วัวกระโจนใส่เก๋งสาว วัวเจ็บ รถพัง เจ้าของวัวหายเข้ากลีบเมฆ
วัวกระโจนใส่เก๋งสาว วัวเจ็บ รถพัง เจ้าของวัวหายเข้ากลีบเมฆ
เมื่อช่วงค่ำ
วันที่ 17 มกราคม 2568 พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจงเหตุฝูงวัวกระโจนใส่รถยนต์เก๋งได้รับความเสียหาย บนถนนอ้อมค่าย ต.ปากพูน อ.เมือง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุบนถนนอ้อมค่าย ฝั่งเข้าเมือง ใกล้ปั้มน้ำมันเชลล์ บริเวณกลางถนนช่องจราจรเลนขวาพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าสีขาว ทะเบียนนครศรีธรรมราช สภาพหน้าห้องเครื่องพังยับ ส่วนคนขับทราบชื่อนางสาวสุนิสา อายุ 32 ปี ยังอยู่ในอาการตกใจกลัว ก่อนให้การกับตำรวจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า มีฝูงวัวหลายตัว กระโจนลงกลางถนนขวางรถของตนที่กำลังขับมาบนถนน แต่มีวัว 2 ตัว ที่กระโจนใส่รถยนต์เก๋งของตนเสียกาย ก่อนที่ฝูงวัวจะแตกฮือวิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจท่าแพ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ จึงรีบเดินทางเข้าตรวจสอบจุดที่ฝูงวัววิ่งหนี ซึ่งอยู่ห่างจากริมถนนอ้อมค่าย 800 เมตร พบวัว เพศผู้ สีน้ำตาล อายุ 4 – 5 ปี สภาพมีบาดแผลร่องรอยถูกรถชนที่ขาซ้ายหลัง และหาง เลือดไหลซิบ ส่วนอีกตัวมีร่องรอยถูกรถชนเช่นกัน ซึ่งอยู่ห่างกับวัวตัวแรกประมาณ 100 เมตร ซึ่งตำรวจตรวจสอบคอกวัวดังกล่าว พบว่ามีบังดีน เป็นผู้ดูแล แต่เบื้องต้นบังดีน ปฏิเสธวัวทั้ง 2 ตัว ไม่ใช่ของตน โดยคอกวัวดังกล่าว มีเจ้าของวัวหลายคน นำวัวมาฝากเลี้ยง สุดท้ายไม่มีใครรับวัวทั้ง 2 ตัวเป็นเจ้าของ ตำรวจจึงตรวจยึดวัวทั้ง 2 ตัว เป็นของกลาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางสาวสุนิสา ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาบนถนนอ้อมค่าย โดยขับด้วยความเร็วปกติในช่องจราจรขวา เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีฝูงวัวหลายตัว กระโจนออกจากริมถนนฝั่งตรงข้าม ตัดหน้ารถยนต์เก๋งของตน พยายามเบรกรถและหักหลบแล้ว แต่ไม่ทัน จึงถูกวัว 2 ตัว กระโจนใส่หน้าห้องเครื่องรถเสียหาย นอกจากนี้ฝูงวัวยังกระโจนใส่รถยนต์ของทหารอีกคันหนึ่งด้วย ก่อนที่ฝูงวัวทั้งหมดวิ่งกรูลงข้างทางหายเข้าไปในป่า ทหารและตน รวมทั้งตำรวจสายตรวจท่าแพ จึงรีบวิ่งติดตามฝูงวัวดังกล่าว ยอมรับว่ายังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บใด มีเพียงรถเสียหาย