จากข่าว ฝรั่งคลั่งจี้เมียคนไทยขับรถหนีกู้ภัย สุดท้ายโอละพ่อ เมียเสียงอ่อย เมาไวน์จะกระโดดรถเอง ขอโทษที่ทำให้วุ่นวาย
ความคืบหน้ากรณี โซเชียลมีการแชร์เรื่องราว เหตุชาวต่างชาติคลั่ง จี้ภรรยาคนไทย จาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ขาเข้ากรุงเทพ เจ้าหน้าที่เร่งติดตามและช่วยเหลือ เบื้องต้นในรถมีเด็ก 2 คน รถคันที่ตามเป็นรถกู้ภัยติดสัญญาณไฟ แฟนเจ้าของรถขับมาผู้หญิงสองคน มาเจอเหตุตรงบ้านพระรักษ์ ขับตามกันมาซักพักตามในคลิป คันก่อเหตุเหยียบหนีตามไม่ทันในภายหลัง ประสานงานตำรวจช่วยสกัดจับเป็นระยะ
เส้นทางในคลิปเป็นเส้นทางจากหลังสวนมุ่งหน้าไปพะโต๊ะ รถกู้ภัยขับตามไปถึงโรงน้ำแข็งเจ๊นิดบ้านพระรักษ์ แล้วโดนฝรั่งชักปืนข่มขู่ หลังจากนั้นฝรั่งกลับหัวรถมาทางหลังสวนด้วยความเร็ว รถกู้ภัยขับตามมาไม่ทัน ในรถมีทั้งหมด 4 คน เด็ก 2 คน ทั้งนี้ตลอดช่วงบ่ายวันนี้ ( 17 ม.ค.) ตำรวจชุมพร ตั้งด่านบนถนนเอเชีย 41 และ ถนนเพชรเกษม ทั้งช่องทางขาขึ้นและขาล่องใต้ เพื่อ สกัดจับ ชาวต่างชาติ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้หญืงสาวรายหนึ่ง คาดว่าเป็นภรรยา บังคับพาขึ้นรถ กระบะฟอร์ด 4 ประตู สีดำ ทะเบียน ขท 2195 อุดรธานี เหตุเกิด ในพื้น อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายซานโคร แชร์เรอร์ และนางสาวละมัย ได้แล้ว ที่บริเวณพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลนาขา อำเภอหลังสวน บริเวณหน้าสถานีรถไฟควนหินมุ้ย ซึ่งจากการสอบถามนางละมัย ภรรยาของนายซานโครเปิดเผยว่า ตนและสามีได้มาจากโคราช มุ่งหน้าจะไปจังหวัดกระบี่เพื่อไปหาแม่ของสามีที่มาจากสวิสเซอร์แลนด์ และในระหว่างทางนั้นได้เกิดมีปากเสียงกันมาตลอด เนื่องจากฝ่ายชายมีความหึงหวงคิดว่าตนเองมีชู้ เมื่อเกิดการทะเลาะกันบนรถ ฝ่ายชายได้โยนโทรศัพท์ตนเองทิ้ง ตนทนไม่ไหวจึงได้ขอลงระหว่างทาง แต่ทางด้านสามีไม่ยอมให้ลงจากรถ ผนวกกับตนเองได้ดื่มไวน์ไปจึงทำให้อาการมึนเมา จึงทำให้ตัดสินใจที่จะกระโดนลงจากรถ นางสาวละมัย ยังเปิดเผยต่ออีกว่า ในระหว่างที่ตนกำลังจะกระโดดลงจารถนั้น ได้มีรถกู้ภัยพยายามจะเข้าช่วยเหลือ แต่ทางฝ่ายชายพยายามขับรถหนี และขับวนไปวนมาเนื่องจากไม่รู้เส้นทาง จนเจอจุดสกัดและถูกตำรวจควบคุมตัวได้ ซึ่งในรถได้มีลูกชายของตนมาด้วยอีก 1 คน และไม่ได้มีอาวุธแต่อย่างใด ในส่วนของฝ่ายชายนั้น นางสาวละมัยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้ดื่มไวน์ หรือเสพยาเสพติดแต่อย่างใด และนางสาวละมัย ยังได้ยกมือไหว้เพื่อขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในครั้งนี้