงานว่าเขาหายตัวไป น้องเกิดความตื่นกลัวและตัดสินใจเดินออกจากบ้านไปขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาชายที่หอพักใกล้เคียง

ครูพี่เลี้ยงถูกพักงาน

หลังจากเหตุการณ์นี้ โรงเรียนได้สั่งพักงานครูพี่เลี้ยงทันที ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเธอได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาว่า เธอไม่ได้มีเจตนาร้าย และไม่ได้ลักพาตัวเด็กชายแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่ารักน้องโอเว่นเหมือนลูกศิษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ในเชิงชู้สาว เธอยังฝากข้อความถึงน้องโอเว่นว่า “สักวันเราจะต้องได้พบเจอกันอีก ฉันขอให้เธอตั้งใจเรียนและเติบโตเป็นคนดี”

คำให้การของน้องโอเว่น

ด้านน้องโอเว่นให้ข้อมูลว่า ในวันที่เขาหายตัวไป มีคนขี่รถจักรยานยนต์มารับ โดยพูดข่มขู่ว่า "ถ้าไม่ขึ้นมาจะฆ่า" ทำให้น้องต้องยอมขึ้นรถ จากนั้นเขาถูกพาไปยังพื้นที่ป่าห่างไกล ก่อนจะถูกพาตัวไปยังบ้านของครูพี่เลี้ยง

ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อสรุปข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงพิจารณาว่าจะมีการดำเนินคดีกับครูพี่เลี้ยงหรือไม่

ข้อคิดจากเหตุการณ์

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กในชุมชน ผู้ปกครองและครูควรเพิ่มความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับการสื่อสารระหว่างกันเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต

เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าคลี่คลายคดีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่อไป